นายอธิป พีชานนท์ ประธานคณะกรรมการสมาคมการค้ากลุ่มอสังหาริมทรัพย์ การออกแบบและก่อสร้างสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า อยากให้เครดิตบูโรปลดล็อกกลุ่มที่ติด แบล๊กลิสต์แต่หนี้เป็นศูนย์แล้วออกมาโดยเร็ว เพื่อให้กลุ่มนี้สามารถกลับมาทำธุรกรรมเรื่องการเงินได้ ซึ่งพบว่ากลุ่มนี้มีอยู่ประมาณ 100,000 ราย โดยส่วนใหญ่ติดหนี้บัตรเครดิต โดยปัจจุบันแม้กลุ่มแบล๊กลิสต์จะหมดหนี้แล้ว แต่ชื่อต้องอยู่ในระบบเครดิตบูโรต่อไปอีก 3 ปี ดังนั้น จึงอยากให้ลดเหลือเพียง 1 ปี แล้วปลดออกจากระบบ เพื่อให้กลุ่มนี้เดินหน้าธุรกิจต่อไปได้

          นายอธิปกล่าวว่า อยากให้ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) คลายเกณฑ์มาตรการคุมเข้มสินเชื่อภาคอสังหาริมทรัพย์ (แอลทีวี) ลงชั่วคราว เพราะในขณะนี้ไม่มีกลุ่มเก็งกำไรที่จะเข้ามาซื้ออสังหาริมทรัพย์แล้ว ทั้งนี้ เพื่อให้กลุ่มคนที่อยากซื้อที่อยู่อาศัยจริงๆ สามารถกู้ผ่านเพื่อให้เกิดการโอนที่อยู่อาศัยได้ และผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์สามารถไปพัฒนาโครงการใหม่ออกมาขายเพื่อก่อให้เกิดการหมุนเวียนของเศรษฐกิจ โดยปัจจุบันพบว่ากลุ่มลูกค้าที่ต้องการโอนแต่ไม่สามารถโอนได้ เพราะกู้ไม่ผ่านมีถึง 40% ดังนั้น หาก ธปท.มีการผ่อนคลายเกณฑ์ชั่วคราวจะทำให้ภาพรวมดีขึ้นได้ ขณะเดียวกันอยากให้มีการกระตุ้นความต้องการซื้อที่อยู่อาศัยด้วยการนำโครงการบ้านดีมีดาวน์กลับมาอีกครั้ง เพื่อกระตุ้นกำลังซื้อของผู้บริโภคในช่วงครึ่งปีหลัง รวมทั้งการเปิดโอกาสให้ผู้ที่ซื้อบ้านทุกระดับสามารถนำเงินมาลดหย่อนภาษีได้ไม่ควรกำหนดเฉพาะบ้านราคา 3 ล้านบาท แต่ควรกำหนดว่าซื้อบ้านระดับราคาเท่าไหร่ก็ได้ให้สามารถนำ 3 ล้านบาท แรกมาคำนวณเพื่อลดหย่อนภาษีได้ ซึ่งจะเป็นผลดีต่อระบบเศรษฐกิจมากกว่า อย่างล่าสุดในออสเตรเลียพบว่ามีการออกเกณฑ์ว่าใครที่ซื้อบ้านและโอนบ้านจะได้แคชแบ๊กกลับมาประมาณ 40,000 เหรียญออสเตรเลีย หรือประมาณ 80,000 บาทไทย เพื่อเป็นการจูงใจให้คนมาซื้อบ้าน

          นายอธิปกล่าวว่า นอกจากนี้ หลังโควิดคลี่คลายและเปิดประเทศแล้ว อยากให้มีมาตรการจูงใจให้ต่างชาติมาซื้ออสังหาริมทรัพย์ในไทยด้วย เช่นการให้ฟรีวีซ่า หรืออื่นๆ เพราะหากพึ่งพากำลังซื้อในประเทศก็ได้ไม่มากนัก ขณะที่ต่างชาติสนใจอสังหาริมทรัพย์ไทย เพราะมาแล้วคุ้มค่า ความสะดวกครบครัน มีความปลอดภัยและน่าอยู่ ดังนั้นหากมีมาตรการจูงใจดีๆ เชื่อว่าต่างชาติจะเข้ามาซื้อเป็นจำนวนมากแน่นอน