ณุศาศิริ อิงกระแสสุขภาพ ปักธงธุรกิจ เวลเนส จีน
Loading

ณุศาศิริ อิงกระแสสุขภาพ ปักธงธุรกิจ เวลเนส จีน

วันที่ : 23 มิถุนายน 2560
ณุศาศิริ อิงกระแสสุขภาพ ปักธงธุรกิจ เวลเนส จีน

"ณุศาศิริ" จับมือพาร์ทเนอร์ ปักหมุดลงทุนจีน เปิดศูนย์สุขภาพครบวงจร "พานาซี เวลเนส" ตั้งเป้า 10 สาขา ใน 5 ปี

นายวิษณุ เทพเจริญ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ณุศาศิริ จำกัด(มหาชน) กล่าวถึงแผนธุรกิจปีนี้ว่า ได้ปรับแผนธุรกิจสู่การเป็น ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์เพื่อสุขภาพและการท่องเที่ยว เพื่อสร้างความแตกต่างจากคู่แข่งและสอดรับทิศทางของโลกปัจจุบันที่กระแสรักสุขภาพมาแรง

โดยเฉพาะประเทศจีน กระแสสุขภาพเติบโตสูง เห็นได้จากคนจีนมีการใช้จ่ายด้านนี้  22% ของการใช้จ่ายทั้งหมด เป็นอันดับ 1 เทียบประเทศอื่นทั่วโลก ทำให้บริษัทจับมือ กับพันธมิตร พานาซี (Panacee) ผู้เชี่ยวชาญด้านศูนย์สุขภาพ ครบวงจร จากเยอรมนี ลงทุนธุรกิจ พานาซี เวลเนส ภายใต้คอนเซปต์ ศูนย์สุขภาพครบวงจรระดับไฮเอนด์ จับกลุ่มลูกค้าชาวจีนระดับบีบวก

ทั้งนี้ใช้เงินลงทุนกว่า 10 ล้านดอลลาร์ เปิดสาขาแรกที่เป่ยไต้เหอ เมืองฉินหวงเตา มณฑลเหอเป่ย เมืองชายทะเล มีนักท่องเที่ยวมาเยือนปีละกว่า 40 ล้านคน

โดย พานาซี เวลเนส จะเปิดให้บริการภายในต้นปี 2561 คาดคืนทุน ใน 3-5 ปี และมีแผนจะขยายสาขาในปักกิ่ง เซียงไฮ้ ตั้งเป้าเปิด 10 สาขา ในจีน ภายใน 5 ปี เน้นเปิดหัวเมืองใหญ่ นอกจากนี้ยังมีแผนจะร่วมลงทุนกับพันธมิตรในจีน เพื่อสร้าง

"บ้านสุขภาพ" คาดมีความชัดเจนใน2-3 เดือนข้างหน้า "ที่ผ่านมามีลูกค้าจีนจำนวนมากเข้ามาใช้บริการดูแลสุขภาพในไทย และใช้จ่ายด้านนี้สูงขึ้น เช่น ที่โครงการ ณุศา มาย โอโซน ที่เขาใหญ่ คนจีนใช้จ่ายเฉลี่ย 1 ล้านบาทต่อ 1 สัปดาห์"

สำหรับธุรกิจในไทย ตั้งเป้ายอดขายปีนี้ 5,500 ล้านบาท ขณะที่ ยอดขายในครึ่งปีแรกประเมินว่าอยู่ที่ 1,372  ล้านบาท เติบโต120% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน มี ยอดขาย 623.43 ล้านบาท ส่วนแผนการเปิดโครงการใหม่ปีนี้ มีแผนจะเปิดประมาณ 10 โครงการ จับตลาดกลาง-บน อาทิ โครงการณุศา เลค โคโม่ บ้านหรูริมทะเลสาบ ย่านพระราม 2 มูลค่าโครงการ 2,000 ล้านบาท โครงการบ้านระดับลักชัวรี่ ณุศา มายโอโซน เขาใหญ่ ที่จะเปิดเฟสใหม่ ได้แก่ โซนจี และโซนบี โซนซี โซนอี มูลค่าโครงการรวม 1,800 ล้านบาท รวมถึง ณุศา รายา โครงการคอนโดมิเนียมที่จังหวัดภูเก็ต จำนวน 286 ยูนิต มูลค่าโครงการ 1,800 ล้านบาท

ภาพรวมตลาดอสังหาฯ ปีนี้ ที่น่าสนใจ คือ ตลาดกลาง-บน ขณะที่ ตลาดกลางลงล่าง ยังเป็นปัญหา โดยเฉพาะคอนโดมิเนียม ระดับ 1-2 ล้านบาท เนื่องจากกำลังซื้อกลุ่มนี้ ยังไม่ดีนักและมียอดปฏิเสธ สินเชื่อจากธนาคารในระดับสูง ซึ่งการ แก้ปัญหา คงต้องอาศัยมาตรการของ ภาครัฐมาช่วยกระตุ้นกำลังซื้อ

ที่มา : หนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ

 

 

 

ข่าวโครงการอสังหาฯ ภาคเอกชน อื่นๆ