เพอร์เฟค ชี้ตลาดคอนโด ส่อติดลบหนักสุดรอบ10ปี
Loading

เพอร์เฟค ชี้ตลาดคอนโด ส่อติดลบหนักสุดรอบ10ปี

วันที่ : 2 ตุลาคม 2562
เพอร์เฟค ฟันธงสิ้นปีภาพรวมตลาดแนวราบโต 3-5% ขณะคอนโดติดลบ 25% หนักสุด รอบ 10 ปี ผุดแคมเปญ "คอนโด ออฟ เดอะ เยียร์ จองคอนโด โกเจแปน" ระบายสต็อก 6,000 ล้านบาท ไตรมาสสุดท้าย คาดว่าช่วยระบายได้ 1,500 ล้านบาท
          เพอร์เฟค ฟันธงสิ้นปีภาพรวมตลาดแนวราบโต 3-5% ขณะคอนโดติดลบ 25% หนักสุด รอบ 10 ปี ผุดแคมเปญ "คอนโด ออฟ เดอะ เยียร์ จองคอนโด โกเจแปน" ระบายสต็อก 6,000 ล้านบาท ไตรมาสสุดท้าย คาดว่าช่วยระบายได้ 1,500 ล้านบาท

          นายวงศกรณ์ ประสิทธิ์วิภาต กรรมการผู้จัดการ บริษัท พร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า แนวโน้มตลาดแนบราบในปีนี้เริ่ม ปรับตัวดีขึ้นคาดว่าทั้งปีน่าจะ เติบโตได้ราว 3-5% ส่วนตลาดคอนโดมิเนียมคาดว่าจะติดลบ 25% นับเป็นการติดลบหนักสุดในรอบ 10 ปีเนื่องจากได้รับผล กระทบจากมาตรการคุมเข้มสินเชื่ออสังหาริมทรัพย์ (LTV) และปัจจัยลบเศรษฐกิจ กำลังซื้อทั้งในประเทศและต่างประเทศ ฉุดความต้องการ อสังหาฯของคนไทย ขณะที่ ค่าเงินบาทที่แข็งค่าขึ้น ทำให้ราคาอสังหาฯในไทยแพงขึ้น ฉุดความต้องการซื้ออสังหาฯของชาวต่างชาติ

          "ผลกระทบจากมาตรการแอลทีวี ถือเป็นปัจจัยสำคัญที่ส่งผลกระทบ ตลาดคอนโดได้รับผลกระทบรุนแรงมากที่สุดในรอบ10ปี ประกอบกับมีปัจจัยลบอื่นเข้ามาในช่วงเวลา ใกล้เคียงกัน ดังนั้นจึงอยากให้ภาครัฐออกมาตรการกระตุ้นตลาดคอนโด ให้ฟื้นตัวเร็วขึ้นจากปกติน่าใช้ระยะเวลา 1 ปีในการฟื้นตัว"

          นายวงศกรณ์ ยังกล่าวว่า จากสถานการณ์ดังกล่าว ทำให้ในช่วงไตรมาส 4 บริษัทจะออกแคมเปญ ภายใต้ชื่อ "คอนโด ออฟ เดอะ เยียร์ จองคอนโด โกเจแปน" เพื่อกระตุ้นตลาดอสังหาฯ ในช่วงโค้งสุดท้ายของปี โดยจะนำสินค้าพร้อมโอน (สต็อก) ที่มีในมือ มูลค่ากว่า 6,000 ล้านบาท จากคอนโดที่มีอยู่ 10 โครงการ มาร่วมแคมเปญเพื่อระบายสต็อก โดยลูกค้าที่ซื้อทุกยูนิตจะได้ตั๋วไปเที่ยวญี่ปุ่นฟรี 2 ที่นั่ง 3 วัน2 คืน คาดว่าจะสามารถระบายได้ 1,500 ล้านบาท

          ส่วนโครงการ อยู่รวยคอนโด หนึ่งใน "โครงการบ้านล้านหลัง" ของธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) ที่พร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟคเข้าร่วมโครงการ ได้พยายามขยายฐานลูกค้ามายังกลุ่มมนุษย์เงินเดือนที่มีเงินเดือนประจำ 2-3 หมื่นบาท ในราคาเดียว 899,000 บาทจากเดิมจับกลุ่มแม่ค้า วินมอเตอร์ไซค์ ส่วนแผนในปีหน้าจะเน้นทำโครงการแนวราบ คอนโดโลว์ไรส์ 1-2 โครงการเพื่อลดความเสี่ยง คืนทุนเร็ว

          เขายังกล่าวถึง ทำเลที่ยังมีศักยภาพภายใต้ภาวะตลาด อสังหาฯ ชะลอตัว โดยประเมินว่า ทำเลถนนศรีนครินทร์-ร่มเกล้า หรือกรุงเทพกรีฑาตัดใหม่ ซึ่งบริษัทกำลังจะเปิดตัวโครงการปลายปีนี้ เป็นหนึ่งในทำเลที่ยังมีความต้องการ

          ทั้งนี้ เนื่องจากนักพัฒนา อสังหาฯหลายรายมีที่ดินอยู่ย่านดังกล่าวไม่ว่าจะเป็น แสนสิริ เอสซี แอสเสท พฤกษา เอพี ฯลฯ ในการ พัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยชั้นดีที่พัฒนาโดยผู้ประกอบการรายใหญ่ เพราะทำเลสามารถเชื่อมต่อกับทั้งใจกลางเมืองและสนามบินสุวรรณภูมิ ส่งผลให้ปัจจุบันราคาพื้นที่ในวงแหวนเพิ่มขึ้นก้าวกระโดดจากไร่ละ 4 ล้านบาทเป็น 10-12 ล้านบาท ภายในระยะเวลา 7-8 ปี

          ปัจจุบันบริษัทมีที่ดินในย่านนี้ จำนวน 400 ไร่ คิดเป็นมูลค่า หมื่นล้านบาท โดยพัฒนาโครงการบ้าน ระดับราคา 20-50 ล้านบาท จำนวน 200 ไร่ ส่วนที่เหลืออีก 200 ไร่ จะดำเนินการต่อภายใต้โครงการ เพอร์เฟค มาสเตอร์พีซ ในราคาตั้งแต่ 7-55 ล้านบาทต่อยูนิต ราคาเฉลี่ย 25 ล้านบาทต่อยูนิต ซึ่งกลุ่มลูกค้ามีกำลังซื้อและไม่ได้รับผลกระทบจากเศรษฐกิจและมาตรการแอลทีวี

          นอกจากนี้ บริษัทยังมีที่ดินที่เหลืออยู่ในร่มเกล้า 100 ไร่ จับกลุ่ม ลูกค้าบ้านแฝด บ้านเดี่ยวราคา 5-7 ล้านบาท และรามคำแหง 200 ไร่ ระดับราคา 7-20 ล้านบาท
 
ข่าวโครงการอสังหาฯ ภาคเอกชน อื่นๆ