PRINลั่นงบQ4โตสุดรอบปีนี้ โชว์ 9 เดือนโกยยอดขายกว่า 2.2 พันล้าน
Loading

PRINลั่นงบQ4โตสุดรอบปีนี้ โชว์ 9 เดือนโกยยอดขายกว่า 2.2 พันล้าน

วันที่ : 19 ตุลาคม 2560
PRINลั่นงบQ4โตสุดรอบปีนี้ โชว์ 9 เดือนโกยยอดขายกว่า 2.2 พันล้าน

ปริญสิริแย้มงบไตรมาส 4/60 โตสูงสุดรอบปีนี้ รับอานิสงส์ไฮซีซั่นธุรกิจ บุ๊คโอนบ้านและคอนโดมิเนียมพุ่ง ล่าสุดโชว์ยอดขาย 9 เดือนรวมกว่า 2,200 ล้านบาท คงเป้ารายได้รวมปีนี้โต 5.35% แตะ 3,200 ล้านบาท

นายชัยรัตน์ โกวิทจินดาชัย ผู้อำนวยการอาวุโส สำนักกรรมการผู้จัดการ บริษัท ปริญสิริ จำกัด (มหาชน) หรือ PRIN เปิดเผยว่า ยอดขาย (Presale) ในช่วง 9 เดือนที่ผ่านมา (ม.ค.-ก.ย.) บริษัทมียอดขายรวมแล้วที่กว่า 2,200 ล้านบาท โดยมาจากยอดขายโครงการแนวราบประมาณ 80% และอีกประมาณ 20% เป็นยอดขายจากโครงการคอนโดมิเนียม ซึ่งยอดขายส่วนใหญ่มาจากโครงการเดิมที่มีอยู่ในมือ

ขณะที่แนวโน้มผลประกอบการไตรมาส 3/60 น่าจะใกล้เคียงกับไตรมาส 2/60 ที่ผ่านมาที่มีรายได้รวม 875.98 ล้านบาท ขณะที่ยอดขายในช่วงไตรมาส 3/60 อยู่ที่ประมาณ 700 ล้านบาท ลดลงจากช่วงไตรมาสก่อน เนื่องจากบริษัทเน้นการโอนกรรมสิทธิ์โครงการเป็นหลัก

ส่วนแนวโน้มผลประกอบการในช่วงไตรมาส 4/60 น่าจะเป็นไตรมาสที่เติบโตสูงสุดของปี เนื่องจากเป็นช่วงไฮซีซั่นของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ โดยล่าสุดมียอดขายรอโอน (Backlog) อยู่ที่ประมาณ 140 ล้านบาท ซึ่งจะทยอยรับรู้รายได้ภายในระยะเวลา 3 เดือน อย่างไรก็ตามจะมียอด Backlog ใหม่ๆ เข้ามาทดแทนยอด Backlog เดิมที่ทยอยรับรู้อย่างต่อเนื่อง จากการขายโครงการในมือของบริษัท

นอกจากนี้ ปัจจุบันบริษัทมีสินค้าพร้อมโอน (สต๊อก) ในมือมูลค่ารวมหลักพันล้านบาท โดยจะมาจากโครงการแนวราบ ประมาณ 80% ของพอร์ตสินค้ารวม และจากโครงการคอนโดมิเนียมประมาณ 20% ของพอร์ตสินค้ารวม ซึ่งอยู่ระหว่างการขายและพัฒนา จะสร้างรายได้ให้กับบริษัทได้ทันทีหลังจากการขาย

แนวโน้มตลาดอสังหาริมทรัพย์ในช่วงไตรมาส 4/60 จะทรงตัว แม้ในช่วงเดือนตุลาคมจะมีปัจจัยภายในประเทศ ก็ไม่น่ากังวล เนื่องจากในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปีนี้บริษัทยังมีการทำกิจกรรมทางการตลาดอย่างต่อเนื่อง แม้ว่าไม่ใช่กิจกรรมใหญ่ที่บริษัทจัดก็ตามนายชัยรัตน์ กล่าว

ทั้งนี้ บริษัทยังคงเป้าหมายรายได้รวมในปีนี้จะอยู่ที่ 3,200 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 5.35% จากปีก่อนที่มีรายได้รวม 3,037.34 ล้านบาท ซึ่งในช่วงครึ่งปีแรกบริษัทมีรายได้รวมแล้ว 1,467.88 ล้านบาท คิดเป็นเกือบ 55% ของเป้าหมายทั้งปี เป็นผลมาจากบริษัทมีการส่งมอบโครงการให้กับลูกค้าอย่างต่อเนื่อง

สำหรับปัจจุบันบริษัทมีที่ดินเปล่าในมือ ทั้งที่อยู่ในทำเลเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล ซึ่งเพียงพอสามารถรองรับการพัฒนาโครงการใหม่ในช่วงระยะเวลาประมาณ 2-3 ปีข้างหน้า โดยจะผลักดันผลประกอบการของบริษัทให้เติบโตอย่างแข็งแกร่ง สร้างผลตอบแทนที่ดีให้กับผู้ถือหุ้นในอนาคต ทั้งนี้ บริษัทได้ตั้งงบซื้อที่ดินในปีนี้ไว้ที่ 1,000 ล้านบาทต่อปี แต่คาดจะใช้ไม่หมด เนื่องจากปัจจุบันยังไม่มีที่ดินที่มีศักยภาพ ตรงตามนโยบายของบริษัท

ขณะที่ในปีนี้บริษัทมีแผนจะเปิดโครงการใหม่ จำนวน 4 โครงการ มูลค่าโครงการรวมประมาณ 1,800 ล้านบาท ปัจจุบันยังไม่มีการเปิดตัวโครงการ และอาจจะเลื่อนเปิดตัวโครงการใหม่ไปเป็นปี 2561 แทน เนื่องจากภาวะตลาดสังหาริมทรัพย์ในปัจจุบันยังไม่เอื้อต่อการทำการตลาด

 
ที่มา : หนังสือพิมพ์ข่าวหุ้น