MBK เร่งมือมิกซ์ยูสริเวอร์เดลดิสทริค ซื้อที่ดินเพิ่ม-ปี66โกยกำไร1.5พันล.
Loading

MBK เร่งมือมิกซ์ยูสริเวอร์เดลดิสทริค ซื้อที่ดินเพิ่ม-ปี66โกยกำไร1.5พันล.

วันที่ : 9 พฤษภาคม 2567
MBK กล่าวว่า หลังปลดล็อกจากสถานการณ์โควิด-19 ธุรกิจของเอ็ม บี เค มีผลประกอบการฟื้นตัวดีขึ้นตามลำดับ พร้อมเดินหน้าตามแผนกลยุทธ์ ทั้งการบริหารข้อมูลลูกค้า การบริหารข้อมูลด้านการตลาด และใช้กลยุทธ์ด้านการตลาดอย่างเต็มที่
         เอ็ม บี เค หรือ MBK พร้อมเดินตามแผนกลยุทธ์ปลดล็อกศักยภาพทุกธุรกิจของ เอ็ม บี เค ซึ่งปัจจุบันมีการดำเนินธุรกิจ 7 กลุ่มธุรกิจ ได้แก่ ธุรกิจศูนย์การค้า ธุรกิจโรงแรมและการท่องเที่ยว ธุรกิจกอล์ฟ ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ธุรกิจอาหาร ธุรกิจการเงิน และธุรกิจการประมูล เผยผลประกอบการปี 2566 รายได้รวม อยู่ที่ 12,101 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 1,567 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 372% จากปีก่อนหน้า มีการฟื้นตัวของธุรกิจศูนย์การค้า ธุรกิจโรงแรมและการท่องเที่ยว หลังสถานการณ์โควิด-19 คลี่คลาย

         นายวิจักษณ์ ประดิษฐ์วณิช ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้อำนวยการ บริษัท เอ็ม บี เค จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า หลังปลดล็อกจากสถานการณ์โควิด-19 ธุรกิจของเอ็ม บี เค มีผลประกอบการฟื้นตัวดีขึ้นตามลำดับ พร้อมเดินหน้าตามแผนกลยุทธ์ ทั้งการบริหารข้อมูลลูกค้า การบริหารข้อมูลด้านการตลาด และใช้กลยุทธ์ด้านการตลาดอย่างเต็มที่

         โดยเฉพาะธุรกิจที่อยู่ในบริเวณพื้นที่ ริเวอร์เดล ดิสทริค ซึ่งเป็นทรัพย์สิน ขนาดใหญ่ของเอ็ม บี เค กรุ๊ป มีพื้นที่ประมาณ 1,500 ไร่ เป็นการพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ในรูปแบบมิกซ์ยูส (MixedUse) คือนำธุรกิจในเครือเอ็ม บี เค ทั้ง 6 กลุ่มธุรกิจเข้าไปจัดสรรในพื้นที่ ยกเว้นธุรกิจการเงิน พร้อมวางระบบความปลอดภัย ที่ดีเยี่ยม

         "ส่วนโครงการที่พักอาศัยระดับหรูอย่าง พาร์ค ริเวอร์เดล และเดอะ ริเวอร์เดล เรสซิเด้นท์ ตอนนี้อยู่ระหว่างการศึกษาเพื่อดำเนินการต่อยอด โครงการพาร์ค ริเวอร์เดล 2 ทั้งนี้เป้าหมายของการขับเคลื่อนธุรกิจที่อยู่ในบริเวณพื้นที่ ริเวอร์เดล ดิสทริค เราคาดหวังผลตอบแทนในระยะยาว และมีการซื้อที่ดินเพิ่มเติม รวมถึงพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน โดยการคำนึงถึงสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน" นายวิจักษณ์ กล่าว

         สำหรับผลประกอบการล่าสุด นายวิจักษณ์ กล่าวว่า ธุรกิจภาพรวมเชิงรายได้ปี 2566 รายได้รวมอยู่ที่ 12,101 ล้านบาท เพิ่มขึ้นประมาณ 2,649 ล้าน บาท คิดเป็น 28% เมื่อเทียบกับปีก่อน ปัจจัยหลักที่ทำให้รายได้เพิ่มขึ้นมาจากธุรกิจที่เกี่ยวกับการ ท่องเที่ยวของบริษัทฯ ที่มีรายได้เพิ่มขึ้นจากการเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยวต่างชาติและมาตรการส่งเสริมการท่องเที่ยวของภาครัฐ ทำให้ธุรกิจที่เกี่ยวกับการท่องเที่ยวฟื้นตัวได้ดี จึงส่งผลให้ภาพรวมรายได้และกำไรสุทธิของ เอ็ม บี เค ปรับตัวดีขึ้นต่อเนื่อง โดยเฉพาะธุรกิจศูนย์การค้า โรงแรมและสนามกอล์ฟ

         ทั้งนี้ ธุรกิจศูนย์การค้า มีรายได้รวมประมาณ 3,300 ล้านบาท เพิ่มจากปี 2565 ประมาณ 1,000 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 49% จากปีก่อน เนื่องจากการกลับมาของนักท่องเที่ยว ส่งผลให้มีลูกค้าเพิ่มขึ้นและมีผู้เช่าพื้นที่เพิ่มขึ้นตามแผนที่วางไว้

         ส่วนธุรกิจโรงแรมและการท่องเที่ยว รายได้รวมประมาณ 1,300 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2565 ประมาณ 57% ปัจจัยหลักมาจากจำนวนนักท่องเที่ยวที่เพิ่มขึ้น จึงทำให้มีอัตราการเข้าพักและราคาห้องพักเพิ่มสูงขึ้น

         ธุรกิจกอล์ฟ มีรายได้รวมประมาณ 530 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2565 ประมาณ 32% ปัจจัยหลักมาจากนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะสนามกอล์ฟ เรด เมาท์เทิน กอล์ฟ คลับ และสนามกอล์ฟ ล็อค ปาล์ม คลับ ในจังหวัดภูเก็ต

         ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ รายได้ลดลงจากปีก่อน สาเหตุหลักมาจาก เอ็ม บี เค คงมาตรการระมัดระวังในการดำเนินธุรกิจด้านอสังหาริมทรัพย์ แต่ก็ยังมุ่งมั่นพัฒนาโครงการในที่ดินที่บริษัทเป็นเจ้าของและขายโครงการในที่ดินของเอ็ม บี เค อย่างต่อเนื่อง

         ธุรกิจอาหาร รายได้เพิ่มขึ้นจากปริมาณการขายข้าวในประเทศที่เพิ่มขึ้น แต่ปริมาณการส่งออกลดลงมาจากการชะลอคำสั่งซื้อจากประเทศสหรัฐอเมริกา อย่างไรก็ตาม ธุรกิจศูนย์อาหารของบริษัททั้ง 2 แห่ง ได้แก่ ศูนย์การค้า เอ็ม บี เค เซ็นเตอร์ และสามย่านมิตรทาวน์ มีผลประกอบการที่ดีขึ้นจากจำนวนคนที่มาใช้บริการมากขึ้น

         ธุรกิจการเงิน มีรายได้เพิ่มขึ้นจากการลงทุนในหุ้นทุนธนชาติ (TCAP) จนมีสัดส่วนการลงทุนเข้าเกณฑ์การเป็นบริษัทร่วมทำให้มีการรับรู้ส่วนแบ่งกำไรเข้ามา ทำให้ธุรกิจการเงินมีรายได้เพิ่มขึ้นด้วยเช่นกัน

         ทั้งนี้ ในช่วงปี 2566 ที่ผ่านมา พาราไดซ์ พาร์ค ศูนย์การค้าในเครือเอ็ม บี เค มีการปรับปรุงครั้งใหญ่ด้วยงบประมาณ 1,000 ล้านบาท บนพื้นที่ 84,000 ตารางเมตร พร้อมปรับโฉมใหม่เปลี่ยนทั้งไลฟ์สไตล์และประสบการณ์ใหม่ของพาราไดซ์ พาร์ค ให้กลายเป็นศูนย์กลางการให้บริการด้านสุขภาพแบบองค์รวม ทั้งรักษา บำบัด ส่งเสริมและป้องกัน แบบครบวงจรในย่านศรีนครินทร์ ภายใต้คอนเซ็ปต์ กินดี อยู่ดี สุขภาพดี Living in Harmony ตลอดจนการเพิ่มเติมร้านค้าและบริการที่เกี่ยวกับสุขภาพและความงามครบวงจร อาทิ ร้านอาหารและร้านจำหน่ายผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพ ศูนย์รวมจำหน่ายอุปกรณ์การแพทย์ และคลินิกเฉพาะทาง เป็นต้น

         กลุ่มบริษัท เอ็ม บี เค ร่วมมือกับ คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล เปิดให้บริการศูนย์ดูแลสุขภาพครบวงจร ในเดือนธันวาคม 2566 เป็นคลินิกพรีเมี่ยมรามาธิบดีเฮลธ์สเปช แอท พาราไดซ์ พาร์ค บนพื้นที่ขนาด 1,818 ตารางเมตร โดยผู้เชี่ยวชาญหลากหลายสาขา อาทิ อายุรกรรม กุมารเวช กระดูกและข้อ สูติ-นรีเวช เวชศาสตร์ฟื้นฟู แพทย์แผนทางเลือก เป็นต้น

         นอกจากนี้ เดือนธันวาคม 2566 ที่ผ่านมาบริษัท เอ็ม บี เค เปิดดำเนินการโรงแรมทินิดี เทรนดี้ กรุงเทพ ข้าวสาร ตั้งอยู่บนถนนรามบุตรี ติดกับถนนข้าวสาร เป็นอาคารสูง 9 ชั้น มีห้องพักจำนวน 215 ห้อง พร้อมสระว่ายน้ำและที่จอดรถ ถึง 150 คัน