อานิสงส์รถไฟฟ้า-Facilities หนุนบางนา-สำโรงทำเลฮอต
Loading

อานิสงส์รถไฟฟ้า-Facilities หนุนบางนา-สำโรงทำเลฮอต

วันที่ : 2 ตุลาคม 2560
อานิสงส์รถไฟฟ้า-Facilities หนุนบางนา-สำโรงทำเลฮอต

บางนา-สำโรงขึ้นแท่นทำเลฮอต อานิสงส์รถไฟฟ้า 3 เส้นทาง สายสีเขียว สายสีเหลือง ไลท์เรล บางนา-ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ หนุนความต้องการที่อยู่อาศัยเพิ่ม รองรับคนทำงานในเมือง เผยอัตราการขายคอนโดฯสูง 73% หน่วยเหลือขาย 3,343 หน่วย

ทำเลบางนา-สำโรง กลายเป็นทำเลที่ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง นับตั้งแต่มีการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีเขียวส่วนต่อขยายอ่อนนุช-แบริ่ง และแบริ่ง-เคหะสมุทรปราการ โดยคาดว่าจะสามารถเปิดใช้บริการได้ครบทุกสถานีในเดือนธันวาคม 2561 ซึ่งเส้นทางรถไฟฟ้าสายสีเขียวถือว่าได้เปรียบและมีศักยภาพมากกว่าสายอื่นๆ คือเป็นเส้นทางที่เชื่อมต่อสู่ใจกลางเมือง ทองหล่อ อโศก เพลินจิต สยาม เข้าถึงแหล่งงานและสิ่งอำนวยความสะดวกในเมืองโดยไม่ต้องเปลี่ยนเส้นทาง

นอกจากนี้ สถานีสำโรงยังเป็นสถานีเชื่อมต่อรถไฟฟ้าสายสีเหลือง ลาดพร้าว-สำโรง ผ่านเส้นทางลาดพร้าว-บางกะปิ-ศรีนครินทร์-เทพารักษ์-สำโรง มีกำหนดแล้วเสร็จในปี 2563 ซึ่งเป็นย่านที่อยู่อาศัยสำคัญของกรุงเทพฯ และในอนาคตจะมีการก่อสร้างโครงการรถไฟฟ้ารางเบาเส้นบางนา-สนามบินสุวรรณภูมิ ซึ่งทำ 3 เส้นทางล้วนสนับสนุนให้ทำเลบางนา-สำโรงมีศักยภาพมายิ่งขึ้น

จากผลสำรวจของฝ่ายวิจัย บริษัท ไนท์แฟรงค์ ประเทศไทย จำกัด พบว่า คอนโดมิเนียม บริเวณสถานีบางนา-แบริ่ง-สำโรงมีอุปทานสะสมระหว่างปี 2555-ครึ่งปีแรก 2560 จำนวน 12,417 หน่วย ปัจจุบันมีหน่วยเหลือขายประมาณ 3,343 หน่วย คิดเป็นอัตราการขายร้อยละ 73 เติบโตต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2558 ซึ่งเป็นปีที่มีอุปทานใหม่เข้ามามากที่สุดประมาณ 4,300 หน่วย จะเห็นได้ว่าอัตราการดูดซับในทำเลยังนี้คงมีอยู่อย่างต่อเนื่อง ขณะที่คอนโดฯ ทำเลโดยรอบสถานีแบริ่ง ณ สิ้นไตรมาส 2/ 2560 มีอัตราการขายสูงถึงร้อยละ 83 มีอุปทานสะสม ทั้งสิ้น 6,430 หน่วย ปัจจุบันมีหน่วยเหลือขายเพียง 1,160 หน่วย ซึ่งสะท้อนถึงอัตราการขายสูงสุดในรอบ 5 ปี จะเห็นได้ว่าทำเลแบริ่งเป็นทำเลที่ได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่องจากอัตราการขายที่สูงกว่าร้อยละ 70 ตลอดระยะเวลา 5 ปี

ปัจจุบัน พบว่าราคาขายเฉลี่ยคอนโดมิเนียมบริเวณสถานีบางนา-แบริ่ง-สำโรงในซอยตึก Low-rise ตารางเมตรละ 70,000 บาท แต่หากเป็นตึกสูงในซอยราคาจะสูงกว่าประมาณ 28% หรือตารางเมตรละ 90,000 บาท ในขณะที่ราคาคอนโดตึกสูงริมถนนสุขุมวิทจะมีราคาสูงสุดที่ 110,000 บาทต่อตารางเมตร สูงกว่าคอนโด High-riseในซอย 28% และไม่พบคอนโด low-rise ริมถนนสุขุมวิท

นายพนม กาญจนเทียมเท่า กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไนท์แฟรงค์ ประเทศไทย จำกัด กล่าวว่า การพัฒนาคอนโดมิเนียมพักอาศัยในย่านสุขุมวิทตอนปลายแบริ่ง มี ศักยภาพในการขยายตัวและเติบโตได้ ทั้งตอบสนองความต้องการของคนทำงานในเมืองและคนทำงานในย่านสมุทรปราการ โดยบริเวณดังกล่าวจะได้ประโยชน์จาก 1. เส้นทางรถไฟฟ้าสายสีเขียว บีทีเอส ซึ่งเชื่อมต่อกับศูนย์กลางธุรกิจสำคัญย่านสุขุมวิท เพลินจิต สีลม และย่านการค้าสยาม โดยช่วยให้คนทำงานกลางเมืองเดินทางเข้าถึงแหล่งงานและแหล่งชอปปิ้งสำคัญย่านทองหล่อและสยามได้อย่างสะดวกรวดเร็ว เพียง 15-25 นาทีจากสถานีแบริ่งโดยไม่ต้องเปลี่ยนสาย ในขณะเดียวกันส่วนต่อขยายซึ่งจะเชื่อมต่อไปยังจังหวัดสมุทรปราการถึงบางปูก็จะช่วยให้คนที่ทำงานในย่านอุตสาหกรรมย่านบางปูก็ได้รับความสะดวกเช่นเดียวกันจากรถไฟฟ้าสายนี้

2. ต้นทุนที่ดิน  สิ่งที่สำคัญในการพัฒนาโครงการก็คือต้นทุนที่ดินในย่านนี้ ยังมีราคาที่สามารถจับต้องได้ ราคาไม่แพงจนเกินไป ซึ่งจะทำให้ราคาขายคอนโดในย่านนี้ยังมีราคาขายที่ไม่สูงมากเกินไป โดยคอนโดในละแวกนี้ราคาต่อหน่วยอยู่ที่ประมาณ 1.5-3.5 ล้านบาท ในขณะที่ทำเลตามแนวสุขุมวิทตั้งแต่บางนาถึงอโศก คอนโดใหม่ในพื้นที่โดยรอบสถานีรถไฟฟ้าในราคา 1.5-2.5 ล้านบาท ไม่สามารถหาได้แล้ว ด้วยราคาต่อยูนิตที่ไม่สูงทำให้ยอดผ่อนชำระกับธนาคารเดือนละประมาณ 10,000 บาทต้นๆ ตอบโจทย์ความต้องการของพนักงานออฟฟิศใจกลางเมือง

3.  เป็นย่านที่พัฒนาแล้ว มีสาธารณูปโภคและบริการสาธารณะครบถ้วน มีโครงการพัฒนาเชิงพาณิชย์หลายโครงการ เช่นศูนย์แสดงสินค้าไบเทค โครงการอาคารสำนักงาน ภิรัชทาวเวอร์ โครงการบางกอกมอลล์ซึ่งเป็นศูนย์การค้าขนาดใหญ่มาก พัฒนาโดยกลุ่มเดอะมอลล์ เป็นโครงการ mixed-use ขนาดใหญ่ บริเวณจุดตัดถนนบางนาตราด-สุขุมวิท บนเนื้อที่ 100 กว่าไร่ โดยจะพัฒนาเป็นศูนย์การค้า โรงแรม และเซอร์วิสอพาร์ตเมนต์ คาดว่าจะเริ่มดำเนินการก่อสร้างได้ปี 2561

 
ที่มา : ผู้จัดการรายวัน 360 องศา
ข่าวโครงการอสังหาฯ ภาคเอกชน อื่นๆ