จีนเล็งเจาะตลาดอสังหาฯสิงคโปร์
บรรดาผู้พัฒนาอสังหาฯ และผู้ซื้อบ้านของจีน ต่างพุ่งเป้ามาที่สิงคโปร์ เนื่องจากราคาอสังหาฯในประเทศดังกล่าวมีแนวโน้มฟื้นตัวหลังลดลงต่อเนื่องมาหลายปี
ทีมผู้บริหารระดับสูงของบริษัทโลแกนพร็อพเพอร์ตี โฮลดิ้งส์ ผู้พัฒนาอสังหาฯของจีน เดินทางไปสิงคโปร์บ่อยครั้งในช่วงเวลา 1 ปีที่ผ่านมา ขณะที่บริษัทกำลังหาทางสร้างความฮือฮาครั้งใหญ่เพื่อเข้าสู่ตลาดสิงคโปร์ โดยเมื่อเดือนพ.ค.ที่ผ่านมา บริษัทร่วมทุนระหว่างบริษัทโลแกน ซึ่งมีฐานในเมือง เสิ่นเจิ้นกับหนานซาน กรุ๊ป ยักษ์ใหญ่ของจีน ชนะการประมูลที่ดินสำหรับอยู่อาศัยที่จัดขึ้นโดยรัฐบาล โดยจ่ายเงินไปถึง 735 ล้านดอลลาร์ นับเป็นสถิติสูงสุดสำหรับข้อตกลงด้าน อสังหาฯในสิงคโปร์
บรรดานักวิเคราะห์มองว่า บรรดา ผู้พัฒนาอสังหาฯของจีนกำลังหาทางสร้างความหลากหลายให้กับสินทรัพย์ตัวเอง นอกจากตลาดอสังหาฯที่ร้อนแรงใน แผ่นดินใหญ่ และบริษัทของฮ่องกงก็มีเป้าหมายอยู่ที่สิงคโปร์ เนื่องจากราคาอสังหาฯสำหรับอยู่อาศัยในประเทศเอเชียตะวันออกเฉียงใต้แห่งนี้กำลังเริ่มฟื้นตัวในระยะสั้น หลังจากพบกับช่วงเวลาซบเซามานานหลายปี
นับตั้งแต่ปี 2556 รัฐบาลสิงคโปร์ใช้มาตรการเพิ่มเติมในการลดความร้อนแรงให้กับตลาดอสังหาฯที่เคยร้อนแรงอย่างมากของตน จนราคาร่วงลง 12% อย่างไรก็ตาม การลดลงของราคาชะลอตัวลงใน ช่วง 1 ปีที่ผ่านมา เนื่องด้วยราคาที่ลดลงเพียง 0.1% ระหว่างไตรมาสแรกกับไตรมาสสอง ของปีนี้
"ตัวเลขที่ชะลอตัวลงบ่งชี้ว่าตลาดในภาพรวมกำลังเข้าสู่จุดตกต่ำมากขึ้นเรื่อย ๆ" นายเตย์ ฮวย อิง หัวหน้าฝ่ายวิจัยของ บริษัทอสังหาริมทรัพย์ โจนส์ แลง ลาซาล สิงคโปร์ กล่าว
นอกจากนี้ นายดีเร็ค ลี หัวหน้าฝ่าย นักลงทุนสัมพันธ์ของบริษัทโลแกนระบุว่า เมื่อเทียบกับจีนแล้ว โครงสร้างภาษีและนโยบายที่ไม่ซับซ้อนและโปร่งใสของสิงคโปร์ และการจัดการสภาพแวดล้อมล้วนเป็นปัจจัยดึงดูดสำคัญ
นายลีเสริมว่า การสร้างความหลากหลายให้สินทรัพย์ถือว่าสมเหตุสมผล เนื่องจากช่วยชดเชยรายจ่ายหนี้ต่างชาติของผู้พัฒนาอสังหาฯ โดยสัดส่วนหนี้มากถึง 20% ของเงินกู้ทั้งหมดของโลแกนมาจากหนี้ใน ต่างประเทศ ดังนั้น การขยายสู่ตลาดอย่างสิงคโปร์ช่วยป้องกันความเสี่ยงที่เกี่ยวกับ การลงทุนโดยเงินกู้ ในขณะที่บริษัท กำลังสร้างแบรนด์ของตัวเอง
ขณะที่นายราวี เมนอน ประธานธนาคารกลางสิงคโปร์ กล่าวเมื่อเร็ว ๆ นี้ว่า ขณะนี้ ยังไม่ใช่เวลาที่เหมาะสมในการชะลอความร้อนแรงของตลาดอสังหาฯส่วนหนึ่งเป็นเพราะความต้องการที่สำคัญของบริษัท ในช่วงที่บรรดานักลงทุนอสังหาฯทั่วโลกยังคงมองหาสินทรัพย์ที่ให้ผลตอบแทนและปลอดภัย
โครงสร้างภาษีและนโยบายที่ไม่ซับซ้อน-โปร่งใสของสิงคโปร์ และการจัดการสภาพแวดล้อมล้วนเป็นปัจจัยดึงดูดสำคัญ