PREB แบ็กล็อกแน่น9พันล.ชูหุ้นปันผลสูง-เป้า10.30บาท
วันที่ : 4 กุมภาพันธ์ 2563
PREB เดินหน้าผุดอสังหาแนวราบ มูลค่าราว 1.6 พันล้านบาท "วิโรจน์ เจริญตรา" จัดทัพสอยงานใหม่เติมแบ็กล็อกจาก 9 พันล้านบาทกินยาวปี 64 ฟากโบรกมองหุ้นพื้นฐานแกร่ง ปันผลสูง แนะซื้อ เคาะเป้า 10.30 บาท
"สถาพร เอสเตท" เล็งเปิดตัว"เดอะ คราว พระราม 4" เจาะตลาด คอนโดลักชัวรี สร้างความต่อเนื่องโครงการแนวสูง หลัง "เดอะ เชดด์ สาทร 1" คอนโดแห่งแรกยอดขายพุ่ง 65% กางแผนปี 63 เปิดตัว 3 โครงการใหม่ มูลค่ารวมกว่า 4,600 ล้านบาท ตั้งเป้ายอดขายปี 63 โต 20%
นายสุนทร สถาพร กรรมการผู้จัดการ บริษัท สถาพร เอสเตท จำกัด กล่าวว่า กลยุทธ์ในการรุกตลาดอสังหาริมทรัพย์ในปี 63 นี้ ได้ยกระดับแผนธุรกิจ ด้วยคุณภาพ และความหลากหลายของผลิตภัณฑ์ที่ตอบสนอง Customer's Unmet Needs และการเติบโตของธุรกิจอสังหาฯ ทั้ง คอนโดมิเนียม ไฮไรซ์ ทาวน์โฮม และบ้านเดี่ยว โดยแบ่งสัดส่วนเป็น แนวสูง 33% และแนวราบ 67% โดย แนวราบจะเน้นปัจจัยสำคัญในเรื่องศักยภาพของทำเลในอนาคต ติดถนนเส้นหลัก และใกล้จุดขึ้น-ลงทางด่วน ส่วนแนวสูงจะเน้นปัจจัยสำคัญในเรื่องของทำเล CBD ของกรุงเทพฯ ใกล้ BTS หรือ MRT เพิ่มความสะดวกสบายในการอยู่อาศัย
ทั้งนี้ ในปี 63 มีแผนจะเปิดตัว 3 โครงการใหม่ มูลค่า 4,600 ล้านบาท แบ่งเป็นโครงการแนวราบ 2 โครงการ คือ โครงการ อิเธอร์นิตี้ ทาวน์ พริมโรส วัชรพล ทาวน์โฮม 86 ยูนิต ราคาเริ่มต้น 4.39 ล้านบาท โดยจะเปิดพรีเซล 29 ก.พ.นี้ และโครงการ ดิ อิเธอร์นิตี้ กรีนวู้ด รังสิต -วงแหวน บ้านเดี่ยว บนพื้นที่ 75 ไร่ มูลค่า 2,160 ล้านบาท บนทำเลศักยภาพของศูนย์กลางความเจริญย่านรังสิต ติดถนนใหญ่รังสิต-นครนายก ใกล้ทางด่วนศรีรัช-วงแหวนตะวันออก และใกล้รถไฟฟ้าสายสีแดง (บางซื่อรังสิต) เปิดตัวไตรมาส 3 ปีนี้
ส่วนโครงการสุดท้าย เป็นคอนโดมิเนียมไฮไรซ์ "เดอะ คราวน์ พระราม 4" ติดถนนพระราม 4 มูลค่า 1,920 ล้านบาท โดยจะพัฒนาเป็นโครงการคอนโดไฮไรซ์ระดับลักชัวรี ซึ่งขยับขึ้นมาจับกลุ่มลูกค้าระดับบนเป็นครั้งแรก โดยโครงการดังกล่าวตั้งอยู่ห่างจากสถานีรถไฟฟ้า MRT สถานีลุมพินีเพียง 450 เมตร และสถานีคลองเตย จะเปิดตัวไตรมาส 4 ปี 63 นี้
"ในปีนี้ตั้งเป้าว่าจะมียอดขาย 1,200 ล้านบาท เติบโตจากปีก่อนซึ่งมียอดขาย 1,000 ล้านบาท 20% พร้อมกันนี้ ยังคงมุ่งเน้นที่จะพัฒนาเพื่อตอบสนอง Customer's Unmet Needs" นายสุนทร กล่าว
สำหรับโครงการโครงการ "เดอะ เชดด์ สาทร 1" คอนโดโลว์ไรซ์ 8 ชั้น บนทำเลสาทร -พระราม 4 ซึ่งเปิดขายไปในปี62ที่ผ่านมา ปัจจุบันมียอดจองซื้อแล้ว 65% และอยู่ระหว่างการก่อสร้าง คาดว่าจะแล้วเสร็จไตรมาส1/64 และมั่นใจว่าจะสามารถปิดการขายโครงการได้ในปี64 หลังจากงานก่อสร้างแล้วเสร็จ เนื่องจากราคาขายห้องชุดในโครงการดังกล่าวเฉลี่ยอยู่ที่ 1.2 แสนบาทต่อตารางเมตร ต่ำกว่าโครงการ อื่นๆ ในพื้นที่ซึ่งมีราคาขายขยับขึ้นไปไกล มากแล้ว"
PREB เดินหน้าผุดอสังหาแนวราบ มูลค่าราว 1.6 พันล้านบาท "วิโรจน์ เจริญตรา" จัดทัพสอยงานใหม่เติมแบ็กล็อกจาก 9 พันล้านบาทกินยาวปี 64 ฟากโบรกมองหุ้นพื้นฐานแกร่ง ปันผลสูง แนะซื้อ เคาะเป้า 10.30 บาท
นายวิโรจน์ เจริญตรา รองประธานกรรมการและกรรมการผู้จัดการ บริษัท พรีบิลท์ จำกัด (มหาชน) หรือ PREB เปิดเผยว่า เบื้องต้นในส่วนของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ของบริษัท อิส แอม อาร์ จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทย่อยมีแผนเปิดโครงการประเภทแนวราบใหม่เพิ่มเติม ประมาณ 2-3 โครงการ มูลค่าโครงการรวมทั้งหมดราว 1.6 พันล้านบาท เพื่อสร้างยอดขายเพิ่มเติมให้กับธุรกิจ ซึ่งในส่วนบริษัทได้มีการจัดหาที่ดินรองรับการพัฒนาไว้แล้วบางส่วนเรียบร้อยแล้ว
อวดแบ็กล็อก 9 พันล.
ขณะที่ธุรกิจรับเหมาก่อสร้างภายใต้การดำเนินงาน ทาง PREB มีแผนเข้าประมูลโครงการใหม่ๆ ของภาคเอกชนอย่างต่อเนื่อง คิดเป็นมูลค่าราว 3 พันล้านบาท ซึ่งธุรกิจหวังได้รับการคัดเลือกให้มากที่สุด เพื่อเสริมรายรับให้เพิ่มเติมในอนาคต อย่างไรก็ดี จากการสำรวจข้อมูลล่าสุดพบว่า บริษัทมีงานในมือ (Backlog) อยู่ที่ราว 9 พันล้านบาท ซึ่งส่วนใหญ่มาจากโครงการประเภทอาคารสูงของภาคเอกชน โดยเชื่อน่าจะสามารถทยอยส่งมอบและรับรู้รายได้ต่อเนื่องไปจนถึงปี 2564
ผลงานปีนี้โตต่อ
สำหรับทิศทางผลประกอบการในปี 2563 บริษัทมีรายได้คงเติบโต ต่อเนื่องจากปี 2562 เนื่องจากธุรกิจมีงานในมือ (Backlog) ในส่วนของธุรกิจรับเหมาก่อสร้างที่รอส่งมอบเป็นจำนวนมาก รวมทั้งมีโอกาสได้รับโครงการใหม่ในช่วงที่เหลือปีนี้มาช่วยสนับสนุนอีกทางหนึ่ง
นอกจากนี้ทาง PREB มีแผนเข้าประมูลโครงการใหม่ๆ ของภาคเอกชนอย่างต่อเนื่อง คิดเป็นมูลค่าราว 3 พันล้านบาท โดยธุรกิจหวังได้รับการคัดเลือกจากผู้ประกอบการให้ได้มากที่สุด เพื่อเสริมรายรับให้มากขึ้นและ สนับสนุนการเติบโตในอนาคต
ส่วนเรื่องการที่ธนาคารแห่งประเทศ (ธปท.) มีแนวทางจะผ่อนคลายเกณฑ์คุมเข้มการปล่อยสินค้า (LTV) ในส่วนของการปล่อยกู้บ้านหลังที่ 2 และน่าจะมีความชัดเจนช่วงปลายเดือนนี้นั้นบริษัทมองถือเป็นประเด็นบวกต่อธุรกิจ เพราะจะช่วยสนับสนุนให้การขายที่อยู่อาศัยของบริษัทในอนาคตด้วย
อย่างไรก็ตาม ในช่วงที่ผ่านมาบริษัทได้มีการร่วมทุนกลุ่ม Enrich ผู้ประกอบการที่พัฒนาที่อยู่อาศัยบริเวณถนนราชพฤกษ์ โดยร่วมลงทุนในโครงการ AI ซึ่งเป็นโครงการบ้านทาวน์โฮม ตั้งอยู่บนถนนราชพฤกษ์ บริเวณสวนผัก เพื่อขยายช่องทางสร้างรายรับเพิ่ม เงินลงทุน 46 ล้านบาท คิดเป็น 40% ปัจจุบันโครงการนี้ดำเนินการไปแล้วกว่า 60% ยอดจองและทำสัญญาราว 65% คาดว่าจะเริ่มทยอยส่งมอบบ้านปีหน้าและปิดโครงการช่วงกลางปีหน้า
ปันผลสูง-เป้า 10.30 บาท
นักวิเคราะห์ บริษัทหลักทรัพย์ ทิสโก้ จำกัด กล่าวว่า ฝ่ายวิเคราะห์มีมุมมองเป็นบวกต่อหุ้น PREB เพราะคาดผลประกอบการในไตรมาส 4/2562 ที่คาดจะกลับมาเติบโตทั้งจากช่วงเดียวกันของปีก่อน ผลจากการรับรู้รายได้จาก Backlog ที่เป็นจุดสูงสุดใหม่ที่ 9.5 พันล้านบาท
ขณะเดียวกันยังมีโครงการ JV คอนโดมิเนียม Premio Quinto สถานีรถไฟฟ้าเสนานิคมมีลูกค้าทยอยโอนแล้วราว 160 ยูนิต คิดเป็นราว 36% ของมูลค่าโครงการ 1.4 พันล้านบาท ใกล้เคียงกับสมมติฐานเราที่ 40% ทำให้คาดจะรับรู้ส่วนแบ่งกำไรเข้ามาราว 35-40 ล้านบาท ขณะที่โครงการบ้านเดี่ยวบางแวกของ ISAMARE มูลค่า 1.1 พันล้านบาท ปัจจุบันอยู่ระหว่างก่อสร้างบ้านตัวอย่างตามแผน คาดรับรู้รายได้ได้ตามเป้า 240 ล้านบาท
รวมทั้งพื้นฐานธุรกิจที่แข็งแกร่ง ดังนั้นฝ่ายวิเคราะห์มองว่าหุ้นยังมีความน่าสนใจทั้งการฟื้นตัวของผลประกอบการในไตรมาส 4/2562 และในปี 2563 นอกจากนี้ในแง่ของเงินปันผลที่คาดจะจ่ายสูง 6-7% (คาดจ่ายอีกราว 0.36 บาทต่อหุ้น) จึงให้คำแนะนำ "ซื้อ" หุ้น PREB ให้ราคาเป้าหมาย 10.30 บาท
นายสุนทร สถาพร กรรมการผู้จัดการ บริษัท สถาพร เอสเตท จำกัด กล่าวว่า กลยุทธ์ในการรุกตลาดอสังหาริมทรัพย์ในปี 63 นี้ ได้ยกระดับแผนธุรกิจ ด้วยคุณภาพ และความหลากหลายของผลิตภัณฑ์ที่ตอบสนอง Customer's Unmet Needs และการเติบโตของธุรกิจอสังหาฯ ทั้ง คอนโดมิเนียม ไฮไรซ์ ทาวน์โฮม และบ้านเดี่ยว โดยแบ่งสัดส่วนเป็น แนวสูง 33% และแนวราบ 67% โดย แนวราบจะเน้นปัจจัยสำคัญในเรื่องศักยภาพของทำเลในอนาคต ติดถนนเส้นหลัก และใกล้จุดขึ้น-ลงทางด่วน ส่วนแนวสูงจะเน้นปัจจัยสำคัญในเรื่องของทำเล CBD ของกรุงเทพฯ ใกล้ BTS หรือ MRT เพิ่มความสะดวกสบายในการอยู่อาศัย
ทั้งนี้ ในปี 63 มีแผนจะเปิดตัว 3 โครงการใหม่ มูลค่า 4,600 ล้านบาท แบ่งเป็นโครงการแนวราบ 2 โครงการ คือ โครงการ อิเธอร์นิตี้ ทาวน์ พริมโรส วัชรพล ทาวน์โฮม 86 ยูนิต ราคาเริ่มต้น 4.39 ล้านบาท โดยจะเปิดพรีเซล 29 ก.พ.นี้ และโครงการ ดิ อิเธอร์นิตี้ กรีนวู้ด รังสิต -วงแหวน บ้านเดี่ยว บนพื้นที่ 75 ไร่ มูลค่า 2,160 ล้านบาท บนทำเลศักยภาพของศูนย์กลางความเจริญย่านรังสิต ติดถนนใหญ่รังสิต-นครนายก ใกล้ทางด่วนศรีรัช-วงแหวนตะวันออก และใกล้รถไฟฟ้าสายสีแดง (บางซื่อรังสิต) เปิดตัวไตรมาส 3 ปีนี้
ส่วนโครงการสุดท้าย เป็นคอนโดมิเนียมไฮไรซ์ "เดอะ คราวน์ พระราม 4" ติดถนนพระราม 4 มูลค่า 1,920 ล้านบาท โดยจะพัฒนาเป็นโครงการคอนโดไฮไรซ์ระดับลักชัวรี ซึ่งขยับขึ้นมาจับกลุ่มลูกค้าระดับบนเป็นครั้งแรก โดยโครงการดังกล่าวตั้งอยู่ห่างจากสถานีรถไฟฟ้า MRT สถานีลุมพินีเพียง 450 เมตร และสถานีคลองเตย จะเปิดตัวไตรมาส 4 ปี 63 นี้
"ในปีนี้ตั้งเป้าว่าจะมียอดขาย 1,200 ล้านบาท เติบโตจากปีก่อนซึ่งมียอดขาย 1,000 ล้านบาท 20% พร้อมกันนี้ ยังคงมุ่งเน้นที่จะพัฒนาเพื่อตอบสนอง Customer's Unmet Needs" นายสุนทร กล่าว
สำหรับโครงการโครงการ "เดอะ เชดด์ สาทร 1" คอนโดโลว์ไรซ์ 8 ชั้น บนทำเลสาทร -พระราม 4 ซึ่งเปิดขายไปในปี62ที่ผ่านมา ปัจจุบันมียอดจองซื้อแล้ว 65% และอยู่ระหว่างการก่อสร้าง คาดว่าจะแล้วเสร็จไตรมาส1/64 และมั่นใจว่าจะสามารถปิดการขายโครงการได้ในปี64 หลังจากงานก่อสร้างแล้วเสร็จ เนื่องจากราคาขายห้องชุดในโครงการดังกล่าวเฉลี่ยอยู่ที่ 1.2 แสนบาทต่อตารางเมตร ต่ำกว่าโครงการ อื่นๆ ในพื้นที่ซึ่งมีราคาขายขยับขึ้นไปไกล มากแล้ว"
PREB เดินหน้าผุดอสังหาแนวราบ มูลค่าราว 1.6 พันล้านบาท "วิโรจน์ เจริญตรา" จัดทัพสอยงานใหม่เติมแบ็กล็อกจาก 9 พันล้านบาทกินยาวปี 64 ฟากโบรกมองหุ้นพื้นฐานแกร่ง ปันผลสูง แนะซื้อ เคาะเป้า 10.30 บาท
นายวิโรจน์ เจริญตรา รองประธานกรรมการและกรรมการผู้จัดการ บริษัท พรีบิลท์ จำกัด (มหาชน) หรือ PREB เปิดเผยว่า เบื้องต้นในส่วนของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ของบริษัท อิส แอม อาร์ จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทย่อยมีแผนเปิดโครงการประเภทแนวราบใหม่เพิ่มเติม ประมาณ 2-3 โครงการ มูลค่าโครงการรวมทั้งหมดราว 1.6 พันล้านบาท เพื่อสร้างยอดขายเพิ่มเติมให้กับธุรกิจ ซึ่งในส่วนบริษัทได้มีการจัดหาที่ดินรองรับการพัฒนาไว้แล้วบางส่วนเรียบร้อยแล้ว
อวดแบ็กล็อก 9 พันล.
ขณะที่ธุรกิจรับเหมาก่อสร้างภายใต้การดำเนินงาน ทาง PREB มีแผนเข้าประมูลโครงการใหม่ๆ ของภาคเอกชนอย่างต่อเนื่อง คิดเป็นมูลค่าราว 3 พันล้านบาท ซึ่งธุรกิจหวังได้รับการคัดเลือกให้มากที่สุด เพื่อเสริมรายรับให้เพิ่มเติมในอนาคต อย่างไรก็ดี จากการสำรวจข้อมูลล่าสุดพบว่า บริษัทมีงานในมือ (Backlog) อยู่ที่ราว 9 พันล้านบาท ซึ่งส่วนใหญ่มาจากโครงการประเภทอาคารสูงของภาคเอกชน โดยเชื่อน่าจะสามารถทยอยส่งมอบและรับรู้รายได้ต่อเนื่องไปจนถึงปี 2564
ผลงานปีนี้โตต่อ
สำหรับทิศทางผลประกอบการในปี 2563 บริษัทมีรายได้คงเติบโต ต่อเนื่องจากปี 2562 เนื่องจากธุรกิจมีงานในมือ (Backlog) ในส่วนของธุรกิจรับเหมาก่อสร้างที่รอส่งมอบเป็นจำนวนมาก รวมทั้งมีโอกาสได้รับโครงการใหม่ในช่วงที่เหลือปีนี้มาช่วยสนับสนุนอีกทางหนึ่ง
นอกจากนี้ทาง PREB มีแผนเข้าประมูลโครงการใหม่ๆ ของภาคเอกชนอย่างต่อเนื่อง คิดเป็นมูลค่าราว 3 พันล้านบาท โดยธุรกิจหวังได้รับการคัดเลือกจากผู้ประกอบการให้ได้มากที่สุด เพื่อเสริมรายรับให้มากขึ้นและ สนับสนุนการเติบโตในอนาคต
ส่วนเรื่องการที่ธนาคารแห่งประเทศ (ธปท.) มีแนวทางจะผ่อนคลายเกณฑ์คุมเข้มการปล่อยสินค้า (LTV) ในส่วนของการปล่อยกู้บ้านหลังที่ 2 และน่าจะมีความชัดเจนช่วงปลายเดือนนี้นั้นบริษัทมองถือเป็นประเด็นบวกต่อธุรกิจ เพราะจะช่วยสนับสนุนให้การขายที่อยู่อาศัยของบริษัทในอนาคตด้วย
อย่างไรก็ตาม ในช่วงที่ผ่านมาบริษัทได้มีการร่วมทุนกลุ่ม Enrich ผู้ประกอบการที่พัฒนาที่อยู่อาศัยบริเวณถนนราชพฤกษ์ โดยร่วมลงทุนในโครงการ AI ซึ่งเป็นโครงการบ้านทาวน์โฮม ตั้งอยู่บนถนนราชพฤกษ์ บริเวณสวนผัก เพื่อขยายช่องทางสร้างรายรับเพิ่ม เงินลงทุน 46 ล้านบาท คิดเป็น 40% ปัจจุบันโครงการนี้ดำเนินการไปแล้วกว่า 60% ยอดจองและทำสัญญาราว 65% คาดว่าจะเริ่มทยอยส่งมอบบ้านปีหน้าและปิดโครงการช่วงกลางปีหน้า
ปันผลสูง-เป้า 10.30 บาท
นักวิเคราะห์ บริษัทหลักทรัพย์ ทิสโก้ จำกัด กล่าวว่า ฝ่ายวิเคราะห์มีมุมมองเป็นบวกต่อหุ้น PREB เพราะคาดผลประกอบการในไตรมาส 4/2562 ที่คาดจะกลับมาเติบโตทั้งจากช่วงเดียวกันของปีก่อน ผลจากการรับรู้รายได้จาก Backlog ที่เป็นจุดสูงสุดใหม่ที่ 9.5 พันล้านบาท
ขณะเดียวกันยังมีโครงการ JV คอนโดมิเนียม Premio Quinto สถานีรถไฟฟ้าเสนานิคมมีลูกค้าทยอยโอนแล้วราว 160 ยูนิต คิดเป็นราว 36% ของมูลค่าโครงการ 1.4 พันล้านบาท ใกล้เคียงกับสมมติฐานเราที่ 40% ทำให้คาดจะรับรู้ส่วนแบ่งกำไรเข้ามาราว 35-40 ล้านบาท ขณะที่โครงการบ้านเดี่ยวบางแวกของ ISAMARE มูลค่า 1.1 พันล้านบาท ปัจจุบันอยู่ระหว่างก่อสร้างบ้านตัวอย่างตามแผน คาดรับรู้รายได้ได้ตามเป้า 240 ล้านบาท
รวมทั้งพื้นฐานธุรกิจที่แข็งแกร่ง ดังนั้นฝ่ายวิเคราะห์มองว่าหุ้นยังมีความน่าสนใจทั้งการฟื้นตัวของผลประกอบการในไตรมาส 4/2562 และในปี 2563 นอกจากนี้ในแง่ของเงินปันผลที่คาดจะจ่ายสูง 6-7% (คาดจ่ายอีกราว 0.36 บาทต่อหุ้น) จึงให้คำแนะนำ "ซื้อ" หุ้น PREB ให้ราคาเป้าหมาย 10.30 บาท
ข่าวโครงการอสังหาฯ ภาคเอกชน อื่นๆ