THANAผนึกพันธมิตรญี่ปุ่นกวาดแบ็กล็อกรอโอน100ล.
Loading

THANAผนึกพันธมิตรญี่ปุ่นกวาดแบ็กล็อกรอโอน100ล.

วันที่ : 2 ธันวาคม 2563
ธนาสิริ ร่วมทุน ญี่ปุ่น กวาดแบ็กล็อกรอโอน100ล.
          THANA ผนึกกำลังพันธมิตรญี่ปุ่นเปิดขายโครงการช่วงต้นปี 63 กวาดยอดขายแล้วกว่า 100 ล้านบาท เตรียมเร่งโอนกรรมสิทธิ์ภายในปีนี้ แย้มเดือนสุดท้ายของปีทิศทางยังทรงตัว ฉายภาพรวมอสังหาริมทรัพย์ยังแข่งขันสูง เชื่อปีหน้าผลงานกลับมาพลิกบวกได้

          นางสาววิภานันท์ แย้มคุ้ม ผู้จัดการฝ่ายวางแผนกลยุทธ์และนักลงทุนสัมพันธ์อาวุโสบริษัท ธนาสิริ กรุ๊ป จำกัด(มหาชน) THANA เปิดเผยว่า ต้นปี 2563 บริษัทเปิดโครงการร่วมกับพันธมิตรผู้พัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์รายใหญ่ในญี่ปุ่น ซึ่งเปิดขายโครงการแล้ว และมีกระแสตอบรับที่ดี โดยมียอดขายอยู่ในระดับ 100 กว่าล้านบาท โดยจะพยายามผลักดันให้เกิดยอดโอนกรรมสิทธิ์ในปีนี้

          แบ็กล็อก 100 ล.

          "ช่วงที่เหลือของปีนี้ บริษัทมียอดรอโอนกรรมสิทธิ์ หรือ Backlog อยู่ที่ 100 ล้านบาท โดยหลักๆ เป็นโครงการที่ร่วมกับพันธมิตรญี่ปุ่น ส่วนโครงการอื่นๆ บริษัททำการโอนกรรมสิทธิ์บ้างแล้ว ปัจจุบันบริษัทมีโครงการเหลือขายจำนวน 5 โครงการ แบ่งเป็น โครงการในย่านนนทบุรีจำนวน 4 โครงการ และโครงการที่อุดรธานีจำนวน 1 โครงการ มูลค่ารวมราว 1 พันล้านบาท" นางสาววิภานันท์ กล่าว

          ขณะที่แนวโน้มช่วงเดือนสุดท้ายของปีนี้ บริษัทมองว่ายังเป็นทิศทางทรงตัว และอาจต้องเหนื่อยมากขึ้น เนื่องจากการแข่งขันในอุตสาหกรรมอสังหาริมทรัพย์ยังมีการแข่งขันสูง ดังนั้นคาดว่าภาพรวมในปีนี้ผลประกอบการอาจจะติดลบอยู่บ้าง และจะพยายามผลักดันให้ปี 2564 พลิกกลับมาเป็นบวก ทั้งนี้บริษัทคาดทิศทางยอดปฏิเสธสินเชื่อปีนี้จะลดลงมาที่ระดับ 10% ต้นๆ จากปีก่อนยอดปฏิเสธสินเชื่ออยู่ที่ 15-18% จากการตรวจสอบเอกสารเบื้องต้นของลูกค้า ก่อนส่งให้สถาบันทางการเงินพิจารณาสำหรับปล่อยสินเชื่อ

          เปิดโครงการใหม่

          ทั้งนี้บริษัทมีแผนจะเปิดโครงการใหม่อีก 2 โครงการ พื้นที่ขนาด 15-20 ไร่ ปัจจุบันอยู่ระหว่างจัดทำโปรเจ็กต์ คาดจะเห็นความชัดเจนในเดือนมกราคม 2564 เบื้องต้นบริษัทจะยังเดินหน้าพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ในย่านนนทบุรีเป็นหลัก เพราะเป็นย่านที่บริษัทมีความเชี่ยวชาญในการพัฒนาโครงการ

          อย่างไรก็ตามบริษัทประเมินทิศทางธุรกิจช่วงที่เหลือของปีนี้ยังคงเป็นทิศทางทรงตัว เนื่องด้วยภาวะเศรษฐกิจในประเทศชะลอตัว กำลังซื้อผู้บริโภคยังไม่ฟื้นอย่างชัดเจน ทำให้บริษัทยังต้องใช้กลยุทธ์ลดต้นทุนค่าใช้จ่ายภายในองค์กร เพื่อประคองตัวเอง คล้ายกับไตรมาส 3 ที่ผ่านมา

          นางสาววิภานันท์ กล่าวต่อว่า สำหรับทิศทางรายได้ปีนี้ คาดจะใกล้เคียงกับปีก่อน 393.49 ล้านบาท โดย 9 เดือนแรกสามารถทำรายได้แล้ว 300.71 ล้านบาท ขณะที่หน้าคาดรายได้จะเติบโตเพิ่มขึ้น แต่อาจจะไม่หวือหวามาก เนื่องจากบริษัทประเมินทิศทางครึ่งปีแรกของปี 2564 เศรษฐกิจในประเทศยังคงทรงตัว อีกทั้งคาดว่าโครงการที่บริษัทเปิดใหม่ จะส่งผลต่อผลประกอบการของบริษัทชัดเจนขึ้นในครึ่งปีหลัง

          อนึ่งไตรมาส 3/2563 พลิกมีกำไร จำนวน 5.5 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 30.09 ล้านบาท หรือ 137.69% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันกับปีก่อนขาดทุน 14.59 ล้านบาท
ข่าวโครงการอสังหาฯ ภาคเอกชน อื่นๆ