คอนโดฯลุ้น-หวั่นลูกค้าจีนทิ้งดาวน์ คาดพิษโคโรนายื้อต่างชาติลงทุน1.5แสนล้าน
Loading

คอนโดฯลุ้น-หวั่นลูกค้าจีนทิ้งดาวน์ คาดพิษโคโรนายื้อต่างชาติลงทุน1.5แสนล้าน

วันที่ : 11 กุมภาพันธ์ 2563
คอนโดฯ ทรุดพิษไวรัสโคโรนาทำเอเยนต์ ชาวจีนหายเงียบ หวั่นคนจีนทิ้งดาวน์หนีรับโอนห้องชุด เหตุออกนอกประเทศลำบาก ชี้แบ็กล็อกรอโอนกว่า 40,000 ล้านบาทลุ้นหนาวๆ ร้อนๆ ด้านคอลลิเออร์สชี้ลูกค้า-นักลงทุนจีนชะลอลงทุน 1.5 แสนล้าน
        คอนโดฯ ทรุดพิษไวรัสโคโรนาทำเอเยนต์ ชาวจีนหายเงียบ หวั่นคนจีนทิ้งดาวน์หนีรับโอนห้องชุด เหตุออกนอกประเทศลำบาก ชี้แบ็กล็อกรอโอนกว่า 40,000 ล้านบาทลุ้นหนาวๆ ร้อนๆ ด้านคอลลิเออร์สชี้ลูกค้า-นักลงทุนจีนชะลอลงทุน 1.5 แสนล้าน            
        นายสุรเชษฐ กองชีพ กรรมการผู้จัดการบริษัท ฟินิกซ์ พร็อพเพอร์ตี้ ดีเวลล็อปเม้นท์ แอนด์ คอนซัลแทนซี่ จำกัด เปิดเผยว่า นับจากเกิดวิกฤตไวรัสโคโรนาในประเทศจีนและแพร่ระบาดในขณะนี้ ส่งกระทบต่อธุรกิจการท่องเที่ยวของไทยและธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับการท่องเที่ยวอย่างมาก เนื่องจากปัจจุบันนักท่องเที่ยวชาวจีนถือเป็นกลุ่มลูกค้าหลักปีละประมาณ 10 ล้านคน คิดเป็นมูลค่าสูงถึง 5 แสนล้านบาทต่อปี โดยเฉพาะในเมืองท่องเที่ยวสำคัญได้แก่ กรุงเทพฯ ภูเก็ต พัทยา และเชียงใหม่ นับจากที่รัฐบาลจีนห้ามไม่ให้บริษัททัวร์พาลูกค้าคนจีนออกนอกประเทศ ทำให้กรุ๊ปทัวร์ชาวจีนหายไปเกือบ 100% ส่งผลให้โรงแรมที่รับลูกค้าชาวจีนเป็นหลักลูกค้าหายไป 100% เช่นกัน โรงแรมบางแห่งเพื่อให้โรงแรมอยู่รอดต้องให้พนักงานหยุดงานหรือสลับกันมาทำงาน
        แม้ว่ากลุ่มนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาเอง หรือ FIT ซึ่งกลุ่มนี้มีประมาณ 30% ของลูกค้าชาวจีนยังสามารถเดินทางออกมาท่องเที่ยวได้ แต่ก็มีน้อยลงมาก ทั้งนี้หากสถานการณ์ดังกล่าวยืดเยื้อไปจนถึงเดือนมีนาคมหรือเข้าสู่ไตรมาส 2 คาดว่านอกจากกระทบธุรกิจท่องเที่ยวอย่างหนัก เนื่องจากไทยพึ่งพิงนักท่องเที่ยวชาวจีน แล้วยังจะส่งผลกระทบลามไปยังธุรกิจอื่นอย่างแน่นอน ซึ่งต่างจากในอดีตสมัยที่เกิดโรคซาร์สขณะนั้นชาวจีนมาเที่ยวไทยแค่ไม่ถึงล้านคน คนจีนลดไปแค่ 20-25% หรือประมาณ 200,000-300,000 คนก็ไม่ได้ส่งผลกระทบมาก แต่ปัจจุบันคนจีนมาเที่ยวไทยปีละ 10 ล้านคน การที่ชาวจีนหายไปย่อมส่งผลกระทบอย่ามากแน่นอน
        นายสุรเชรษฐ กล่าวต่อว่า ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ที่ได้รับผลกระทบมาอย่างต่อเนื่องนับตั้งแต่ภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัว สงครามการค้า และเงินบาทแข็งค่าขึ้นเกือบ 30% ทำให้กลุ่มผู้ซื้อชาวต่างชาติโดยเฉพาะชาวจีนหายไปกว่า 50% และเมื่อเจอกับวิกฤตไวรัสโคโรนา ทำให้ลูกค้าชาวจีนหายไป แม้กระทั่งนายหน้าอสังหาฯชาวจีนที่มีนัดกับเอเยนต์หรือผู้ประกอบการไทยก็หายไปเช่นกัน
"ตอนนี้เอเยนต์ชาวจีนหายไปหมด ที่มีนัดกับผู้ประกอบการหรือเอเยนต์คนไทยเพื่อดูโครงการ ทำสัญญาหรือแม้แต่นัดโอนห้องตอนนี้หายไปเลย ส่วนหนึ่งมาจากการที่เค้าออกนอกประเทศลำบาก เอเยนต์บางรายหายไปเลยไม่ติดต่อกลับด้วยซ้ำเพราะบางเมืองออกกฎให้ชาวเมืองออกจากบ้านได้วันละ 1-2 คนเท่านั้น" นายสุรเชรษฐ กล่าว
        อย่างไรก็ตาม สิ่งที่น่าเป็นห่วง คือกลุ่มผู้ซื้อชาวจีนที่ซื้ออสังหาฯ ไทยไปก่อนหน้านี้จะมารับโอนกรรมสิทธิ์หรือไม่ โดยคาดว่ายอดขายรอโอนที่ลูกค้าชาวจีนซื้อไปจะมีมูลค่าสูงถึงประมาณ 40,000-50,000 ล้านบาท ที่จะต้องทยอยโอนในไตรมาส 1 ของปีนี้ ลูกค้าอาจมีข้ออ้างในการรับโอนได้ ซึ่งจะกระทบต่อรายได้ของผู้ประกอบการคอนโดมิเนียมที่มีพอร์ตลูกค้าชาวจีนจำนวนมากได้ อย่างไรก็ดี หากสถานการณ์คลี่คลายได้ เร็วขึ้นลูกค้าอาจมารับรับโอนในภายหลังหรือในช่วงไตรมาส 2 ได้
        โคโรนาทำทุนจีนชะงักลงทุนไทย 1.5 แสนล้าน
        นายภัทรชัย ทวีวงศ์ รองผู้อำนวยการ ฝ่ายวิจัย บริษัท คอลลิเออร์ส อินเตอร์เนชั่นแนล ประเทศไทย จำกัด เปิดเผยว่า การลงทุนซื้อ อสังหาฯ ในไทยของชาวจีนมีแนวโน้มอ่อนตัวลงนับตั้งแต่ไตรมาส 3 ปี 2561 และเริ่มอ่อนตัวชัดเจนในปี 2562 ซึ่งจะเห็นได้ว่าชาวต่างชาติจะเลือกซื้อโครงการที่มีศักยภาพ อยู่ในทำเลที่ดี ให้ผลตอบแทนสูงไม่ซื้อแบบเหวี่ยงแหเช่นในอดีต
        ส่วนวิกฤตโคโรน่าเป็นผลกระทบที่เข้ามาซ้ำเติมตลาดที่ชะลอตัวอยู่แล้วให้ชะลอตัวมากยิ่งขึ้น ซึ่งธุรกิจกิจท่องเที่ยวได้รับผลกระทบมากที่สุด เนื่องจากนักท่องเที่ยวจีนมาเที่ยวไทยมากว่า 10 ล้านคนติดต่อกัน 2 ปีตั้งแต่ปี 2561 และ 2562 ซึ่งก่อนหน้านี้ชาวจีนเข้ามาซื้ออสังหาฯในไทยมองว่าการลงทุนในไทยมีโอกาสเติบโตสูง และเพื่อรองรับกลุ่มคนจีนด้วยกัน แต่จากการระบาดของโคโรนา ทำให้นักท่องเที่ยวไม่เฉพาะชาวจีนแต่รวมถึงนักท่องเที่ยวจากชาติอื่นก็ไม่เดินทางมาเนื่องจากมองว่าไทยเป็นประเทศที่มีความเสี่ยง ทำให้โรงแรม ห้องพักถูกยกเลิกแทบจะ 100% หากไม่สามารถควบคุมโรคได้และลากยาวไปถึงไตรมาส 2 จะเกิดผลกระทบอย่างรุนแรง เนื่องจากการท่องเที่ยวเป็นรายได้หลักของประเทศ 2.2 ล้านล้านบาท ยังไม่นับรวมอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้อง และภาคอสังหาฯ
        ที่ผ่านมาพัทยาได้รับผลกระทบจากนักท่องเที่ยวรัสเซียหายจากปัญหาค่าเงิน ซึ่งก็ได้นักท่องเที่ยวจีนเข้ามาชดเชย จีนถือเป็นลูกค้าหลักของเมืองท่องเที่ยว และได้เดินทางไปเที่ยวในแถบหัวหิน ชะอำมากขึ้น จนทำให้มีผู้ประกอบการเข้าไปลงทุนพัฒนา 4-5 โครงการมากกว่า 1,000 ยูนิต ขายแบบเช่าระยะยาวต่ออายุทุก 30 ปี ซึ่งก็พบว่ายังไม่มีนักท่องเที่ยวเข้ามาพักเลยเนื่องจากจีนปิดประเทศหลายเมือง
        ทั้งนี้ คาดการณ์ว่าวิกฤตโคโรนาหากลากยาวไปจนถึงไตรมาส 2 จะส่งผลกระทบอย่างมาต่อเศรษฐกิจโดยรวม และประเมินว่าจะทำให้กลุ่มผู้ซื้อจะไม่มารับโอนและห้องชุด รวมไปถึงกลุ่มนักลงทุนที่เตรียมเข้ามาลงทุนร่วมกับผู้ประกอบการไทยมูลค่ากว่า 1.35 แสนล้านบาทต้องหยุดชะงักการลงในช่วงไตรมาส 1/63
 
ข่าวโครงการอสังหาฯ ภาคเอกชน อื่นๆ