แสนสิริ เปิดแผน Transformation ดันเป้ายอดขายทะลุ 3.6 หมื่นล้าน
แสนสิริ เปิดแผนธุรกิจ "Sansiri Transformation" ขับเคลื่อนองค์กรด้วยกลยุทธ์ 4 ด้าน บริหารการเงินพัฒนาโครงการ-การตลาด และเทคโนโลยี ก้าวสู่ผู้นำด้านเทคโนโลยีอสังหาริมทรัพย์และการอยู่อาศัย ครึ่งปีหลังเปิดอีก 16 โครงการใหม่ มูลค่ารวมกว่า 39,260 ล้านบาท สานต่อโครงการร่วมทุนกับบีทีเอส พร้อมเล็งหาพันธมิตรทางธุรกิจเพิ่ม เดินหน้ารุกตลาดต่างชาติเต็มที่ มั่นใจยอดขายรวมปีนี้ทะลุ 36,000 ล้านบาท
นายอภิชาติ จูตระกูล ประธานอำนวยการ บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่าเป้ายอดขายรวมปีนี้บริษัทตั้งไว้ 36,000 ล้านบาท ซึ่งในช่วงครึ่งปีแรกทำยอดขายไปแล้วประมาณ 15,000 ล้านบาท คิดเป็นกว่า 42% ของเป้ารวมที่ตั้งไว้ โดยตลาดต่างชาติซึ่งเป็นตลาดสำคัญทำยอดขายไปแล้วประมาณ 3,700 ล้านบาท คิดเป็น 46% ของเป้ายอดขายตลาดต่างชาติที่วางไว้ 8,000 ล้านบาท
สำหรับในช่วงครึ่งปีหลัง บริษัทจะเปิดตัวโครงการใหม่อีก 16 โครงการ มูลค่ารวม 39,260 ล้านบาท พร้อมเปิดแผนธุรกิจ "Sansiri Transformation" สู่การขับเคลื่อนองค์กรครั้งใหญ่ ซึ่งไฮไลต์สำคัญของการดำเนินธุรกิจของแสนสิริในครึ่งปีหลังคือการเดินหน้าขับเคลื่อนองค์กร ตามกลยุทธ์ "Sansiri Transformation" รุกปรับองค์กรอย่างเต็มรูปแบบใน 4 ด้าน คือ การบริหารการเงิน-การบริหารการพัฒนาโครงการ-การบริหารกลยุทธ์การตลาด และการบริหารด้านเทคโนโลยี เพื่อเสริมความแข็งแกร่ง โดยมีการจัดทัพทีมผู้บริหารในแต่ละด้าน ที่จะมาช่วยบริหารสู่การเป็นบริษัทอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำด้านเทคโนโลยีที่ครอบคลุมทุกมิติของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์และการอยู่อาศัยอย่างเต็มรูปแบบ นายอภิชาติ กล่าว
ด้าน นายอุทัย อุทัยแสงสุข ประธานผู้บริหารสายงานปฏิบัติการ (Chief Operating Officer) บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) กล่าวเสริมว่า ในปี 2560 นี้เรามีแผนเปิดตัวโครงการใหม่ 19 โครงการ มูลค่ารวม 44,460 ล้านบาท แบ่งเป็นโครงการบ้านเดี่ยว 9 โครงการ มูลค่ารวม 19,400 ล้านบาท, คอนโดมิเนียม 8 โครงการ มูลค่ารวม 24,200 ล้านบาท และทาวน์ เฮาส์ 2 โครงการ มูลค่า 860 ล้านบาท โดยครึ่งปีแรกเปิดไปแล้ว 3 โครงการ สำหรับในช่วงครึ่งปีหลัง เปิดตัวโครงการใหม่อีกประมาณ 16 โครงการ มูลค่ารวม 39,260 ล้านบาท แบ่งเป็นคอนโดมิเนียม 7 โครงการ มูลค่า 22,350 ล้านบาท, บ้านเดี่ยว 8 โครงการ มูลค่า 16,150 ล้านบาท และทาวน์เฮาส์ 1 โครงการ มูลค่า 760 ล้านบาท
นอกจากนี้ การรุกตลาดต่างประเทศในช่วงครึ่งปีแรก เราทำยอดขายได้ 3,700 ล้านบาท คิดเป็น 46% ของเป้ายอดขายต่างชาติที่วางไว้ 8,000 ล้านบาท เนื่องจากลูกค้าชาวฮ่องกง, จีน, สิงคโปร์ และลูกค้าชาวไต้หวันให้การตอบรับดี
ทั้งนี้ แนวทางสำคัญในการดำเนินธุรกิจในช่วงครึ่งปีหลัง คือ 1.การเปิดโครงการภายใต้บริษัทร่วมทุนกับบีทีเอส ซึ่งครึ่งปีหลังมีแผนจะเปิดเพิ่มอีก 3 โครงการ มูลค่าโครงการรวม 10,000 ล้านบาท และมองหาพันธมิตรธุรกิจเพิ่มเติม เพื่อเสริมความแข็งแกร่ง 2.การรุกตลาดระดับบน เล็งเปิดตัว "บ้านแสนสิริ" ซึ่งเป็นโครงการระดับ super hi-end ของแบรนด์บ้านเดี่ยวในช่วงไตรมาสที่ 4 ของปีนี้ 3.เดินหน้าบุกตลาดต่างประเทศ เต็มพิกัด 4.ต่อยอดการพัฒนาคอนโด- มิเนียมภายใต้แบรนด์ "HAUS" ซึ่งเป็นคอนโดมิเนียมสไตล์รีสอร์ต โดยกลุ่ม เป้าหมายของแบรนด์ HAUS นั้น ส่วนใหญ่ซื้อเพื่ออยู่อาศัยจริง เนื่องจากทั้ง 2 โครงการที่เปิดขายมีชาวญี่ปุ่นให้ความสนใจจำนวนมาก 5.เดินหน้าพัฒนาเทคโนโลยีเพื่อการอยู่อาศัย Property Technology อย่างเต็มรูปแบบอาทิ "Delivery Robot" หุ่นยนต์ที่สามารถส่งอาหารหรือสิ่งของถึงหน้าประตูห้องของลูกบ้าน โดยวางแผนนำร่องใช้ในโครงการ เดอะ โมนูเมนต์ สนามเป้า เป็นโครงการแรกในช่วงปลายปีนี้ นายอุทัย กล่าวในที่สุด