เอ็น.ซี.ฯวางโรดแมปธุรกิจสู้ศึกอนาคตเตรียมปรับสินค้าใหม่สู่ บ้านนวัตกรรม
Loading

เอ็น.ซี.ฯวางโรดแมปธุรกิจสู้ศึกอนาคตเตรียมปรับสินค้าใหม่สู่ บ้านนวัตกรรม

วันที่ : 15 สิงหาคม 2560
เอ็น.ซี.ฯวางโรดแมปธุรกิจสู้ศึกอนาคตเตรียมปรับสินค้าใหม่สู่ บ้านนวัตกรรม

         เอ็น.ซี.เฮ้าส์ซิ่ง เดินหน้าสานความร่วมมือพันธมิตรวัสดุก่อสร้าง ระบบและเทคโนโลยีใหม่ๆ ผสานนวัตกรรมสู่บ้านแห่งอนาคตในโครงการใหม่ ทั้งแนวราบแนวสูง หวังนำองค์กรสู่ NCXT เผยจับมือ SCG พัฒนาวัสดุผสานเทคโนโลยีใช้ก่อสร้างบ้าน พร้อมดึงพานาโซนิควางระบบอำนวยความสะดวก ระบบความปลอดภัย ในทุกโครงการ เผยแผนครึ่งปีหลังผุดเปิดตัว 2 โครงการแนวราบแห่งใหม่

 

          นายสมนึก ตันฑเทอดธรรม รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท เอ็น.ซี.เฮ้าส์ซิ่ง จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า เอ็น.ซี.ฯได้ปรับกลยุทธ์การวางผลิตภัณฑ์(โปรดักส์)ของบริษัทใหม่ เพื่อรองรับการเปลี่ยนแปลงของพฤติกรรมการเลือกซื้อที่อยู่อาศัย ตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคในอนาคต ซึ่งไม่ได้เน้นการเปิดตัวโครงการใหม่ในจำนวนมากๆ แต่จะเน้นสร้างการจดจำ และสร้างมูลค่าเพิ่มในตัวสินค้าในโครงการใหม่ๆ ให้เข้าถึงกลุ่มลูกค้าใหม่ๆ ให้มากขึ้น ขณะเดียวกันก็ยังสามารถรักษาฐานลูกค้าเดิมที่มีอยู่

 

          โดยการปรับโปรดักส์ใหม่ภายใต้ จะเกิดขึ้นภายใต้โรดแมป ในการพัฒนาโครงการใหม่ๆ ซึ่งจะนำแนวคิด NCXT หรือ NC Cross Innovation & Home Technology ซึ่งมีการนำเป็น เทคโนโลยีสมัยใหม่เข้ามาผสมผสานกับงานก่อสร้างที่อยู่อาศัย เพื่อให้เกิดเป็น โปรดักส์ใหม่ๆ ที่สามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้า ที่ในปัจจุบันมีเพิ่มมากขึ้นเลื่อยๆ และสามารถตอบ โจทย์ความต้องการและพฤติกรรมการเลือกซื้อที่อยู่อาศัยของผู้บริโภคทั้ง กลุ่มเป็นคนรุ่นใหม่และคนรุ่นเก่าให้สามารถอยู่ร่วมกันได้อย่างลงตัว

 

          ดังนั้น จึงจำเป็นจะต้องมีการปรับโปรดักส์ใหม่โดยการผสาน เทคโนโลยี และนวัตกรรมใหม่ๆ เข้ากับบ้าน ซึ่งแนวโน้มดังกล่าวทำให้ ต้องมีการ "ครอสอินโนเวชั่น" หรือความร่วมมือ ระหว่างพันธมิตร ซึ่งไม่ใช่แค่พันธมิตรในอุตสาหกรรม ในธุรกิจเดียวกันอย่างเช่นที่ผ่านมา แต่หมายถือการร่วมมือที่ข้ามนวัตกรรม ข้ามธุรกิจ หรือการร่วมมือข้ามอุตสาหกรรม ข้ามเทคโนโลยี เช่น บ้านกับรถ บ้านกับเครื่องใช้ไฟฟ้า หรือแม้กระทั่งบ้านกับโรงพยาบาล ซึ่งจะเข้ามามีส่วนดูแลในเรื่องของบริการด้านสุขภาพฯลฯ

 

          ทั้งนี้ ที่ผ่านมา เอ็น.ซี.ฯ ได้ร่วมมือกับพันธมิตร ในหลากหลายธุรกิจ เช่น บริษัท ปูนซิเมนต์ไทย จำกัด (มหาชน) หรือ SCG เพื่อพัฒนาวัสดุก่อสร้างที่ผสานนวัตกรรมใหม่ๆ เช่น การนำวัสดุช่วยในการประหยัดพลังงาน ช่วยลดความร้อนในบ้าน และระบบบ้านระบายความร้อน นอกจากนี้ยังมีความร่วมมือกับบริษัท พานาโซนิค ซึ่งนำระบบกล้องรักษาวงจรปิดเข้ามาใช้ในระบบรักษาความปลอดภัย หรือการนำเครื่องใช้ไฟฟ้าเข้ามาบ้าน ฯลฯ และความร่วมมือ บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส นอกจากนี้ยังมีพันธมิตรอีกหลายรายด้วยกัน ซึ่งพันธมิตรต่างๆนี้ได้นำนวัตกรรมใหม่ๆมาผสานกับการพัฒนาที่อยู่อาศัย โดยในอนาคตจะมีการนำเทคโนโลยีที่ข้ามอุตสาหกรรมมาใช้กับการพัฒนาที่อยู่อาศัยมากขึ้น

 

          "เดิมทีกลุ่มลูกค้าของบริษัทเป็นกลุ่มคนที่เริ่มสร้างครอบครัวใหม่ หรือครอบครัวเล็กๆ จึงเน้นเรื่องดีไซน์ หรือการออกแบบโปรดักส์ โดยเน้นฟังก์ชั่นการใช้งาน และการปรับเปลี่ยนได้ หรือพื้นที่การใช้งานในที่อยู่อาศัยที่ปรับได้ แต่ในอนาคตกลุ่มลูกค้าเราจะเริ่มขยายเป็นครอบครัวใหญ่ มีการอยู่ร่วมกันของคนในหลายๆ เจเนอเรชั่น ทั้งผู้สูงอายุ เด็กเล็ก และคนรุ่นใหม่ วิวัฒนาการของโปรดักส์ใหม่ๆ จึงมีการนำอินโนเวชั่น เทคโนโลยีใหม่ๆ เข้ามาใช้ใน การพัฒนาที่อยู่อาศัย ซึ่งทั้งหมดนี้เกิดจากการวิจัยลูกค้าของบริษัท เพื่อนำมาปรับโปรดักส์ในโครงการใหม่ๆ ที่จะเกิดขึ้นในปัจจุบันไปถึงอนาคต"

 

          รองกรรมการผู้จัดการ เอ็น.ซี.ฯ กล่าวถึงภาพรวมตลาดอสังหาริมทรัพย์ในช่วงครึ่งหลังของปี 60 ว่ายังคงทรงตัวจากต้นปีที่ผ่านมา เนื่องจากกำลังซื้อของผู้บริโภคยังไม่ฟื้นตัวมากนัก แม้แนวโน้มปัญหาหนี้ครัวเรือนเริ่มปรับตัวดีขึ้นมาบ้างแล้ว แต่ผู้บริโภคยังมีความระมัดระวังในเรื่องการใช้จ่ายอยู่มาก ขณะที่ตลาดมีการแข่งขันมากขึ้น ผู้ประกอบการจัดโปรโมชันและแคมเปญพิเศษออกมามากขึ้น เพื่อพยายามสร้างยอดขายให้ได้ตามเป้าหมาย

 

          ทั้งนี้ ในส่วนของบริษัทเอง ณ ปัจจุบันบริษัทมียอดขายรอรับรู้ได้ หรือแบ็กล็อก ในมือแล้ว 400 ล้านบาท โดยทั้งปีวางเป้ายอดขายไว้ที่ 2,700-2,800 ล้านบาท และมีรายได้รับรู้ที่ 1,700 ล้านบาท ซึ่งในช่วง6เดือนแรกที่ผ่านมา สามารถทำยอดขายได้ตามเป้า ขณะที่ในครึ่งปีหลัง จะเปิดเพิ่มอีก 2 โครงการ รวมทั้งปีเปิด 4 โครงการ โดยโครงการใหม่เป็นโครงการแนวราบทั้งหมด ตั้งอยู่ในทำเลกรุงเทพฯตอนเหนือ จับกลุ่มบ้านราคาไม่เกิน 5 ล้านบาท และโซนกรุงเทพฯ ตะวันตก ระดับราคา10 ล้านบาท

ที่มา : ผู้จัดการรายวัน 360 องศ่า