MQDCรุกธุรกิจดูแลผู้สูงวัยผุด แอสเพน บริการครบวงจร
Loading

MQDCรุกธุรกิจดูแลผู้สูงวัยผุด แอสเพน บริการครบวงจร

วันที่ : 20 ตุลาคม 2560
MQDCรุกธุรกิจดูแลผู้สูงวัยผุด แอสเพน บริการครบวงจร

นายวิสิษฐ์ มาลัยศิริรัตน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แมกโนเลีย ควอลิตี้ ดีเวล็อปเม้นต์ คอร์ปอเรชั่น (MQDC) กล่าวว่า ได้เปิดตัวบริษัท "บริษัท แอสเพน คอร์ ปอเรชั่น จำกัด" เพื่อให้บริการดูแลผู้สูงวัย และมีแผนจะเปิดตัวโครงการที่พักอาศัย และบริการครบวงจร เพื่อ รุกธุรกิจดูแลผู้สูงอายุครบวงจร โดย "แอสเพน" คอร์ ปอเรชั่น จำกัด จะตอบโจทย์ของสังคมผู้สูงวัยในประเทศ ไทย ซึ่งปัจจุบันยังไม่เพียงพอต่อความต้องการ

"ปัจจุบัน ตลาดอสังหาฯ เพื่อผู้สูงวัยในประเทศ ไทย ได้จำกัดทางเลือกสำหรับผู้สูงอายุ และคนวัย เกษียณ ด้วยรูปแบบการ พัฒนาโครงการในประเภท รีสอร์ต ซึ่งไม่มีการให้บริการแบบครบวงจร หรือประเภทเนอร์สซิ่งโฮม ซึ่งไม่มีสิ่งอำนวยความสะดวกด้านไลฟ์สไตล์ ทั้งนี้ จากงานวิจัยพบว่า ผู้บริโภคให้ความสำคัญเรื่อง "aging in place" อย่างมาก โดยคนส่วนใหญ่ต้องการที่จะใช้ชีวิตในสถานที่ และสภาพแวดล้อมที่คุ้นเคย มากกว่าที่จะต้องย้ายสถานที่ เมื่อต้องการการดูแลเพิ่มมากขึ้น ดังนั้น การออกแบบและการให้บริการโดยผู้เชี่ยวชาญ จะเอื้อให้ผู้พักอาศัยสามารถใช้ชีวิตได้อย่างสะดวกสบายและปลอดภัยภายในบ้านของตัวเองได้อย่างยาวนานที่สุด"

ทั้งนี้ การที่ MQDC รุกเข้าสู่ธุรกิจดูแลผู้สูงอายุครบวงจร เพื่อให้สอดคล้องกับกลยุทธ์ด้าน "นวัตกรรมเพื่อความยั่งยืน" ของบริษัท ซึ่งมีการนำความรู้ด้านจิตวิทยา และผลงานวิจัยด้านต่างๆ มาผสมผสานกัน เพื่อสร้าง "ระบบนิเวศของมนุษย์" ที่จะเติมเต็มความต้องการของผู้คนในปัจจุบัน

นางสาว เฮ จูน พาร์ค ประธานผู้อำนวยการ บริษัท แอสเพน คอร์ปอเรชั่น จำกัด กล่าวว่า บริษัทจะสร้างสภาพแวดล้อมที่สมบูรณ์แบบเสมือนกับการพักอาศัย

อยู่บ้านของตนเอง โดยจะออกแบบให้ผู้สูงวัยมีสังคม มีความสนุกสนาน และสามารถพึ่งพาตนเองได้ โดยการนำความรู้และแนวทางปฏิบัติที่ดีที่สุดทั่วโลก มาประยุกต์ใช้ให้เหมาะสม ซึ่งในการ ออกแบบได้นำแรงบันดาลใจจากครอบครัวมาสู่การมีปฏิสัมพันธ์เชื่อมต่อทางสังคม กับเพื่อนบ้าน และสังคมแวดล้อมมากขึ้นด้วย

ทั้งนี้ ธุรกิจการดูแลผู้สูงวัย มีตลาดที่เติบโตอย่างรวดเร็วในประเทศไทย โดยภายในปี 2583 มีการคาดการณ์ว่ามากกว่า 1 ใน 4 ของประชากรไทยจะมีอายุมากกว่า 65 ปี (ข้อมูลอ้างอิงจากการประมาณการณ์ของธนาคารโลก)

 
ที่มา : หนังสือพิมพ์บางกอกทูเดย์