อสังหาฯรายกลางฝ่าโควิด เบรกแผนลงทุน-ซื้อที่ดิน
Loading

อสังหาฯรายกลางฝ่าโควิด เบรกแผนลงทุน-ซื้อที่ดิน

วันที่ : 19 มีนาคม 2563
เมโทรฯ แจกเงิน พนง. ซื้ออาหาร ทำงานที่บ้าน เอ็นซีฯ จี้รัฐเร่งฟื้นเชื่อมั่น
         
          อสังหาฯ รายกลาง เมโทรโพลิสฯ หวั่นเศรษฐกิจฟุบราคาอสังหาฯตกช่วง 1-2 ปี เลื่อนเปิดโครงการ ยกเลิกดีลซื้อที่ดินกลางเมือง 3-4 แปลง ให้พนักงาน ทำงานที่บ้าน แจกเงินคนละ 5พันบาท ซื้ออาหาร ด้านเอ็น.ซี.เฮ้าส์ ซิ่ง จี้รัฐเร่งฟื้นความเชื่อมั่น

          นายเฉลิมชัย ว่องไววิทย์ กรรมการ ผู้จัดการบริษัท เมโทร โพลิสพรอพเพอร์ตี้ส์ จำกัด บริษัทในเครือว่องไววิทย์ อุตสาหกรรมจักรกล จำกัด เปิดเผยถึงสถานการณ์ของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ว่า เป็นช่วงที่ยากลำบาก เนื่องจากโรคระบาดไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19) ส่งผลให้การดำเนินธุรกิจชะงักชั่วคราว โดยเฉพาะตลาดอสังหาฯต่างชาติ จีน และญี่ปุ่น ที่กำลังจะมีกำหนดโอนกรรมสิทธิ์ ได้เลื่อนโอนบางส่วน เช่นเดียวกับลูกค้าในไทยที่เลื่อนโอน ส่วนหนึ่ง ถูกธนาคารปฏิเสธสินเชื่อ ประมาณ 30-40% ของผู้ที่ขอสินเชื่อจากธนาคารในช่วงนี้

          โดยโครงการในปัจจุบันของบริษัท คือ โครงการคอนโดมิเนียม เดอะ เมโทรโพลิส สำโรง อินเตอร์เชนจ์ มี 3 อาคาร สูง 30 ชั้น และ 39 ชั้น และอาคารจอดรถ 7 ชั้น รวมทั้งสิ้น 1,721 ยูนิต มูลค่าโครงการราว 5,700 ล้านบาท เปิดขายตั้งแต่เม.ย. 2558 มีการขายและโอนไปแล้ว 1,200 ยูนิต ซึ่งยอดโอนเกิน 60% จึงถือว่าคุ้มทุนไปแล้ว และไม่จำเป็นต้องปิดโครงการภายในปีนี้

          นอกจากนี้ ยังยกเลิกแผนการพัฒนาธุรกิจในปี 2563 เพื่อรักษากระแสเงินสด ทั้งปรับแผนการลงทุนประมาณ 2,000-3,000 ล้านบาท  ให้สอดคล้องกับสถานการณ์ ด้วยการชะลอแผนการซื้อที่ดินใจกลางเมือง 3-4 แปลง เพื่อพัฒนาโครงการคอนโดมิเนียมลักชัวรี  ออกไปก่อน รวมไปถึงโครงการขนาดใหญ่ที่มีที่ดิน 15 ไร่ ติดรถไฟฟ้าสถานีปากน้ำ มูลค่าโครงการ 10,000 ล้านบาท เนื่องมาจากภาพรวม เศรษฐกิจโลก รวมถึงเศรษฐกิจไทยมี แนวโน้มยังไม่เอื้อต่อการพัฒนาโครงการ ตลอดจนโครงการร่วมทุนที่คลองตัน มูลค่า 1,700 ล้านบาท และโครงการที่ทองหล่อ มูลค่า 1,700 ล้านบาท ชะลอออกไปก่อนเช่นกัน  "ไม่มั่นใจในสถานการณ์ว่าเศรษฐกิจจะดีขึ้น เพราะโรคระบาดเป็นกันทั่วโลกและเริ่มรุนแรงขึ้น  การขึ้นโครงการในช่วงนี้ จึงเป็นความเสี่ยง เก็บเงินสดไว้ดีที่สุด อีกทั้งบริษัทไม่ได้จดทะเบียนในตลาดจึงไม่มีแรงกดดันต้องเติบโตทุกปี" เขากล่าว

          นอกจากนี้ บริษัทยังบริหารความเสี่ยงภายในองค์กร โดยการให้พนักงานในบริษัทที่มีกว่า 50 คน หยุดทำงานเพื่อลดความเสี่ยงในการติดเชื้อไวรัส อนุญาตให้ทำงานที่บ้านได้โดยจ่ายเงินเดือนเช่นเดิม รวมไปถึงการให้เงินพนักงานคนละ 5,000 บาท เพื่อไปซื้ออาหาร และของใช้มาเก็บไว้ในบ้านในระหว่างที่อยู่ในบ้าน

          "น่าห่วงนักพัฒนาอสังหาฯ ที่สายป่านไม่ยาว และต้องรอเบิกจ่ายเงินกู้จากธนาคารเป็นงวดๆ เพื่อก่อสร้างโครงการ ซึ่งต้นทุนการเงินยังสูงกว่ารายใหญ่ อาจจะทำให้แบกภาระไม่ไหวหากธนาคารระงับการปล่อยกู้"

          นายสมนึก ตันฑเทอดธรรม กรรมการ ผู้จัดการบริษัท เอ็น.ซี.เฮ้าส์ซิ่ง จำกัด (มหาชน)  กล่าวว่า สถานการณ์ที่ยากลำบากนี้นักพัฒนาอสังหาฯ ที่ได้รับผลกระทบส่วนใหญ่เป็นบริษัทที่ทำธุรกิจ โดยขอสินเชื่อจากธนาคารในอัตราดอกเบี้ยสูงเพื่อไปพัฒนาโครงการคอนโดมิเนียม โดยเฉพาะผู้ที่กำลังก่อสร้าง และจะต้องเบิกจ่ายเงินกู้เพื่อไปพัฒนาโครงการให้สร้างเสร็จตามกำหนด

          โดยเงื่อนไขการเบิกจ่ายจะต้องมีหลักฐานยอดขายและรายได้ที่แน่นอนจากการพัฒนาโครงการ แต่เมื่อสถานการณ์เป็นเช่นนี้จึงมีความเสี่ยงสูงสำหรับรายเล็ก ที่สายป่านไม่ยาวจะไม่สามารถผลักดันยอดขาย ได้ตามเงื่อนไข ทำให้ธนาคารอาจจะระงับการปล่อยกู้ จึงถือเป็นความเสี่ยงต่อผู้พัฒนา โครงการอาจจะหยุดพัฒนาโครงการ

          "ในภาวะเช่นนี้แม้ธนาคารจะมีวงเงินการก่อสร้างเพื่อพัฒนาโครงการ แต่ภาคธุรกิจ จะต้องประคับประคองสภาพคล่องให้ขายได้ แต่ประเด็นก็คือหากไม่สามารถระบายสต็อก และมียอดขายสินค้าจำกัด มีโอกาสทำให้ธุรกิจสะดุดได้ ดังนั้นผู้ประกอบการจึงต้องประเมินตลาดให้แม่น"

          สำหรับโครงการของเอ็น.ซี.เฮ้าส์ซิ่ง คงเหลือการพัฒนาคอนโดน้อยมาก ส่วนใหญ่ เปิดมา 2-3 ปีแล้ว และกำลังจะปิดโครงการจึง เหลือการขายเพียงเล็กน้อย เช่น ที่พัทยา โครงการมี 800 ยูนิต ซึ่งขายเกือบหมดไปแล้ว เหลือเพียง 50 ยูนิต และที่เชียงใหม่จำนวน 70-80 ห้องก็ขายเกือบหมด ปีนี้ไม่มีการเปิดตัว คอนโด จึงลดความเสี่ยงในการแบกหนี้

          เขาแนะนำว่าสิ่งสำคัญต่อธุรกิจอสังหาฯ ปัจจุบันไม่ใช่การกระตุ้นเศรษฐกิจ แต่เป็นการ ดำเนินการมีมาตรการควบคุมโรคติดต่ออย่างชัดเจนและควบคุมให้ได้ พร้อมกับสร้างความมั่นใจให้กับประชาชน และภาคธุรกิจ

          "หากภาครัฐเร่งฟื้นฟูความเชื่อมั่นการควบคุมการระบาดของโรคได้โดยมีมาตรการรองรับชัดเจน จะส่งผลทำให้สถานการณ์กลับมาปกติในไตรมาส 3 ที่ทำให้ทุกอย่างกลับมา"
ข่าวโครงการอสังหาฯ ภาคเอกชน อื่นๆ