"เจ.ดับบลิว." เผยปี 61 เล็งผุดโฮมออฟฟิศ-รร. ย่านดอนเมือง มูลค่ากว่า 1,100 ล้านบาท ย้ำนโยบายลงทุน 1 ปี 1 โครงการ ล่าสุดเตรียมเปิดตัว "JW Station@Ramintra" มูลค่า 700 ล้านบาท ย่านมีนบุรี ชูจุดขายไฮไรส์คอนโดโครงการแรก พร้อมอัดแคมเปญส่วนลดช่วงพรีเซล 10,000 บาทต่อตร.ม. มั่นใจปิดการขายภายใน 3 เดือน แจงปี 60 ส่งมอบห้องชุด "JW คอนโด@ดอนเมือง" 1,300 ล้านบาท คาดรายได้ปีนี้ไม่ต่ำ 1,000 ล้านบาท

นายวิสิษฐ กอวรกุล ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เจ.ดับบลิว. เรียลเอสเตท จำกัด กล่าวว่า นโยบายการลงทุนพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ของบริษัทจะเน้นการลงทุนโครงการใหม่ปีละ 1 โครงการ โดยปีนี้จะเปิดตัวโครงการคอนโดมิเนียมไฮไรส์ "JW Station@Ramintra"คอนโดสูง 20 ชั้น จำนวน 275 ยูนิต มูลค่า 700 ล้านบาท ห่างจากสถานีรถไฟฟ้าสายสีส้ม สถานี เศรษฐบุตรบำเพ็ญ ในย่านมีนบุรี เลียบถนนรามอินทรา ซอย 86 ราคาขายต่อตารางเมตร (ตร.ม.) 75,000 บาท

โดยจะเปิดพรีเซลระหว่างวันที่ 27 ก.ย.- 1 ต.ค.นี้ ซึ่งจะเปิดให้ลูกค้าจองซื้อในราคา พิเศษ 65,000 บาทต่อตร.ม.หรือมีราคาเริ่มต้นที่ 1.55 ล้านบาท และหลังจากนั้นจะปรับราคาขายมาอยู่ที่ 75,000 บาทต่อตร.ม.หรือมีราคาขายเริ่มต้น 1.7-3.9 ล้านบาท คาดว่าจะสามารถปิดการขายโครงการได้ใน 3 เดือนหลังเปิดขาย และจะเริ่มก่อสร้างโครงการในวันที่ 27 ก.ย.นี้ และส่งมอบห้องชุดให้ลูกค้าได้ในต้นปี 62

สำหรับการแข่งขันของคอนโดในย่านมีนบุรี ปัจจุบันถือว่าไม่รุนแรงมากนัก เนื่องจาก มีซัปพลายไม่มาก โดยมีคอนโดติดถนนเปิดขายอยู่ในพื้นที่เพียง 2 โครงการ ซึ่งเป็นโลว์ไรส์คอนโดและทั้ง 2 โครงการดังกล่าวมียูนิตเหลือขายไม่ถึง 10% ส่วนใหญ่เป็นห้องชุดรีเซลใหม่ และมีราคาเสนอขายอยู่ที่ 65,000 บาทต่อตร.ม. จึงมั่นใจว่าจะได้รับการตอบรับจากลูกค้าด้วยดี โดยเฉพาะกลุ่มดีมานด์ในนิคมอุตสาหกรรม และนักลงทุนซื้อเพื่อลงทุนปล่อยเช่า

"การมาของรถไฟฟ้าสายส้ม ส่งผลต่อราคาที่ดินและราคาที่อยู่อาศัยในพื้นที่ค่อนข้างมาก โดยก่อนหน้านี้ราคาขายที่ดินในย่านมีนบุรีเฉลี่ยอยู่ที่ 65,000บาทต่อตารางวา (ตร.ว.) แต่หลังจากรัฐบาลอนุมัติการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีส้ม ส่งผลให้ราคาที่ดินปรับตัวสูงขึ้นอย่างรวดเร็วโดยปัจจุบันที่ดินติดถนนรามอินทราในย่านมีนบุรีมีราคาขายขยับขึ้นมาอยู่ที่ 1.5-2 แสนบาทต่อตร.ว."

ส่วนแผนการลงทุนในปี61 บริษัทได้ซื้อที่ดินใหม่1แปลงย่านสรงประพา-ดอนเมืองจำนวน 11 ไร่ 2 งาน 31 ตร.ว. มีแผนจะตัดแบ่งพื้นที่ 7 ไร่ ไปพัฒนาโครงการโฮมออฟฟิศ จำนวน 67 ยูนิต ราคาขายเริ่มต้นที่ 7-8ล้านบาท มูลค่ารวม 600 ล้านบาท ส่วนที่เหลืออีก 4ไร่ จะนำไปพัฒนาโรงแรม 3 ดาว จำนวน 150-200 ยูนิต มูลค่าลงทุนประมาณ 400-500 ล้านบาท เพื่อรองรับความต้องการห้องพักของกลุ่มชาวต่างชาติที่เดินทางมาใช้สนามบินดอนเมือง ที่จะมีการลงทุนขยายพื้นที่บริการเพิ่ม ซึ่งจะทำให้มีผู้ใช้บริการสนามบินเพิ่มขึ้นในอนาคต จากปัจจุบันความต้องการห้องพักในพื้นที่รอบสนามบินดอนเมืองมีจำนวนมาก แต่มีโรงแรมให้บริการในพื้นที่ไม่มาก ทำให้ที่ผ่านมาเกิดธุรกิจห้องพักในรูปแบบโฮมสเตย์เกิดขึ้นจำนวนมาก ดังนั้นการเปิดโรงแรมในย่านดอนเมืองเพื่อรองรับกลุ่มผู้ใช้บริการสนามบินจึงมีแนวโน้มการขยายตัว ที่ดี

"10 ปีที่ผ่านมาบริษัทได้พัฒนาโครงการไปแล้ว 13 โครงการ รวมโครงการ เจ.ดับบลิว. สเตชั่น รามอินทรา ซึ่ง 12 โครงการที่ผ่านมาปิดการขายทั้งหมดแล้ว โดยในปีนี้จะส่งมอบห้องชุด ในโครงการ เจ.ดับบลิว.คอนโด แอด ดอนเมือง มูลค่า 1,300 ล้านบาท ทำให้คาดว่าจะมีรายได้เข้ามาในปีนี้ไม่ต่ำกว่า 1,000 ล้านบาท"