พลัสชี้อสังหาฯหั่นราคา7-15%โอกาสนักลงทุนซื้อปล่อยเช่า
วันที่ : 25 กุมภาพันธ์ 2563
พลัส พร็อพเพอร์ตี้ เผยผลสำรวจตลาดอสังหาฯ พบหั่นราคาลงจากเปิดขายในช่วงแรก 7-15% โอกาสทองนักลงทุนซื้อปล่อยเช่า ด้านภาพรวมคอนโดพร้อมอยู่ ปี 2560-2562 มียอดสะสม 215,479 ยูนิต ส่วนปี 2563-2565 คาดมีคอนโดสร้างเสร็จเพิ่มมาอีก 147,429 ยูนิต
พลัส พร็อพเพอร์ตี้ เผยผลสำรวจตลาดอสังหาฯ พบหั่นราคาลงจากเปิดขายในช่วงแรก 7-15% โอกาสทองนักลงทุนซื้อปล่อยเช่า ด้านภาพรวมคอนโดพร้อมอยู่ ปี 2560-2562 มียอดสะสม 215,479 ยูนิต ส่วนปี 2563-2565 คาดมีคอนโดสร้างเสร็จเพิ่มมาอีก 147,429 ยูนิต
นางสาวสุวรรณี มหณรงค์ชัย รองกรรมการผู้จัดการสายงานพัฒนากลยุทธ์และบริหารสินทรัพย์ บริษัท พลัส พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด เปิดเผยว่า สถานการณ์การลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ในปัจจุบันมีความร้อนแรงลดลงเมื่อเทียบกับในอดีต เนื่องจากปัจจัยหลายด้านทั้งภาวะตลาดอสังหาฯที่ชะลอตัวตามภาวะเศรษฐกิจ รวมถึงจากมาตรการกำกับดูแลสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย (Loan to Value Ratio : LTV) ทำให้ผู้พัฒนา อสังหาฯเร่งระบายสินค้าเก่า และกำลังซื้อภายในประเทศยังซบเซา รวมถึงปัจจัยจากลูกค้าชาวต่างชาติที่ชะลอลงจากสภาพเศรษฐกิจโลกและผลกระทบของไวรัสโควิด-19 ส่งผลให้ระดับราคาคอนโดมิเนียมปัจจุบันปรับลดลง
โดยพบว่าระดับราคาดังกล่าวต่ำกว่าราคาช่วงที่เปิดขายในช่วงแรก ราว 7-15% สอดคล้องกับดัชนีราคาห้องชุดที่อยู่ระหว่างการขายในกรุงเทพฯและปริมณฑลที่ชะลอตัวตั้งแต่ไตรมาสที่ 2/2562 ดังนั้นช่วงที่ ราคาคอนโดปรับลดลงจากระดับปกติ เช่นในตอนนี้จึงเป็นจังหวะที่ดีสำหรับคนที่มีความพร้อม โดยเฉพาะ นักลงทุนระยะยาว โอกาสในจังหวะนี้ อยู่ที่ได้ห้องที่มีราคาถูก
จากการสำรวจของฝ่ายวิจัยและพัฒนา พลัส พร็อพเพอร์ตี้ ยังพบว่าแม้ภาวะตลาดอสังหาฯจะซบเซาแต่ตลาดเช่ายังคงเติบโตให้ผลตอบแทนที่ดี โดยเฉพาะคอนโด ยังสร้างผลตอบแทนที่คุ้มค่า โดยพื้นที่กรุงเทพฯชั้นในที่มีผลตอบแทนการปล่อยเช่าเฉลี่ย 4.0% กรุงเทพฯชั้นกลาง 3.3% และกรุงเทพฯ ชั้นนอก 4.1%
นอกจากนี้ จากการสำรวจพบว่า ปี 2560-2562 มีจำนวนคอนโดที่ สร้างเสร็จและเป็นโครงการที่ยังขาย อยู่ในตลาดราว 405 โครงการ อุปทานสะสมอยู่ที่อยู่ที่ 215,479 ยูนิต ซึ่งลดลงจากปีก่อน เนื่องจากมี อุปทานดูดซับไปบ้างแล้ว ประกอบกับ โครงการใหม่ที่เปิดขายในช่วง 1-2 ปี ที่ผ่านมายังสร้างไม่เสร็จ
อย่างไรก็ตาม ในอนาคตคาดว่าจะมีห้องที่สร้างเสร็จจำนวนมากใน ปี 2563-2565 ราว 147,429 ยูนิต จาก 247 โครงการ กดดันให้ ผู้ประกอบการหลายรายเร่งระบายสินค้าในตลาด เห็นได้จากบางพื้นที่ปรับลดราคาลง โดยการจัดโปรโมชั่น เพื่อกระตุ้นยอดขาย
"แม้ปัจจุบันจะไม่ใช่ปีที่ตลาดอสังหาฯ แต่เป็นปีที่น่าสนใจสำหรับนักลงทุนที่มีความพร้อมและ เน้นลงทุนในระยะกลาง-ยาว เพราะ เป็นโอกาสดีที่จะได้ซื้ออสังหาฯในราคาที่ถูกลง มีโอกาสได้รับ ผลตอบแทนที่คุ้มค่าทั้งในแง่ของการ เพิ่มขึ้นของส่วนต่างราคาในอนาคต ตลอดจนรายได้จากค่าเช่าจากพื้นที่ที่ยังคงมีศักยภาพในการเติบโต" นางสาวสุวรรณี กล่าว
นางสาวสุวรรณี มหณรงค์ชัย รองกรรมการผู้จัดการสายงานพัฒนากลยุทธ์และบริหารสินทรัพย์ บริษัท พลัส พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด เปิดเผยว่า สถานการณ์การลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ในปัจจุบันมีความร้อนแรงลดลงเมื่อเทียบกับในอดีต เนื่องจากปัจจัยหลายด้านทั้งภาวะตลาดอสังหาฯที่ชะลอตัวตามภาวะเศรษฐกิจ รวมถึงจากมาตรการกำกับดูแลสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย (Loan to Value Ratio : LTV) ทำให้ผู้พัฒนา อสังหาฯเร่งระบายสินค้าเก่า และกำลังซื้อภายในประเทศยังซบเซา รวมถึงปัจจัยจากลูกค้าชาวต่างชาติที่ชะลอลงจากสภาพเศรษฐกิจโลกและผลกระทบของไวรัสโควิด-19 ส่งผลให้ระดับราคาคอนโดมิเนียมปัจจุบันปรับลดลง
โดยพบว่าระดับราคาดังกล่าวต่ำกว่าราคาช่วงที่เปิดขายในช่วงแรก ราว 7-15% สอดคล้องกับดัชนีราคาห้องชุดที่อยู่ระหว่างการขายในกรุงเทพฯและปริมณฑลที่ชะลอตัวตั้งแต่ไตรมาสที่ 2/2562 ดังนั้นช่วงที่ ราคาคอนโดปรับลดลงจากระดับปกติ เช่นในตอนนี้จึงเป็นจังหวะที่ดีสำหรับคนที่มีความพร้อม โดยเฉพาะ นักลงทุนระยะยาว โอกาสในจังหวะนี้ อยู่ที่ได้ห้องที่มีราคาถูก
จากการสำรวจของฝ่ายวิจัยและพัฒนา พลัส พร็อพเพอร์ตี้ ยังพบว่าแม้ภาวะตลาดอสังหาฯจะซบเซาแต่ตลาดเช่ายังคงเติบโตให้ผลตอบแทนที่ดี โดยเฉพาะคอนโด ยังสร้างผลตอบแทนที่คุ้มค่า โดยพื้นที่กรุงเทพฯชั้นในที่มีผลตอบแทนการปล่อยเช่าเฉลี่ย 4.0% กรุงเทพฯชั้นกลาง 3.3% และกรุงเทพฯ ชั้นนอก 4.1%
นอกจากนี้ จากการสำรวจพบว่า ปี 2560-2562 มีจำนวนคอนโดที่ สร้างเสร็จและเป็นโครงการที่ยังขาย อยู่ในตลาดราว 405 โครงการ อุปทานสะสมอยู่ที่อยู่ที่ 215,479 ยูนิต ซึ่งลดลงจากปีก่อน เนื่องจากมี อุปทานดูดซับไปบ้างแล้ว ประกอบกับ โครงการใหม่ที่เปิดขายในช่วง 1-2 ปี ที่ผ่านมายังสร้างไม่เสร็จ
อย่างไรก็ตาม ในอนาคตคาดว่าจะมีห้องที่สร้างเสร็จจำนวนมากใน ปี 2563-2565 ราว 147,429 ยูนิต จาก 247 โครงการ กดดันให้ ผู้ประกอบการหลายรายเร่งระบายสินค้าในตลาด เห็นได้จากบางพื้นที่ปรับลดราคาลง โดยการจัดโปรโมชั่น เพื่อกระตุ้นยอดขาย
"แม้ปัจจุบันจะไม่ใช่ปีที่ตลาดอสังหาฯ แต่เป็นปีที่น่าสนใจสำหรับนักลงทุนที่มีความพร้อมและ เน้นลงทุนในระยะกลาง-ยาว เพราะ เป็นโอกาสดีที่จะได้ซื้ออสังหาฯในราคาที่ถูกลง มีโอกาสได้รับ ผลตอบแทนที่คุ้มค่าทั้งในแง่ของการ เพิ่มขึ้นของส่วนต่างราคาในอนาคต ตลอดจนรายได้จากค่าเช่าจากพื้นที่ที่ยังคงมีศักยภาพในการเติบโต" นางสาวสุวรรณี กล่าว
ข่าวโครงการอสังหาฯ ภาคเอกชน อื่นๆ