CHEWAวางกลยุทธ์สู้วิกฤติผลิตออแกนิคโฮม-ซื้อกิจการ
Loading

CHEWAวางกลยุทธ์สู้วิกฤติผลิตออแกนิคโฮม-ซื้อกิจการ

วันที่ : 20 มีนาคม 2563
ชีวาทัย เล็งผลิตออแกนิคโฮม เทกโอเวอร์กิจการ และขยายไปต่างจังหวัด
          สู้โควิด - CHEWA ชูกลยุทธ์ช่วง 3-5 ปี เล็งผลิตออแกนิคโฮม เทกโอเวอร์กิจการ และขยายไปต่างจังหวัด ใส่เกียร์เดินหน้าเปิด 4 โครงการใหม่ มูลค่ารวม 3.6 พันล้านบาท ดันรายได้แตะ 2 พันล้านบาท ฉายภาพธุรกิจปีนี้เป็นปีที่ท้าทาย มองตลาดบ้านเดี่ยวทาวน์โฮมได้รับผลกระทบน้อย

          นายบุญ ชุน เกียรติ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ชีวาทัย จำกัด (มหาชน) หรือ CHEWA เปิดเผยว่า กลยุทธ์ของบริษัทในระยะ 3-5 ปี  ยังเดินหน้าผลิตสินค้าของบริษัทเป็นออแกนิคโฮม และมองหาโอกาสในการเทกโอเวอร์กิจการ รวมถึงการขยายพอร์ตไปในต่างจังหวัด อีกทั้งโอกาสในการกิจการร่วมค้า (Joint Venture) อย่างต่อเนื่อง

          เน้นระบายสต๊อก

          ส่วนการขายบริษัทจะเน้นระบายสต๊อกสินค้าที่เหลือ รวมถึงมองหาที่ดินศักยภาพเพื่อพัฒนาโครงการ โดยวางงบลงทุนปี 2563 ไว้ที่ราว 455 ล้านบาท แบ่งออกเป็น กระแสเงินสด 182 ล้านบาท กู้จากสถาบันการเงิน 273 ล้านบาท ส่วนโรงงานให้เช่ามีผู้เช่าเต็มแล้ว เนื่องจากได้รับปัจจัยบวก โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังจากการเลือกตั้งและนโยบาย EEC

          "ปัจจุบันบริษัทยังสามารถขายสินค้าได้อย่างต่อเนื่อง แต่ถือว่ายอดการเข้าชมน้อยลง เลยมองว่ายังไม่สามารถประเมินสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ได้ ซึ่งหลังจากนี้มองว่าคนที่เข้ามาชมคงลดลง" นายบุญกล่าว

          ทั้งนี้บริษัทมีแผนเปิด 4 โครงการใหม่ มูลค่ารวมประมาณ 3,600 ล้านบาท ได้แก่ ชีวาโฮม กรุงเทพฯ-ปทุมธานี มูลค่าโครงการ 903 ล้านบาท, ชีวาโฮม รังสิต-ปทุมธานี มูลค่าโครงการ 1.09 พันล้านบาท, คอนโด ชีวาทัย อินเตอร์เชนจ์ลำสาลี มูลค่าโครงการ 1.33 พันล้านบาท และฮาร์ท สุขุมวิท 36 มูลค่าโครงการ 270 ล้านบาท ซึ่ง CHEWA ถือหุ้น 70%

          รายได้ปีก่อนต่ำเป้า

          สำหรับในปี 2562 บริษัททำรายได้ต่ำกว่าเป้าหมายเนื่องจาก โครงการชีวาทัยฮอลล์มาร์ค จรัญ 13 สร้างเสร็จช้ากว่ากำหนด ทำให้ไม่มียอดรับรู้รายได้เข้ามา และในปีที่ผ่านมาบริษัทไม่ได้มีการเปิดโครงการ รวมถึงภาวะตลาดอสังหาที่ชะลอตัวลงอย่างมาก รวมถึงการขอสินเชื่อจากสถาบันการเงินทำได้ยากขึ้น

          อย่างไรก็ตามบริษัทตั้งเป้ารายได้อยู่ที่ 2,000 ล้านบาท แบ่งออกเป็นรายได้จากบ้านเดี่ยว, ทาวน์โฮม 44% หรือประมาณ 880 ล้านบาท มาจากโครงการ ชีวาโฮม วงแหวน-ลำลูกกา, ชีวาโฮม สุขสวัสดิ์ประชาอุทิศ, ชีวาวัลย์ ปิ่นเกล้าสาทร, ชีวารมย์ นครอินทร์, ชีวา บิซ โฮม,ชีวาโฮม กรุงเทพฯ-ปทุม, ชีวา โฮม รังสิต ปทุม ส่วนคอนโดมิเนียม 56% หรือประมาณ 1,120 ล้านบาท มาจากโครงการ คอนโดชีวาทัย เพชรเกษม 27, ชีวาทัย เรสซิเดนซ์อโศก, ชีวาทัย ฮอลล์มาร์ค จรัญ 13, ชีวาทัย เรสซิเดนซ์ ทองหล่อ, ชีวาทัย เกษตร-นวมินทร์

          ความท้าทายธุรกิจ

          สำหรับความท้าทายในการทำธุรกิจปี 2563 บริษัทมองในเรื่องของความไม่มั่นใจของผู้บริโภค ซึ่งจะระมัดระวังการใช้เงินมากขึ้น ไม่ใช่แค่การซื้ออสังหาริมทรัพย์ ด้านตัวเลขผลิตภัณฑ์รวมในประเทศ (GDP) ในปีนี้ถือว่าต่ำกว่าคาด ตลาดคอนโดมิเนียม ได้รับผลกระทบตั้งแต่ปีที่ผ่านมา ได้แก่ มาตรการคุมสินเชื่อ LTV เพื่อลดการเก็งกำไรในตลาดอสังหา รวมถึงในปีนี้มีการแข่งขันด้านราคาค่อนข้างสูง เพราะผู้ประกอบการอสังหาต่างอยากจะระบายสต๊อกเหลือขาย สำหรับภาพรวมตลาดบ้านเดี่ยว, ทาวน์โฮม ยังถือว่าได้รับผลกระทบน้อยกว่า และบริษัทเชื่อว่าสินค้าที่มีราคาต่ำกว่า 10 ล้านบาท ยังถือว่าเป็นสินค้าที่มีความน่าสนใจ
ข่าวโครงการอสังหาฯ ภาคเอกชน อื่นๆ