SENAพรีเซลQ1เหลือ1.5พันล้าน โควิดทำพิษชะลอเปิด6คอนโดใหม่
Loading

SENAพรีเซลQ1เหลือ1.5พันล้าน โควิดทำพิษชะลอเปิด6คอนโดใหม่

วันที่ : 14 เมษายน 2563
เสนาฯ เจอพิษโควิด ชะลอเปิด 6 คอนโดใหม่
           SENA รับไวรัสโควิด-19 กระทบ ฉุดยอดขายไตรมาส 1/63 ลดเหลือ 1,500 ล้านบาท ส่วนไตรมาส 2/63 ชูกลยุทธ์ “SENA Zero COVID” พร้อมสั่งปีนี้ชะลอเปิด 6 คอนโดฯ ใหม่ มูลค่ารวม 6,000 ล้านบาท

          นางสาวเกษรา ธัญลักษณ์ภาคย์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เสนาดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) หรือ SENA เปิดเผยว่า ยอดขาย (Presale) ในช่วงไตรมาส 1/2563 จะอยู่ที่ประมาณ 1,500 ล้านบาท ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อน และต่ำกว่าเป้าหมายที่บริษัทตั้งไว้ เนื่องจากได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ซึ่งในช่วงเดือนมกราคม-กุมภาพันธ์ ยังมียอดขายต่อเนื่อง แต่ในช่วงกลางเดือนมีนาคมเริ่มชะลอตัวลง จากการยกระดับมาตรการควบคุมการแพร่เชื้อไวรัสโควิด-19

          อย่างไรก็ตาม ในช่วงเดือนมกราคมที่ผ่านมา บริษัทได้เปิดตัวโครงการใหม่ จำนวน 3 โครงการ รวมมูลค่าโครงการ 1,313 ล้านบาท ตามแผนที่ตั้งไว้ตั้งแต่ช่วงต้นปี ได้แก่ 1.โครงการ เสนา คิทท์ เพชรเกษม-พุทธมณฑลสาย 7 มูลค่าโครงการ 237 ล้านบาท เป็นโครงการคอนโดมิเนียมสูง 5 ชั้น 3 อาคาร รวมจำนวนห้องชุดพักอาศัย 237 ยูนิต

          2.โครงการ นิช โมโน อิสรภาพ มูลค่าโครงการ 653 ล้านบาท เป็นโครงการคอนโดมิเนียมสูง 8 ชั้น 2 อาคาร รวมจำนวนห้องชุดพักอาศัย 259 ยูนิต และ 3.โครงการ เดอะ คิทท์ รังสิต-ติวานนท์ มูลค่าโครงการ 423 ล้านบาท เป็นโครงการคอนโดมิเนียมสูง 8 ชั้น 2 อาคาร รวมจำนวนห้องชุดพักอาศัย 413 ยูนิต

          สำหรับในช่วงไตรมาส 2/2563 บริษัทยังคงใช้กลยุทธ์ “SENA Zero COVID” โดยการศึกษาถึงผลกระทบจากประเทศที่เกิดการแพร่ระบาดแล้ว เช่น ประเทศอิตาลี, ประเทศเกาหลีใต้, ประเทศอิหร่าน และประเทศจีน ในเมืองอู่ฮั่น เป็นต้น และแยกผลกระทบใน 6 กลุ่ม ประกอบด้วย 1.กลุ่มพนักงาน 2.กลุ่มลูกค้า 3.กลุ่มซัพพลายเชน (Supply Chain) 4.กลุ่มช่องทางการจำหน่าย 5.แผนการลงทุนในปี 2563 และ 6.แผนการดำเนินงานในอนาคต หลังจากสถานการณ์คลี่คลาย

          โดยเบื้องต้นในช่วงที่เหลือของปี 2563 บริษัทได้ชะลอการเปิดตัวโครงการคอนโดมิเนียมใหม่ จำนวน 6 โครงการ มูลค่าโครงการรวมประมาณ 6,000 ล้านบาท เป็นโครงการร่วมทุนกับบริษัท ฮันคิว ฮันชิน พร๊อพเพอร์ตี้ส์ คอร์ปเปอเรชั่น จำนวน 3 โครงการ และเป็นโครงการที่บริษัทพัฒนาเอง จำนวน 3 โครงการ ขณะที่โครงการแนวราบยังคงดำเนินการก่อสร้างตามแผน แต่อาจจะเลื่อนการจัดกิจกรรมการเปิดตัวออกไป เพื่อรอจังหวะที่ดีในการทำการตลาด

          “ตั้งแต่ช่วงกลางเดือนมีนาคมที่ผ่านมา เริ่มเห็นผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 บริษัทได้ปรับเปลี่ยนกลยุทธ์ โดยหันมาทำตลาดผ่านช่องทางออนไลน์ (Online) มากขึ้น จากเดิมที่ใช้งบการตลาดผ่านช่องทางนี้ที่ประมาณ 70% ของงบการตลาดรวม ปัจจุบันได้ใช้งบทางการตลาดกับช่องทางออนไลน์เพิ่มเป็น 80-90% ของงบการตลาดรวม เพื่อให้สอดคล้องกับพฤติกรรมคนที่เปลี่ยนไป อย่างไรก็ตามการทำออนไลน์บุ๊กกิ้ง (Online booking) ยังคงมีความท้าทาย เพราะการตัดสินใจซื้อส่วนใหญ่ ลูกค้าจะต้องเห็นบ้านจริงแล้วอย่างน้อย 1 ครั้ง” นางสาวเกษรา กล่าว

          นางสาวเกษรา กล่าวอีกว่า หากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ส่งผลกระทบยาวนาน หรืออาจจะต่อเนื่องไปถึงปี 2564 บริษัทต้องหาช่องทางระบายสินค้าเพิ่มขึ้น ซึ่ง ณ สิ้นเดือนธันวาคม 2562 บริษัทมียอดขายรอโอน (Backlog) มูลค่ารวม 11,841 ล้านบาท จะทยอยรับรู้รายได้ในปี 2563 ที่ประมาณ 6,924 ล้านบาท ส่วนที่เหลือจะทยอยรับรู้ในปีถัดไป ขณะเดียวกันบริษัทต้องรักษาสภาพคล่อง เก็บเงินสด ชะลอการเปิดโครงการใหม่ เพื่อไม่ให้มีค่าใช้จ่ายสูงเกินไป
ข่าวโครงการอสังหาฯ ภาคเอกชน อื่นๆ