แนวโน้มธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ปี 2563 เผชิญความเสี่ยงจากปัจจัยภายในและภายนอกประเทศกระทบต่อความเชื่อมั่นและกำลังซื้อที่ยังเป็นโจทย์ใหญ่ต่อเนื่อง จากปี 2562 ที่ผ่านมา มีหลายปัจจัยส่งสัญญาณ ให้ผู้ประกอบการตั้งรับและปรับตัวสอดรับ สถานการณ์

          ศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ รายงานดัชนีราคาที่อยู่อาศัย ประจำไตรมาส 4/2562 โดยพบว่าดัชนีราคาห้องชุดใหม่ที่อยู่ระหว่างการขาย ในกรุงเทพฯ-ปริมณฑล ไตรมาส 4 ปี 2562 มีค่าดัชนีเท่ากับ 153.8 จุด เพิ่มขึ้น 4.3% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน แต่เป็นการเพิ่มขึ้นในอัตราที่ "ชะลอตัวลง" ติดต่อกัน 3 ไตรมาสตั้งแต่ไตรมาส 2 ปี 2562 ขณะที่ ดัชนีราคาบ้านจัดสรรใหม่ที่อยู่ระหว่างการขาย ในกรุงเทพฯ และปริมณฑล ไตรมาส 4 ปี 2562  มีค่าดัชนีเท่ากับ 127.6 จุด ขยายตัวเพิ่มขึ้น 2.7% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน

          "การชะลอตัวของราคาคาดว่าเป็นผลจากการที่ผู้ประกอบการส่วนใหญ่ไม่มีการปรับราคาขึ้น และยังคงใช้มาตรการส่งเสริมการขายในแนวทางเดิม ที่มุ่งเน้นการให้ของแถม ส่วนลดเงินสดและการออกค่าใช้จ่ายในวันโอนกรรมสิทธิ์อย่างต่อเนื่องจากช่วงไตรมาสก่อนหน้า ทำให้ดัชนีราคาใกล้เคียงกับไตรมาสก่อนหน้าด้วยเช่นกัน"

          โดย กรุงเทพฯ มีค่าดัชนีเท่ากับ 155.4 จุด เพิ่มขึ้น 4.6% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน  และเพิ่มขึ้น 0.5% เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า  ส่วน ปริมณฑล มีค่าดัชนีเท่ากับ 145.9 จุด เพิ่มขึ้น 3.2%  เมื่อเทียบกับ ช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน  และเพิ่มขึ้น 0.3%  เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า

          ขณะเดียวกัน พบว่า รายการส่งเสริม การขายในไตรมาสดังกล่าว ส่วนใหญ่ "58.2%" เร่งรัดการตัดสินใจของผู้ซื้อด้วย ของแถม เช่น เฟอร์นิเจอร์ เครื่องใช้ไฟฟ้า ฯลฯ รองลงมา 23.9% เป็นส่วนลดเงินสด และ 17.9% จะช่วย ผู้ซื้อจ่ายค่าใช้จ่ายในวันโอนกรรมสิทธิ์ที่มีต้นทุนในการโอนลดลงจากมาตรการของรัฐ ซึ่งเป็นแนวทางเดียวกับรายการส่งเสริมการขายในไตรมาสก่อนหน้า ขณะที่  ดัชนีราคาบ้านจัดสรรใหม่ (บ้านเดี่ยว, ทาวน์เฮ้าส์) ที่อยู่ระหว่าง การขาย ในกรุงเทพฯ และปริมณฑล ไตรมาส 4 ปี 2562  มีค่าดัชนี 127.6 จุด เพิ่มขึ้น 2.7% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน และเพิ่มขึ้น 0.6% เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า

          เมื่อจำแนกตามพื้นที่แล้ว พบว่า กรุงเทพฯ มีค่าดัชนี 126.6 จุด เพิ่มขึ้น 2.8% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนและเพิ่มขึ้น 0.4% เมื่อเทียบกับไตรมาส ก่อนหน้า ปริมณฑล มีค่าดัชนีเท่ากับ 128.3 จุด เพิ่มขึ้น 2.7%  เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน และเพิ่มขึ้น 0.6% เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า

          ทั้งนี้ มีข้อสังเกตว่า ในไตรมาสนี้ ผู้ประกอบการที่ส่งเสริมการขายโดย การช่วยผู้ซื้อจ่ายค่าใช้จ่ายในวัน โอนฯ และให้ส่วนลดเงินสดมีสัดส่วนมากกว่า ในไตรมาส 3 ปี 2562

          สำหรับ  "ดัชนีราคาบ้านเดี่ยว"  ในกรุงเทพฯ และปริมณฑล ไตรมาส 4 ปี 2562 มีค่าดัชนี 125.8 จุด เพิ่มขึ้น 2.9% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน  และเพิ่มขึ้น 0.6% เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า

          โดยกรุงเทพฯ มีค่าดัชนี 125.2 จุด เพิ่มขึ้น 3.1% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน  และเพิ่มขึ้น 0.5% เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า ส่วน ปริมณฑล มีค่าดัชนี 126.0 จุด เพิ่มขึ้น 2.9%  เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน  และเพิ่มขึ้น 0.6% เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า

          "ดัชนีราคาทาวน์เฮ้าส์"  ในกรุงเทพฯปริมณฑล มีค่าดัชนี  129.5 จุด เพิ่มขึ้น 2.5% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนและเพิ่มขึ้น 0.5% เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า

          กรุงเทพฯ  มีค่าดัชนี 127.8 จุด เพิ่มขึ้น  2.5% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน  และเพิ่มขึ้น 0.4% เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า ขณะที่ ปริมณฑล มีค่าดัชนี 131.2 จุด เพิ่มขึ้น 2.6% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน  และเพิ่มขึ้น 0.6% เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า

          ทางด้าน รายการส่งเสริมการขายโครงการบ้านจัดสรรใหม่ที่อยู่ระหว่างการขายในไตรมาสนี้ ส่วนใหญ่ "41.0%" จะช่วย ผู้ซื้อจ่ายค่าใช้จ่ายในวันโอนกรรมสิทธิ์ และ/หรือ ฟรีค่าส่วนกลาง รองลงมา 39.1% เสนอของแถม เช่น เครื่องปรับอากาศ เฟอร์นิเจอร์ ผ้าม่าน ปั๊มน้ำ แท้งก์น้ำ ฯลฯ และ  19.9%  จะให้เป็นส่วนลดเงินสด

          ขณะที่ ไตรมาส 3 ปี 2562 รายการ ส่งเสริมการขาย ส่วนใหญ่ "45.4%" จะจูงใจ ผู้ซื้อโดยการเสนอด้วยของแถม เช่น เครื่องปรับอากาศ เฟอร์นิเจอร์ ผ้าม่าน ปั๊มน้ำ  แท้งก์น้ำ ฯลฯ รองลงมา  37.1% จะช่วยผู้ซื้อจ่ายค่าธรรมเนียมในการโอนกรรมสิทธิ์ และ/หรือ ฟรีค่าส่วนกลาง และ 17.5% จะให้เป็นส่วนลดเงินสด

          ดัชนีราคาห้องชุดใหม่ที่อยู่ระหว่างการขาย ในกรุงเทพฯ-ปริมณฑล ไตรมาส 4 ปี 2562 มีค่าดัชนีเท่ากับ 153.8 จุด เพิ่มขึ้น 4.3% แต่เพิ่มขึ้นในอัตราที่ชะลอตัวลงติดต่อกัน 3 ไตรมาสตั้งแต่ไตรมาส 2 ปี 2562