อสังหาฯรายใหญ่เปิดโครงการใหม่ลุยสร้างรายได้
Loading

อสังหาฯรายใหญ่เปิดโครงการใหม่ลุยสร้างรายได้

วันที่ : 24 มีนาคม 2564
ESTAR - โนเบิล ลุยเปิดตัวโครงการใหม่ โกยรายได้ สวนกระเเสโควิด-19
          บริษัทอสังหาฯ ในตลาดหุ้นสร้างความได้เปรียบ เดินหน้ากวาดยอดขาย ESTAR ปีฉลูเตรียมพร้อม ลุยทำรายได้ต่อเนื่องสร้างความแข็งแกร่ง เล็งเปิดตัวโครงการใหม่ 2-3 โครงการ มูลค่าราว 4,000 ล้านบาท โนเบิล ส่งซิกธุรกิจอสังหาฯ สัญญาณฟื้น ลุยเปิดโครงการใหม่ 2 ทำเลทอง บางนา-ทองหล่อ เจาะตลาดลูกค้าไทย-ต่างประเทศ

          ดร.ต่อศักดิ์ เลิศศรีสกุลรัตน์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท อีสเทอร์น สตาร์ เรียล เอสเตท จำกัด (มหาชน) หรือ ESTAR เปิดเผยว่า จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในปี 2563 ที่ผ่านมา บริษัทฯ ได้ปรับกลยุทธ์ในการสร้างรายได้ ทั้งทางด้านการขายและการตลาดผ่านช่องทางสื่อออนไลน์เต็มรูปแบบ ด้วยระบบขายแบบ Online ตลอด 24 ชั่วโมง โดยลูกค้าสามารถชมห้องตัวอย่างในรูปแบบเสมือนจริง 360 องศา ควบคู่ไปกับการรับรู้รายได้จากโครงการที่ก่อสร้างแล้วเสร็จ และลุยพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยในแนวราบทั้งกรุงเทพฯ และจังหวัดระยอง เพื่อสร้างฐานรายได้ให้แข็งแกร่ง ซึ่งในปีที่ผ่านมาได้มีการขายที่ดินที่ยังไม่มีแผนพัฒนาบางส่วนออกไป ส่งผลให้ผลการดำเนินงานในปี 2563 มียอดขายรวมประมาณ 2,000 ล้านบาท และมียอดรายได้ที่ 2,663 ล้านบาท ด้วยกำไรสุทธิ 240 ล้านบาท

          สำหรับปี 2564 บริษัทฯ มีแผนที่จะเปิดตัวโครงการใหม่ จำนวน 2-3 โครงการ แบ่งเป็นโครงการคอนโดมิเนียมในพื้นที่กรุงเทพฯ จำนวน 2 โครงการ ตามแนวรถไฟฟ้าสายหลักและขยายานโครงการแนวราบที่อำเภอบ้านฉาง จังหวัดระยอง อีกจำนวน 1 โครงการ รวมมูลค่าราว 4,000 ล้านบาท โดยได้ตั้งเป้ายอดขายรวมทั้งปีประมาณ 1,200 ล้านบาท และเป้ารับรู้ รายได้ราว 1,500 ล้านบาท อย่างไรก็ดี บริษัทยังมียอดขายที่รอรับรู้เป็นรายได้ (B) อีกจำนวนกว่า 2,000 ล้านบาท ที่จะทยอยรับรู้เป็นรายได้ของปีนี้และปีต่อไป

          โดยในปีที่ผ่านมา บริษัทได้เปิดตัวโครงการใหม่ จำนวน 3 โครงการ มูลค่าราว 2,300 ล้านบาท แบ่งเป็นโครงการในพื้นที่กรุงเทพฯ จำนวน 1 โครงการ ได้แก่ โครงการ ควินทารา ภูม สุขุมวิท 39 ซึงตั้งอยู่บนทำเลย่านพร้อมพงษ์ ในระดับราคา 3-7 ล้านบาท และอีก 2 โครงการแนวราบในเขตพื้นที่อำเภอบ้านฉาง จังหวัดระยอง ได้แก่ โครงการบรีซ แอท อีสเทอร์น สตาร์ ฟอเรสโต้ ระดับราคา 3 ล้านบาท และโครงการแกรนด์เวลาน่า ระดับราคา 8-10 ล้านบาท ซึ่งเป็นที่อยู่อาศับระดับ Hi-end ที่สุดในพื้นที่อำเภอบ้านฉาง โดยได้รับการตอบรับจากผู้บริโภคเป็นอย่างดี

          นายธงชัย บุศราพันธ์ ประธานกรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหารร่วม บริษัท โนเบิล ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ NOBLE กล่าวว่า ภาพรวมธุรกิจในโค้งแรกมีการตอบรับที่ดีจากกลุ่มลูกค้า โดยมั่นใจว่าปีนี้ทั้งปีจะสามารถทำรายได้ได้ตามเป้าหมายที่วางไว้ 11,000 ล้านบาท และตั้งเป้ายอดขาย (pre sale) จำนวน 16,000 ล้านบาท โดยมียอด Backlog ณ สิ้นสุดปี 2563 อยู่ที่ 12,805 ล้านบาท ซึ่งจะสามารถทยอยรับรู้ภายใน 3 ปีข้างหน้าอย่างต่อเนื่อง

          โดยบริษัทพร้อมเดินหน้าเปิดโครงการอีก 11 โครงการ มูลค่ารวม 45,100 ล้านบาท ซึ่งในไตรมาส 12564 ได้ทยอยเปิดโครงการแล้ว 2 โครงการได้แก่ โครงการโนเบิล ฟอร์ม ทองหล่อ มูลค่ารวมกว่า 5,400 ล้านบาท พร้อมชูจุดเด่นด้านทำเลศักยภาพใจกลางถนนทองหล่อ ภายใต้แนวคิด ONE FORM หนึ่งฟอร์ม ของชีวิตที่ได้ทุกสิ่ง เป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยโครงการนี้คาดว่าจะแล้วเสร็จภายในปี 2567 และโครงการนิว โนเบิล เซ็นเตอร์ บางนา มูลค่าโครงการ 700 ล้านบาท เป็นคอนโดฯ Low-Rise จำนวน 2 อาคาร จำนวน 204 ยูนิต และมีอีก 1 อาคารสำหรับ Facilities โครงการนี้คาดว่าจะแล้วเสร็จภายในปี 2565

          ถือเปนการตอกย้ำความแข็งแกร่งของ NOBLE เพียงแค่ 2 เดือนกว่าได้เปิดโครงการแล้ว 2 แห่ง และกระแสตอบรับจากโครงการมีเข้ามาอย่างต่อเนื่อง ด้วยความโดดเด่นของทำเล และการออกแบบที่ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าได้อย่างลงตัวทั้งชาวไทย และต่างชาติในแต่ละทำเล.
 
ข่าวโครงการอสังหาฯ ภาคเอกชน อื่นๆ