S ปักธงปี 2563 ยอดโอนเติบโตไม่ต่ำกว่า 10% หรือประมาณ 5,500 ล้านบาท เล็งรับรู้ Backlog ในมือที่มีอยู่ 7,500 ล้านบาท เล็งเปิดโครงการใหม่ 2 โครงการ มูลค่ารวมประมาณ 1 หมื่นล้านบาท หรือเฉลี่ยไม่น้อยกว่า 4,000-5,000 ล้านบาทต่อโครงการ ล่าสุดเปิดตัว ดิ เอ็กซ์โทร พญาไท-รางน้ำ มูลค่า 4,000 ล้านบาท ชิงยอดขายไตรมาสแรก

          นายณัฐวุฒิ มัธยมจันทร์ ประธาน เจ้าหน้าที่บริหารการพัฒนาธุรกิจพัก อาศัย บริษัท สิงห์ เอสเตท จำกัด (มหาชน) หรือ S เปิดเผยว่า แผนการดำเนินงานในปี 2563 บริษัทยังคงมีความสนใจที่จะพัฒนาโครงการคอนโดมิเนียมโครงการใหม่ออกมาอย่างต่อเนื่อง โดยในปีนี้บริษัทมองว่าจะมีการเปิดตัวโครงการใหม่ 2 โครงการ เฉลี่ยมูลค่าประมาณ 4,000-5,000 ล้านบาทต่อโครงการ

          เป้ายอดโอนโต 10%

          ทั้งนี้ บริษัทตั้งเป้ายอดโอนในปี 2563 เติบโตไม่น้อยกว่า 10% หรือแตะ 5,500 ล้านบาท โดยปัจจุบันบริษัทมียอดขายรอโอนในมือ (Backlog) แล้วกว่า 7,500 ล้านบาท ทยอยรับรู้ในปีนี้ ประมาณ 5,500-6,000 ล้านบาท จากการโอนโครงการ ดิ เอส อโศก, สิงห์คอมเพล็กซ์ และ เอส 36 เป็นต้น ในส่วนที่เหลือจะทยอยรับรู้ในปี 2564 ตามลำดับ ส่งผลให้คาดว่าในปี 2564 ยอดโอนก็จะเติบโตได้ไม่น้อยกว่า 10% จากปีนี้

          พร้อมกันนี้ บริษัทยังคงมีความสนใจในการขยายการลงทุนโครงการอสังหาริมทรัพย์ใหม่ๆ อย่างต่อเนื่อง ทั้งในรูปแบบของการลงทุนเอง การร่วมทุนกับพันธมิตรที่มีศักยภาพ (JV) และการเข้าซื้อกิจการ (M&A) เป็นต้น เพื่อเข้ามาช่วยสร้างฐานรายได้ให้แข็งแกร่งและมีการเติบโตอย่างเสถียรภาพในอนาคต โดยในปัจจุบันมีการเจรจาอยู่เป็นระยะแต่ยังไม่สามารถระบุรายละเอียดที่ชัดเจนได้ คงต้องรอดูสภาวะตลาดและความเหมาะสมของช่วงเวลาในการลงทุน

          "สำหรับภาพรวมตลาดอสังหา ริมทรัพย์ในปี 2563 มองว่าการแข่งขันยังคงมีอยู่ ในปีที่ผ่านมาสังเกตได้ว่าผู้ประกอบการหลายรายชะลอแผนการเปิดตัวโครงการใหม่หลายโครงการ เนื่องจากสภาวะตลาดยังไม่น่าลงทุนเพราะมาตรการภาครัฐยังไม่เอื้อเท่าที่ควร แต่ด้วยการปลดล็อกหลายๆ อย่างในช่วงที่ผ่านมาทำให้มองว่าปีนี้ผู้เล่นหลักจะกลับมาเปิดโครงการใหม่มากขึ้น ขณะที่มาตรการ LTV มองว่ามีผลกระทบเพียงเล็กน้อยเท่านั้นกลุ่มลูกค้าเป้าหมายมีกำลังซื้อ" นายณัฐวุฒิ กล่าว

          เปิดโปรเจ็กต์ใหม่ 4 พันล.

          ล่าสุด S ได้เปิดตัวโครงการ ดิ เอ็กซ์โทร พญาไท-รางน้ำ (The EXTRO Phayathai-Rangnam) มูลค่าประมาณ 4,000 ล้านบาท ซึ่งเป็นแบรนด์ใหม่ภายใต้คอนเซ็ปต์ ระดับลักซ์ชัวรี โดยโครงการดังกล่าวเป็นอาคารสูง 33 ชั้น ขนาด 411 ยูนิต ตั้งอยู่บนพื้นที่กว่า 2 ไร่ มีห้องพักอาศัย 3 แบบ ได้แก่ 1.ห้องนอน ขนาด 31.25-35 ตารางเมตร 2.ห้องนอน ขนาด 48.25-71.00 ตารางเมตร และ 3.แบบ Duplex ขนาด 82.5-111.75 ตารางเมตร เป็นต้น

          โดยโครงการ The EXTRO Phayathai - Rangnam เสนอราคาขายเฉลี่ย 235,000 บาทต่อ ตารางเมตร หรือราคาเริ่มต้นที่ 5.99 ล้านบาท ทั้งนี้บริษัทมีแผนที่จะเปิดขายโครงการ ดิ เอ็กซ์โทร พญาไทรางน้ำ อย่างเป็นทางการในช่วงระหว่าง วันที่ 22-23 กุมภาพันธ์ 2563 นี้ โดยวางกลุ่มเป้าหมายเป็นคนไทย 70% ส่วนที่เหลือจะเป็นสัดส่วนของต่างชาติ 30% และบริษัทคาดว่าจะมียอดขายของโครงการนี้ไม่น้อยกว่า 50% ภายในปี 2563 นี้

          อย่างไรก็ตาม ในช่วงที่ผ่านมา บริษัทได้รับความสนใจจากลูกค้ากลุ่มเป้าหมายเข้ามาเยี่ยมชมห้องตัวอย่างกว่า 300-400 ราย เบื้องต้นในรอบเปิดจองพิเศษ (Pre-Booking) จำนวน 3 ชั้น กว่า 40 ยูนิต มีการจองไปแล้ว นอกจากนี้ ยังมีชาวต่างชาติสนใจจะซื้อเหมาชั้นอีกจำนวน 42 ยูนิต สะท้อนต่อผลิตภัณฑ์ของบริษัทที่สามารถตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าได้อย่างแท้จริง