ศูนย์ข้อมูลอสังหาฯ เผยผลสำรวจโครงการที่อยู่อาศัยที่ภาคเหนือ พบโครงการที่อยู่ระหว่างการาขาย 386 โครงการ 17,189 หน่วย มูลค่า 62,363 ล้านบาท ปรับตัวเพิ่มขึ้น 9.2%  ซึ่งเกิดจากการเปิดตัวบ้านจัดสรรที่เพิ่มขึ้น กว่า 13.5% ขณะที่อาคารชุดมีหน่วยปรับตัวลดลง -6.4%  ระบุโครงการเปิดขายใหม่ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อน -13.7% ขณะที่หน่วยขายได้ใหม่ปรับตัวเพิ่มขึ้น 27.1%

          ดร.วิชัย วิรัตกพันธ์ ผู้ตรวจการธนาคาร และรักษาการผู้อำนวยการศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ กล่าวว่า  จากการสำรวจโครงการที่อยู่อาศัยในพื้นที่ภาคเหนือ ซึ่งประกอบด้วย จังหวัดเชียงใหม่ เชียงราย พิษณุโลก และตาก ในช่วง 6 เดือนแรกของปี  พบว่ามีจำนวนหน่วยที่อยู่อาศัยที่อยู่ระหว่างขายทั้งสิ้น 386 โครงการ 17,189 หน่วย มูลค่า 62,363 ล้านบาท แบ่งเป็น บ้านจัดสรร 335 โครงการ 14,038 หน่วย มูลค่า 53,145 ล้านบาท และโครงการอาคารชุด 51 โครงการ 3,151 หน่วย มูลค่า 9,218 ล้านบาท โดยในจำนวนดังกล่าวมีหน่วยเหลือขายจำนวน 14,222 หน่วย และในช่วงครึ่งแรกของปี 63 มี ที่อยู่อาศัยขายได้ใหม่จำนวน 2,967 หน่วย

          ทั้งนี้ โครงการที่อยู่อาศัยในภาคเหนือ มีอัตราการเพิ่มขึ้น 9.2% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 62 และยังสูงกว่าค่าเฉลี่ย 5 Half ล่าสุด โดยเป็นการเพิ่มขึ้นของบ้านจัดสรร 13.5% แต่อาคารชุดมีหน่วยลดลง -6.4% เมื่อพิจารณาจากอัตราการเปลี่ยนแปลงของโครงการที่อยู่อาศัยเปิดขายใหม่ มีจำนวนลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า -13.7% ในขณะที่หน่วยขายได้ใหม่มีอัตราการเปลี่ยนแปลงเพิ่มขึ้น 27.1% ส่งผลให้หน่วยเหลือขายมีอัตราการเปลี่ยนแปลงเพิ่มขึ้น 6.1% เมื่อเทียบกับช่วงครึ่งแรกของปี 62 แต่น้อยกว่าช่วงครึ่งหลังปี 62 ซึ่งมีหน่วยเหลือขายเพิ่มขึ้น 19.2% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 61

          สำหรับอัตราการดูดซับ โดยรวมทุกระดับราคา พบว่าอัตราดูดซับต่อเดือนโดยเฉลี่ยในครึ่งแรกปี 63 อยู่ที่ 2.9% เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปี 62 ที่อยู่ในอัตรา 2.5% ทั้งนี้อัตราดูดซับที่มีการปรับเพิ่มขึ้นจะอยู่ในกลุ่มราคา 3.01-10.00 ล้านบาท ในขณะที่กลุ่มอื่นๆ มีอัตราดูดซับ ลดลง

          โดยจังหวัดเชียงราย Total Supply มีอัตราลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 57.9% โดยมีจำนวนทั้งสิ้น 3,043 หน่วย ในจำนวน ดังกล่าวเป็นโครงการบ้านจัดสรร 2,969 หน่วย หรือ 97.6% เป็นโครงการอาคารชุด 74 หน่วย คิดเป็น 2.4% และเป็นโครงการเปิดขายใหม่ในครึ่งแรก 229 หน่วย ลดลงจากปี 62 กว่า -49.2% มีหน่วยขายได้ใหม่จำนวน 567 หน่วย ซึ่งการขายได้ใหม่นี้มีอัตราเพิ่มขึ้น 388.8% โดยมีหน่วยเหลือขายสะสม 2,476 หน่วย หรือเพิ่มขึ้น 36.7%

          ส่วนจังหวัดพิษณุโลก Total Supply มีอัตราเพิ่มขึ้น 3.1% เทียบกับปี 62 โดยมีจำนวนทั้งสิ้น 2,696 หน่วย แบ่งเป็นโครงการบ้านจัดสรร 2,328 หน่วย หรือ 86.4% เป็นโครงการอาคารชุด 368 หน่วย หรือ 13.6% และเป็นโครงการเปิดขายใหม่ในครึ่งแรกปี 75 หน่วย ซึ่งทั้งหมดเป็นโครงการบ้านจัดสรร โดยลดลง -86.2% สำหรับหน่วยขายได้ใหม่ มีจำนวน 143 หน่วย ซึ่งการขายได้ใหม่มีอัตราลดลง -4.0% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยมีหน่วยเหลือขายสะสม 2,553 หน่วย เพิ่มขึ้น 3.5% โดยหน่วยเหลือขายครึ่งปีแรกมีทั้งสิ้น 1,106 หน่วย จากจำนวนหน่วยเหลือขาย 2,553 หน่วย

          อย่างไรก็ตาม ศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ ได้ประมาณการทิศทางตลาดที่อยู่ภาคเหนือ ปี 63 และแนวโน้มปี 64 โดยคาดว่า ณ ครึ่งหลังปี 63 จะมีที่อยู่อาศัยรอการขายจำนวน 15,253 หน่วย มีมูลค่าหน่วยเหลือขายจำนวน 59,682 ล้านบาท และลดลงในครึ่งแรกปี 64 โดยคาดว่าจะมีจำนวนหน่วย 15,224 หน่วย มีมูลค่าหน่วยเหลือขาย 56,408 ล้านบาท ในขณะที่อัตราดูดซับต่อเดือนของบ้านจัดสรร คาดว่าจะลดลงมาอยู่ที่ 1.7% ในครึ่งหลังปี 2563 และเพิ่มขึ้นเป็น 2.0% ในครึ่งแรกปี 64 ส่วนอัตราดูดซับต่อเดือนของอาคารชุดคาดว่าจะลดลงมาอยูที่ 1.6% ในครึ่งหลังปี 63 และเพิ่มขึ้น 1.7 ในครึ่งแรกปี 64

          สำหรับการเคลื่อนไหวด้านการเปิดตัวโครงการใหม่ประมาณการว่าจะยังคงลดลง ต่อเนื่องโดยคาดว่าจะมีการเปิดโครงการใหม่ประมาณ 1,425 หน่วย ในครึ่งหลังปี 2563 และเปิดใหม่อีก 1,574 หน่วยในครึ่งแรกปี 2564 ในขณะที่จำนวนหน่วยการโอนกรรมสิทธิ์ ณ ครึ่งหลังปี 2563 คาดว่าจะมีจำนวนประมาณ 8,494 หน่วย มูลค่า 14,599 ล้านบาท และหน่วยโอนกรรมสิทธิ์จะเพิ่มเป็น 8,515 หน่วย มูลค่า 17,180 ล้านบาท ในครึ่งแรก ปี 64