ภูเก็ต บูมรับสมาร์ทซิตี้พลัสฯคาด3ปีอสังหาโตก้าวกระโดด ที่ดินริมหาดหายากราคาพุ่ง
'ภูเก็ต'บูม รับสมาร์ทซิตี้
พลัสฯ ประเมินอสังหาฯ ภูเก็ต 3 ปีข้างหน้าโตแบบก้าวกระโดด หลังจาก ผลักดันให้เกิดสมาร์ทซิตี้
น.ส.สมสกุล หลิมศุทธพรรณ ผู้ช่วยกรรมการ ผู้จัดการ สายงานบริหารสินทรัพย์ บริษัท พลัส พร็อพเพอร์ตี้ เปิดเผยว่า ตลาดอสังหาริมทรัพย์ภูเก็ตมีการเติบโตอย่างก้าวกระโดดในอีก 3 ปีข้างหน้า หลังจากเข้าสู่การเป็นสมาร์ทซิตี้ ดันให้ ราคาขายคอนโดมิเนียมเพิ่มขึ้นจากราคาที่ดินที่ ปรับตัวสูงขึ้น ปัจจุบันพบว่าคอนโดมิเนียมโครงการ ใหม่มีราคาเปิดขายเฉลี่ยอยู่ที่ 1.3 แสนบาท/ตารางเมตร (ตร.ม.) ซึ่งส่วนมากเป็นรีสอร์ทที่อยู่ ริมหาด และที่ดินหายากจะเห็นได้ว่าราคาปรับเพิ่มจากโครงการใหม่ที่เปิดตัวในปี 2559 ถึง 41%
นอกจากนี้ ยังพบโครงการคอนโดมิเนียมมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นปัจจุบันราคาขายเฉลี่ยอยู่ที่ 9.9 หมื่นบาท/ตร.ม. เพิ่มขึ้น 12% จากปี 2559 อย่างไรก็ตามจากการเข้าสู่ความเป็นสมาร์ทซิตี้ จะส่งผลให้พื้นที่ภูเก็ตกลายเป็นทำเลทอง เนื่องจากความต้องการที่อยู่อาศัยในพื้นที่นี้ สูงขึ้นจากจำนวนแรงงานระดับผู้เชี่ยวชาญจากอุตสาหกรรมดิจิทัลที่มีกำลังซื้อปานกลาง-สูง อาจทำให้ราคาขายอสังหาฯ ในอนาคตปรับตัว ขึ้นอีกไม่น้อย
สำหรับทำเลยอดนิยมของโครงการประเภท คอนโดมิเนียม ได้แก่ โซน อ.กะทู้ โดยพบอุปทานโครงการคอนโดมิเนียมประมาณ 2,500 ยูนิต มีอุปสงค์ตอบรับแล้ว 96% หรืออัตราการดูดซับเฉลี่ยประมาณ 7 ยูนิต/เดือน/โครงการ โครงการคอนโดมิเนียมใกล้เคียงกับชายหาด ที่มีการตอบรับดี เช่น หาดไม้ขาว หาดกมลา- ป่าตอง และหาดกะตะ มียอดตอบรับ 64% 67% และ 63% ตามลำดับ
ขณะที่โซนยอดฮิตของโครงการแนวราบ (บ้านเดี่ยวและทาวน์เฮาส์) อยู่บริเวณ ต.เกาะแก้ว พบอุปทานเสนอขายจำนวน 1,409 ยูนิต มียอดขายได้แล้ว 61% หรือมีอัตราการตอบรับเฉลี่ย 2.46 ยูนิต/เดือน/โครงการ รองลงมาคือบริเวณ ต.ป่าคลอก อุปทานรวม 851 ยูนิต ยอดตอบรับแล้ว 81% อัตราการดูดซับเฉลี่ยอยู่ที่ 2.17 ยูนิต/เดือน/โครงการ
ทั้งนี้ ปัจจุบันพื้นที่ในภูเก็ตถูกพัฒนาในเชิงพาณิชย์และที่อยู่อาศัยค่อนข้างหนาแน่นโดยเฉพาะบริเวณ อ.เมืองภูเก็ต ส่งผลให้พื้นที่สำหรับพัฒนาเหลือไม่มากนัก เช่น บริเวณ ต.กะทู้ ไม่ค่อยพบที่ดินเปล่าขายแล้ว ส่วนมาก เป็นการเสนอขายที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้าง หรือบ้านมือสอง บริเวณหาดไม้ขาว (ติดหาด) ราคา 35-40 ล้านบาท/ไร่ หาดกมลา (ไม่ได้วิวทะเล) ราคา 17-25 ล้านบาท/ไร่ เป็นต้น
ด้านภาพรวมอสังหาริมทรัพย์ภูเก็ตมีอุปทานใหม่ทยอยเข้าสู่ตลาดอย่างต่อเนื่อง ทั้งตลาดแนวราบและแนวสูง ล่าสุดพบอุปทานใหม่ที่เปิดตัวในช่วงเดือน มี.ค. 2559-มี.ค. 2560 จำนวน 5,226 ยูนิต เพิ่มขึ้นจากปี 2559 ถึง 121% จากโครงการคอนโดมิเนียมจำนวน 3,961 ยูนิต (ส่วนแบ่ง 76%) ทาวน์เฮาส์ 689 ยูนิต (ส่วนแบ่ง 13%) โครงการบ้านเดี่ยว 576 ยูนิต (ส่วนแบ่ง 11%)
ส่วนภาพรวมอุปสงค์ยังตอบรับอุปทานที่ เข้าสู่ตลาดได้ดี พบยอดตอบรับแล้ว 71% โดย ตลาดที่มีการเติบโตมากที่สุดคือ ตลาดคอนโด มิเนียม ปัจจุบันพบอุปทานทั้งตลาดอยู่ที่ 17,431 ยูนิต จาก 79 โครงการ ส่วนดีมานด์ตอบรับแล้ว 70% แม้ยอดตอบรับจะเท่ากับปีก่อน แต่เมื่อเปรียบเทียบกับจำนวนอุปทานใหม่ที่เข้าสู่ตลาดกว่าเกือบ 4,000 ยูนิต จาก 20 โครงการ พบว่าอุปสงค์ตอบรับได้ดี อัตราการดูดซับเฉลี่ยอยู่ที่ 7.48 ยูนิต/เดือน/โครงการ ส่วนตลาดแนวราบพบอุปทานทั้งตลาดอยู่ที่ 2,899 ยูนิต มียอดตอบรับแล้ว 73% ตลาดทาวน์เฮาส์มีอุปทานรวมอยู่ที่ 2,190 ยูนิต อุปสงค์ตอบรับ 73%