อสังหาฯ สูงวัย แตะ2หมื่นล้าน
ชี้จุดเปลี่ยนดีมานด์ที่อยู่อาศัย
กรุงเทพธุรกิจ-เทรนด์ที่อยู่อาศัยกลุ่มสูงวัยโต คาดลงทุนปีละ 1-2 หมื่นล้าน รับดีมานด์ไทยเข้าสู่สังคมสูงอายุ ชี้ทำเลหลักกรุงเทพฯ เจาะตลาดคนไทย เมืองท่องเที่ยว รองรับต่างชาติ ประเมิน 20 ปี ความต้องการแตะ 8 หมื่นหน่วย
นายสุรเชษฐ กองชีพ รองผู้อำนวยการ ฝ่ายวิจัยและพัฒนา บริษัท คอลลิเออร์ส อินเตอร์เนชั่นแนล (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่าจากการประเมินการลงทุนโครงการบ้านพักผู้สูงวัยปัจจุบัน คาดมีมูลค่า 1-2 หมื่นล้านบาท ต่อปี ไม่รวมธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับศูนย์เวลเนส ที่เปิดให้บริการในโรงพยาบาล ถือเป็นตลาดอสังหาริมทรัพย์ที่มีศักยภาพขยายตัวได้อีกมาก จากปัจจัยการเข้าสู่สังคมสูงวัยและความต้องการการดูแลในกลุ่มผู้สูงวัย
"อสังหาฯสูงวัย มีลูกค้าหลัก คือกลุ่มคนสูงวัยที่ซื้อเพื่ออยู่อาศัยเอง และลูกหลานที่ซื้อให้กับผู้สูงวัย ถือเป็นกลุ่มที่มีกำลังซื้อทั้งคู่" หากประเมินงบลงทุนต่อโครงการ เมื่อเทียบกับที่อยู่อาศัยทั่วไปในจำนวนยูนิตที่เท่ากัน มูลค่าการลงทุนที่พักผู้สูงวัย จะสูงกว่าเพราะต้องออกแบบมาตรฐานและจัดแบ่งโซนให้สอดรับกับกลุ่มเป้าหมาย รวมทั้งต้องกำหนดมาตรฐานและคุณภาพสินค้าที่สูงขึ้น ปัจจุบันมีผู้ประกอบการลงทุนพัฒนาโครงการประเภทนี้ 4-5 ราย หากมีกลุ่ม เป้าหมายคนไทย ทำเลอยู่ในกรุงเทพฯ และปริมณฑล หากกลุ่มเป้าหมายหลัก ต่างชาติ ทำเลโครงการจะอยู่ในเมืองท่องเที่ยวเป็นหลัก มองว่าช่วง 3 ปีจากนี้จะมีกลุ่มทุนสนใจพัฒนาโครงการบ้านพักผู้สูงวัย อย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้จะเห็นการร่วมมือเป็นพันธมิตรในการพัฒนาระหว่างดีเวลลอปเปอร์ที่มีความเชี่ยวชาญด้านการก่อสร้างที่พัก ร่วมมือกับผู้ประกอบการที่มี องค์ความรู้ด้านการดูแลผู้สูงวัยทั้งไทยและต่างประเทศ เช่น ความร่วมมือระหว่างธุรกิจโรงพยาบาลและผู้พัฒนาโครงการ
นางกมลภัทร แสวงกิจ ผู้จัดการใหญ่ ประจำประเทศไทย ดีดีพร็อพเพอร์ตี้ ในเครือพร็อพเพอร์ตี้กูรู กรุ๊ป กล่าวว่าจากผลสำรวจความคิดเห็นของผู้บริโภคต่อตลาดอสังหาฯ ช่วงครึ่งปีหลังของปี 2559 และช่วงครึ่งปีแรกของปี 2560 พบว่าเริ่มให้ความสำคัญที่อยู่อาศัยสำหรับผู้สูงอายุหรือเพื่อรองรับวัยเกษียณของตนเองในอนาคตเพิ่มมากขึ้นถึง 5% คาดว่าแนวโน้มดังกล่าวจะเพิ่มขึ้นอีกอย่างน้อย 5% ในการสำรวจรอบต่อไป การสำรวจความคิดเห็นของผู้บริโภคในทุกๆ 6 เดือน เชื่อว่าแนวโน้มความต้องการที่อยู่อาศัยสำหรับผู้สูงอายุจะยังคงเติบโตต่อเนื่อง ถือเป็นโอกาสของบรรดาผู้พัฒนาอสังหาฯ ที่ผ่านมาเริ่มเห็นดีเวลลอปเปอร์บางรายเบนเข็มการพัฒนาสินค้าเพื่อตอบโจทย์ความต้องการดังกล่าว มองว่าจะกลายเป็นเทรนด์สำคัญของธุรกิจอสังหาฯในไทยหลังจากนี้
นอกจากนี้จำนวนชาวต่างชาติ วัยเกษียณ อาทิ ญี่ปุ่น จีน และยุโรป มองหาที่อยู่อาศัยในไทยมีแนวโน้ม เพิ่มขึ้น เพราะไทยมีข้อได้เปรียบ เช่น บริการทางสุขภาพมาตรฐาน ระดับโลก ราคาที่อยู่อาศัยที่ยังถือว่าถูกกว่าประเทศอื่นๆ วัฒนธรรมที่เป็นมิตร ภูมิอากาศเขตร้อนที่ไม่หนาวเกินไป รวมไปถึงการขอวีซ่าสำหรับวัยเกษียณมีขั้นตอนไม่ยุ่งยาก ที่ผ่านมามีโครงการที่อยู่อาศัยสำหรับผู้สูงอายุเปิดตัวหลายพื้นที่ เช่น จ.ปทุมธานี, อ.บางเสร่ จ.ชลบุรี, เกาะสมุย, จ.เชียงใหม่ และ จ.ภูเก็ต และยังมีอีกหลายโครงการที่เตรียมจะเปิดตัวต่อเนื่อง
จากปัจจัยดังกล่าวมองว่า ความต้องการที่อยู่อาศัยของผู้สูงอายุที่เพิ่มขึ้น ส่งผลให้แนวโน้มการพัฒนาอสังหาฯ ในไทยจากนี้จะมุ่งตอบโจทย์ความต้องการดังกล่าวมากขึ้น คาดว่าในอีก 20 ปีข้างหน้าดีมานด์ในที่อยู่อาศัยสำหรับผู้สูงอายุจะมากถึง 80,000 ยูนิต