GOLDพรีเซล9เดือนโต37% แตะ 1.6 หมื่นล้าน จ่อเปิด 7 โครงการ Q4
“GOLD” กวาดยอดขาย 9 เดือนแรก 16,000 ล้านบาท โต 37% โชว์แบ็กล็อก 3,700 ล้านบาท เล็งเปิดทาวน์โฮม-บ้านเดี่ยว 7 โครงการใหม่ มูลค่ารวม 5,800 ล้านบาท ในไตรมาส 4/60
นายแสนผิน สุขี กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท แผ่นดินทอง พร็อพเพอร์ตี้ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) หรือ GOLD เปิดเผยว่า บริษัทมั่นใจยอดขาย (Presale) ในปีนี้ จะเติบโตได้ตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ที่ 20,000 ล้านบาท โดยในช่วง 9 เดือนแรก (ม.ค.-ก.ย.) บริษัทมียอดขายแล้ว 16,000 ล้านบาท ส่งผลให้ล่าสุดบริษัทมียอดขายรอโอน (Backlog) ในมือมูลค่ารวมกว่า 3,700 ล้านบาท จะทยอยรับรู้อย่างต่อเนื่อง
ทั้งนี้ ยอดขายในช่วง 9 เดือนแรกที่ 16,000 ล้านบาท คิดเป็น 80% ของเป้าหมายยอดขายทั้งปีที่ 20,000 ล้านบาท และมีอัตราการเติบโตขึ้นกว่า 37% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มียอดขาย 11,644 ล้านบาท ซึ่งยอดขายดังกล่าวเป็นยอดขายจากโครงการแนวราบทั้งหมด
โดยในช่วงที่ผ่านมาบริษัทได้เปิดขายโครงการใหม่แล้ว จำนวน 5 โครงการ มูลค่าโครงการรวม 4,525 ล้านบาท ได้แก่ 1.โครงการโกลเด้น ทาวน์ ๒ สุขสวัสดิ์-พุทธบูชา เป็นโครงการทาวน์โฮม มูลค่าโครงการ 837 ล้านบาท ปัจจุบันปิดการขายแล้ว 100%, 2.โครงการ โกลเด้น ทาวน์ ศรีราชา-อัสสัมชัญ มูลค่าโครงการ 1,123 ล้านบาท ปัจจุบันมียอดขายแล้ว 711 ล้านบาท
3.โครงการ โกลเด้น นีโอ ลาดพร้าว-เกษตรนวมินทร์ เป็นโครงการบ้านแฝด มูลค่าโครงการ 770 ล้านบาท ปัจจุบันมียอดขายแล้ว 600 ล้านบาท, 4.โครงการ โกลเด้น ทาวน์ ๒ ลาดพร้าว–เกษตรนวมินทร์ เป็นโครงการทาวน์โฮม มูลค่าโครงการ 1,111 ล้านบาท ปัจจุบันมียอดขายแล้ว 925 ล้านบาท และ 5.โครงการ โกลเด้น ทาวน์ รัตนาธิเบศร์-สถานีรถไฟฟ้าไทรม้า เป็นโครงการทาวน์โฮม มูลค่าโครงการ 672 ล้านบาท ปัจจุบันมียอดขายแล้ว กว่า 400 ล้านบาท
สำหรับในช่วงไตรมาส 4/60 บริษัทมีแผนเปิดขายโครงการใหม่ จำนวน 7 โครงการ มูลค่าโครงการรวม 5,800 ล้านบาท เป็นโครงการทาวน์โฮม จำนวน 6 โครงการ และโครงการบ้านเดี่ยว จำนวน 1 โครงการ ซึ่งจะทยอยเปิดตัวตั้งแต่ช่วงปลายเดือนตุลาคมนี้
อย่างไรก็ตาม ในช่วงที่ผ่านมาบริษัทได้ปรับลดการเปิดตัวโครงการใหม่เหลือ 15 โครงการ มูลค่าโครงการรวม 14,000 ล้านบาท แบ่งเป็น โครงการทาวน์โฮม จำนวน 13 โครงการ, โครงการบ้านแฝด จำนวน 1 โครงการ และโครงการบ้านเดี่ยว จำนวน 1 โครงการ จากแผนเดิมที่จะเปิดตัวโครงการใหม่รวม 21 โครงการ มูลค่าโครงการรวมประมาณ 21,000 ล้านบาท เนื่องจากยอดขายในครึ่งปีแรกทำได้เกินเป้าหมาย และบางโครงการยังไม่สามารถเข้าพื้นที่ได้ เพราะติดปัญหาผู้พักอาศัยเดิมยังไม่ย้ายออก
“ภาพรวมธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในช่วงนี้มีแนวโน้มที่จะดีขึ้น และในภาวะชะลอตัวโครงการบ้านแนวราบ ซึ่งมีกลุ่มความต้องการจริง ยังไปได้ในหลายทำเล เช่น โซนลาดพร้าว, เกษตรนวมินทร์, พระราม 2, สุขสวัสดิ์ และฝั่งตะวันออกของกรุงเทพฯ ยังมีความต้องการที่อยู่อาศัยต่อเนื่อง สะท้อนได้จากยอดขายโครงการของบริษัทในทำเลดังกล่าวตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา ที่ทำได้เกินกว่าเป้าหมาย โดยผู้ประกอบการทุกรายจะเร่งทำตลาดในช่วงปลายปีก็จะยิ่งทำให้คึกคักขึ้น” นายแสนผิน กล่าว