แสนสิริ ผนึกโตคิว รุกอสังหาฯ ไทย
Loading

แสนสิริ ผนึกโตคิว รุกอสังหาฯ ไทย

วันที่ : 11 สิงหาคม 2560
แสนสิริ ผนึกโตคิว รุกอสังหาฯ ไทย

นายอุทัย อุทัยแสงสุข ประธานผู้บริหารสายงานปฏิบัติการ (Chief Operating Officer) บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) ได้ร่วมมือกับ บริษัท โตคิว คอร์ปอเรชั่น ผู้เชี่ยวชาญด้านการพัฒนาและให้บริการระบบรถไฟในเขตชานเมืองโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น เพื่อร่วมกัน พัฒนาคอนโดมิเนียม นำร่องเปิดตัวโครงการแรกในชื่อ "taka HAUS" (ทากะ เฮาส์) มูลค่าโครงการประมาณ 2,000 ล้านบาทโดยได้ ก่อตั้งบริษัท สิริ ทีเค วัน มีบริษัท แสนสิริ ถือหุ้น 70% บริษัท โตคิว ถือหุ้น 29% และบริษัท สหโตคิว ถือหุ้น 1%

การผนึกความร่วมมือครั้งนี้ แสนสิริ จะได้โนว์ฮาวทางด้านการทำตลาดและการขยายฐานลูกค้าญี่ปุ่นได้มีประสิทธิภาพมากขึ้น ผลักดันยอดขายจากฐานลูกค้าต่างชาติเติบโตตามเป้าหมายมูลค่า 8,000 ล้านบาท ในปีนี้ หรือคิดเป็นสัดส่วน 20% จากยอดขายรวม 40,000 ล้านบาท ขณะนี้มียอดขายลูกค้าต่างชาติ 4,000 ล้านบาท

นายอุทัย กล่าวว่า นอกจากการร่วมทุนพัฒนาคอนโดมิเนียมแล้ว ในอนาคตจะมีการร่วมกันพัฒนาเมือง หรือชุมชนที่อยู่ในตามแนวรถไฟฟ้า (ทาวน์อินทาวน์) ซึ่งทั้งแสนสิริและโตคิวมองเห็นโอกาสและความเป็นไปได้ในการพัฒนาร่วมกันใน

อนาคตกรุงเทพฯ จะคล้ายเมืองใหญ่ทั่วโลก เป็นคลัสเตอร์/ดิสทริค หรือเป็นเมืองย่อยในเมืองใหญ่ ดังนั้นการเลือกคลัสเตอร์ที่ถูกต้องจึงเป็นสิ่งที่สำคัญทั้งในแง่การใช้ชีวิตและการลงทุน สิ่งอำนวยความสะดวกจะไม่รวมศูนย์อยู่แค่กรุงเทพฯชั้นในเหมือนปัจจุบัน แต่จะกระจายออกไปยังพื้นที่อยู่อาศัยโดยรอบ การจับกลุ่มของเมืองย่อยหรือคลัสเตอร์จะเป็นไปตามสถานีรถไฟฟ้า แทนที่จะเป็นตามเขตปกครองหรือตามถนนเหมือนในอดีต" นายอุทัย กล่าว

ด้านนายโทชิยูคิ โฮชิโนะ กรรมการ และเจ้าหน้าที่ผู้จัดการบริหารอาวุโส/ผู้จัดการบริหารทั่วไป สำนักงานใหญ่ธุรกิจต่างประเทศ บริษัท โตคิว คอร์ปอเรชั่น จำกัด เปิดเผยว่า แสนสิริมีประสบการณ์พัฒนาอสังหาฯ ในไทยมายาวนาน ทั้งยังสนใจการขยายตัวของสังคมเมืองในไทยที่ต้องการที่อยู่อาศัยเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง จากการเกิดโครงข่ายคมนาคมรถไฟฟ้าสายสีต่างๆ เกิดการเดินทางและการมองหาที่อยู่อาศัยโซน ดังกล่าวมากขึ้น ซึ่งบริษัทมีโซลูชั่นในการแก้ปัญหาของเมือง รวมถึงโอกาสในตลาด ผู้สูงอายุที่มีจำนวนเพิ่มขึ้น นอกจากนี้ ยังสนใจร่วมพัฒนาโครงการขนาดใหญ่ และการพัฒนาพื้นที่ตามแนวและสถานีรถไฟฟ้า

 
ที่มา : หนังสือพิมพ์บางกอกทูเดย์