ในที่สุด "ผังเมืองรวมนนท์" ฉบับใหม่จะบังคับใช้ภายในครึ่งแรกของปี 64 ด้านนายกสมาคมการค้าอสังหาฯนนทบุรี จ่อทำหนังสือขอแก้ไขเรื่องความกว้างถนน เผยผู้ว่าฯไม่ติดขัด มีอำนาจ ไม่ต้องเข้ากระบวนการใหม่ คาดไม่เกินปี 65-65 ใช้ผังในส่วนของการปรับปรุงใหม่ได้ จับตาซัปพลายลดฮวบ เอกชนหวั่นขอจัดสรรไม่ทัน กม.ใหม่ แบงก์ดูแลปล่อยสินเชื่อ

          นโยบายการกระจายความเจริญสู่จังหวัดรอบนอกกรุงเทพฯ ส่งผลให้จังหวัดนนทุบรี มีการลงทุนในระบบสาธารณูปโภคจากภาครัฐหลายโครงการ ทั้งการขยายและตัดถนนไปเชื่อมต่อจังหวัดใกล้เคียง เช่น ถนนราชพฤกษ์  มีทางด่วนพิเศษที่เชื่อมเข้าสู่ใจกลางกรุงเทพฯ รวมถึงการเปิดให้บริการโครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วง ขนส่งมวลชนขนาดใหญ่ที่สามารถเคลื่อนย้ายประชากรจากนอกเมืองและในเมืองได้อย่างสะดวก ทำให้จังหวัดนนทบุรีซึ่งเป็นจังหวัดที่อยู่ใกล้กรุงเทพฯ มีการเติบโตอย่างมาก ทั้งในเรื่องของที่อยู่อาศัยทั้งประเภทโครงการแนวราบ คอนโดมิเนียม, ห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่ เกิดธุรกิจร้านค้าจำนวนมาก

          สำหรับสถานการณ์ตลาดอสังหาริมทรัพย์นั้น นายปรีชา กุลไพศาลธรรม นายกสมาคมการค้าอสังหาริมทรัพย์นนทบุรี กล่าวว่า ภาคอสังหาริมทรัพย์ใน จ.นนทบุรี ชะลอตัวลงจากเรื่องของภาวะเศรษฐกิจ กำลังซื้อที่คาดว่าจะเติบโตกลับปรับลดลง ขณะที่การปรับปรุงร่างผังเมืองรวมจังหวัดนนทบุรีฉบับใหม่ ที่จะนำมาใช้ทดแทนผังเมืองรวมที่ใช้มาตั้งแต่ปี 2548 ซึ่งคาดว่าจะประกาศใช้ภายในต้นไตรมาส 1-2 ของปี 2564 จากเดิมที่ต้องประกาศภายในปลายปี 2562 และมีการเลื่อนบังคับใช้ออกไป ซึ่งกระบวนการเดินหน้ามาจนครบ 18 ขั้นตอนในการทำผังเมืองรวมฉบับใหม่ อย่างไรก็ตาม ทางสมาคมการค้าอสังหาฯ นนทบุรี จะมีการทำหนังสือไปถึงผู้ว่าราชการจังหวัดนนทบุรี ในประเด็นเกี่ยกับผังเมืองฉบับใหม่ ซึ่งอาจจะมีการเสนอแก้ไขในบางประเด็น เช่น ความกว้างของขอบทางถนนเหลือ 8-10 เมตร เป็นการเปิดโอกาสในการพัฒนาโครงการทาวน์เฮาส์ และบ้านเดี่ยวได้

          "ประเด็นเรื่องผังเมือง ไม่สามารถแย้งได้ แต่มีข่าวดีตรงที่ ทางผู้ว่าราชการจังหวัดนนทบุรี เปิดรับฟังเรื่องปัญหาและแก้ไขไม่ต้องเข้า 18 ขั้นตอน อำนาจอยู่ที่ผู้ว่าฯ โดยธงการแก้ไขจะอยู่ในเรื่องความกว้างของถนน ซึ่งกระบวนการตรงนี้จะใช้เวลาประมาณปีบวกลบ และผังเมืองใหม่ที่มีปัญหาจะได้รับแก้ไขแล้ว น่าจะใช้ได้ไม่เกินปี 2565 ถึง 2566 ทั้งนี้ ทางผู้ว่าฯ เปรยว่า ผู้ประกอบการรายใด มีของติดมือ ก็ให้รีบขอจัดสรรตามผังเมืองปัจจุบันที่จังหวัดได้เลย ทาง ผู้ว่าฯ จะรีบดู และออกเป็นมติไว้ก่อน แม้ผังเมืองใหม่จะบังคับใช้แล้วก็ตาม" นายปรีชากล่าวและชี้ประเด็นจากผลของผังเมืองที่ยังไม่มีความชัดเจนก่อนหน้านี้ว่า

          ทำให้ผู้ประกอบการชะลอการขอจัดสรรโครงการใหม่ ประกอบกับการเกิดสถานการณ์โรคระบาดโควิด-19 ทำให้ตัวเลขการขอจัดสรรลดลงอย่างมาก เนื่องจากหากขอจัดสรรแล้วอาจจะไม่ทันกฎหมายจัดสรรใหม่ ทำให้ที่ดินไม่สามารถนำไปพัฒนาได้ ขณะที่สถาบันการเงินค่อนข้างกังวลในเรื่องของซัปพลาย และความไม่ชัดเจนของผังเมืองใหม่ ทำให้ระมัดระวังในการปล่อยสินเชื่อมาอย่างต่อเนื่อง

          ในส่วนภาพรวมตลาด อสังหาฯ จ.นนทบุรี พบว่า ในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา รัฐบาลมีการลงทุนระบบสาธารณูปโภคเป็นจำนวนมาก ทำให้ภาคอสังหาฯ มีการเติบโตรองจากกรุงเทพฯ โดยศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ ระบุ มูลค่าการโอนกรรมสิทธิ์กรุงเทพฯ และปริมณฑลในปี 2562 กรุงเทพฯมีมูลค่าอยู่ที่ 402,600 ล้านบาท ขณะที่จ.นนทบุรีมีตัวเลข 70,420 ล้านบาท เนื่องจากที่อยู่อาศัยใน จ.นนทบุรีมีราคาสูงกว่าจ.สมุทรปราการ

          แต่หากพิจารณาในด้านจำนวนหน่วยการโอนกรรมสิทธิ์ จ.สมุทรปราการ จะอยู่อันดับที่ 2 รองจากกรุงเทพฯ มีจำนวน 31,753 หน่วย อันดับ 4 คือจ.นนทบุรี อยู่ที่ 26,588 หน่วย ขณะที่การเติบโตของมูลค่าการโอนกรรมสิทธิ์กรุงเทพฯ และปริมณฑล เฉลี่ย 3 ปี (2560-2562) อยู่ที่ 15%

          สำหรับผลกระทบจากการระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ต่อธุรกิจใน จ.นนทบุรี ประเมินว่า ยอดรับรู้รายได้ทั้งปีจะลดลงราว 20% เมื่อดูข้อมูลจาก TerraByte พบว่า ตลาดคอนโดมิเนียมใน จ.นนทบุรี มีสินค้าคงค้าง (Supply) ลดลงเฉลี่ย 20% ต่อปี ส่วนตลาดแนวราบ  โดยกว่า 60% เป็นตลาดทาวน์โฮม โซนบางบัวทอง-บางใหญ่ ส่งผล ต่อราคาเปิดตัวสูงขึ้นเฉลี่ย 3% ต่อปี

          โดยประมาณการในปี 2564 หน่วยเหลือขายคอนโดฯ ในตลาดอยู่ที่ 4,000 หน่วย และประมาณการติดลบ 30% และหาไม่มีซัปพลายใหม่เข้ามาเติม จะทำให้คาดว่า ซัปพลายคงค้างจะหมดภายในปี 64 ส่วนตลาดแนวราบ คาดปีหน้า เหลืออยู่ในตลาด 2,000 หน่วย

          นายสุทธิรักษ์ เสถียรภาพอยุทธ์  อุปนายกสมาคมการค้าอสังหาริมทรัพย์นนทบุรี และประธานการจัดงานมหกรรม "บ้านดี นนทบุรี" กล่าวว่า งาน "มหกรรมบ้านดี นนทบุรี" เป็นหนึ่งในแผนการขับเคลื่อนของสมาคมฯ ที่ตั้งใจจะจัดขึ้นปีละ 1 ครั้ง โดยงาน "มหกรรมบ้านดี นนทบุรี" จะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 5-11 พฤศจิกายน 2563 ณ ลานโปรโมชัน C ชั้น 1 เซ็นทรัล พลาซา เวสต์เกต คาดว่าตลอดการจัดงานทั้ง 7 วัน จะสามารถสร้างยอดขายและจองต่อเนื่องหลังงานได้ 200-300 ล้านบาท