ฮ่องกงสนลงทุนอีอีซี 50นักธุรกิจรายใหญ่มาไทย8พ.ค.พร้อมลงพื้นที่จริงชมศักยภาพ
Loading

ฮ่องกงสนลงทุนอีอีซี 50นักธุรกิจรายใหญ่มาไทย8พ.ค.พร้อมลงพื้นที่จริงชมศักยภาพ

วันที่ : 28 เมษายน 2560
ฮ่องกงสนลงทุนอีอีซี 50นักธุรกิจรายใหญ่มาไทย8พ.ค.พร้อมลงพื้นที่จริงชมศักยภาพ


        
"สมคิด" เตรียมรับ 50 นักธุรกิจฮ่องกงรายใหญ่เยือนไทย ลง พื้นที่อีอีซี 8 พ.ค. เผยไชน่าเมอร์ชานท์ สนลงทุนผลิตแบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้า

          นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยในระหว่างนำรัฐมนตรีกระทรวงเศรษฐกิจและหน่วยงานเกี่ยวข้องมาเยือนเขตปกครองพิเศษฮ่องกงระหว่างวันที่ 26-29 เม.ย. ซึ่งมีโอกาสได้พบ นักลงทุนรายใหญ่เป็นการหารือรูปแบบรายบริษัท (One On One) หลายราย มีทั้งกลุ่มที่มีการลงทุนในไทยแล้วและกลุ่มที่ยังไม่มี แต่สนใจจะลงทุนในไทย ซึ่งทั้งหมดมองว่าไทยเป็นพื้นที่ยุทธศาสตร์ของกลุ่มประเทศซีแอลเอ็มวีที ซึ่งประกอบด้วย กัมพูชา สปป.ลาว เมียนมา เวียดนาม และไทย

          ทั้งนี้ นักลงทุนรายใหญ่ซึ่งเป็นสมาชิกของสภาพัฒนาการค้า (HKTDC) ประมาณ 50 รายจะเดินทางไปเยือนประเทศไทย โดยหลักๆ จะมีการลง พื้นที่ระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก (อีอีซี) เพื่อดูศักยภาพและจะพบกับ ผู้พัฒนานิคมอุตสาหกรรมหลักๆ เช่น กลุ่มอมตะ กลุ่มดับบลิวเอชเอ เพื่อมองหาแนวทางการพัฒนานิคมอุตสาหกรรมที่จะเป็นพื้นที่สำหรับธุรกิจสัญชาติจีนโดยเฉพาะ ซึ่งขณะนี้รัฐบาลมีนโยบายสนับสนุนให้มีการพัฒนาเป็นพื้นที่การลงทุนสำหรับนักลงทุนหลักๆ คือ ญี่ปุ่น จีน เกาหลีใต้ อยู่แล้ว

          "การที่นักลงทุนฮ่องกงจะเดินทางไปพื้นที่อีอีซีในช่วงวันที่ 8 พ.ค.นี้ ผมจะให้มีการจัดสัมมนาใหญ่เพื่อให้ข้อมูลแก่นักลงทุนและอาจจะมีกำหนดการ เข้าพบ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ด้วย ซึ่งการเดินทางเยือนของคณะนักธุรกิจฮ่องกง ที่ตอนนี้เป็นหัวหอกสำคัญของจีนแสดงให้เห็นว่าเขาให้ความสำคัญกับไทยมาก" นายสมคิด กล่าว

          นายกอบศักดิ์ ภูตระกูล ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ในส่วนการเจรจารายบริษัท ได้หารือกับกลุ่มไชน่าเมอร์ชานท์ กรุ้ป ซึ่งเป็น 1 ใน 2 รัฐวิสาหกิจที่กำไรสูงสุดของจีน ซึ่งปัจจุบันก็เป็นบริษัทที่เป็น หัวหอกสำคัญของยุทธศาสตร์ One Belt One Road ของจีน เนื่องจากเป็น กลุ่มทำธุรกิจที่ครอบคลุมทั้งโลจิสติกส์โดยเฉพาะท่าเรือ ที่ปัจจุบันกลุ่มบริหารท่าเรืออยู่ 48 แห่ง 20 ประเทศทั่วโลก ธุรกิจการเงินที่ปัจจุบันใหญ่เป็นอันดับ 5 ของจีน และธุรกิจอสังหาริมทรัพย์และยังเป็นที่ปรึกษาให้กับบริษัทขนาดใหญ่ของฮ่องกงและจีนจะไปลงทุน ในที่ต่างๆ ทั่วโลก

          นอกจากนี้ กลุ่มไชน่าเมอร์ชานท์มีความสนใจการลงทุนในไทยโดยเฉพาะธุรกิจท่าเรือ ซึ่งขณะนี้ไทยเองก็ต้องการให้นักลงทุนเข้าไปลงทุนในโครงการแหลมฉบังเฟส 3 เพราะเป็นท่าเรือ ที่มีศักยภาพโดยเฉพาะการเป็นพื้นที่ ที่รถไฟจากจีนเชื่อมมาถึงในอนาคตและจะเป็นเส้นทางการขนส่งที่มีศักยภาพสูง และยังให้ความสนใจโครงการพัฒนาเมืองในอีอีซีด้วย เพราะปัจจุบันกลุ่ม เมอร์ชานท์มีการพัฒนาอสังหาฯ ทั้งในจีนและต่างประเทศ รวม 12 ล้านตารางเมตร(ตร.ม.) และเป็นกลุ่มการเงินใหญ่อันดับ 5 ของจีนที่พร้อมสนับสนุน นักลงทุนจีนเข้ามาลงทุนในไทย

          นายอุตตม สาวนายน รมว. อุตสาหกรรม กล่าวว่า รองนายกรัฐมนตรี ได้หารือกับบริษัท Hybrid Kinetic ซึ่งเป็นบริษัทผู้ผลิตรถยนต์ที่ใช้พลังงานทางเลือกใหม่และแบตเตอรี่ลิเทียม ที่ใช้ในรถยนต์ไฟฟ้า และปัจจุบันมีการตั้งสำนักงานและดำเนินการผลิตทั้งในจีน เซี่ยงไฮ้ และมณฑลเจียงซู และประเทศสหรัฐ ในรัฐโคโลราโด ซึ่งแสดงความสนใจมาลงทุนในประเทศไทย

          นางอภิรดี ตันตราภรณ์ รมว.พาณิชย์ กล่าวว่า รองนายกรัฐมนตรี ได้ร่วมคณะของกระทรวงพาณิชย์ในการหารือกับบริษัท HOP CHEN LIMITED ซึ่ง เป็นบริษัทผู้นำเข้าผักและผลไม้รายใหญ่จากไทยปัจจุบันมีการนำเข้าเป็นมูลค่า 500 ล้านเหรียญฮ่องกง เป็น 1,000 ล้านเหรียญฮ่องกง หรือประมาณ 4 หมื่นล้านบาท ภายในระยะเวลา 3 ปี โดยการนำเข้าสินค้าเพิ่มขึ้นจะต้องคำนึงถึงคุณภาพการส่งออกสินค้าเป็นหลัก เนื่องจากผักและผลไม้ที่จำหน่ายในฮ่องกงจะเข้าสู่ตลาดจีนด้วยหากสามารถรักษาคุณภาพได้ รวมทั้งต้องการนำเข้าผลไม้อื่นๆ เพิ่มเติม เช่น ชมพู่ มังคุด กล้วย และผักต่างๆ หากนำมาจำหน่ายให้เอกชนได้เชื่อว่าจะเป็นผลดีเพราะจีนนิยมซื้อสินค้าจากฮ่องกง

ที่มา : หนังสือพิมพ์โพสต์ทูเดย์