นายวิชัย วิรัตกพันธ์ ผู้ตรวจการธนาคารอาคารสงเคราะห์ และ รักษาการผู้อำนวยการศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ กล่าวว่า วิกฤติการแพร่ระบาดของ โควิด-19 ตั้งแต่ปลายเดือนมี.ค. 2563 ส่งผลกระทบอย่างมากต่อตลาดอาคารชุดที่ขายให้ชาวต่างชาติ จากมาตรการล็อกดาวน์ไม่สามารถเดินทางระหว่างประเทศได้ โดยไตรมาส 2/2563 มีการโอนกรรมสิทธิ์ห้องชุดของชาวต่างชาติเพียง 1,162 หน่วย ลดลงจากช่วงเดียวกันของปี 2562  (ติดลบ) 61.1%  มูลค่าเหลือ 5,073 ล้านบาท หรือลดลง (ติดลบ) 54.3% จากนั้น ไตรมาส 3-4 สถานการณ์การโอนกรรมสิทธิ์ของชาวต่างชาติมีสัญญาณที่ดีขึ้น เป็นผลมาจากการแก้ปัญหาของผู้ประกอบการ เพื่อช่วยให้ผู้ซื้อชาวต่างชาติสามารถทำการรับโอนกรรมสิทธิ์ห้องชุดที่สร้างเสร็จพร้อมโอนได้ จึงเพิ่มเป็น 1,885 หน่วย มูลค่ารวม 9,381 ล้านบาทในไตรมาส 3 และ 2,592 หน่วย มูลค่ารวม 12,730 ล้านบาท ในไตรมาสสุดท้าย ในปี 2563 มียอดโอน 8,285 หน่วย มูลค่า 37,716 ล้านบาท ส่วนจำนวนหน่วยต่ำกว่าปี 2562 (ติดลบ) 35.3% มูลค่าลดลง (ติดลบ) 25.5%

          หากเปรียบเทียบจำนวนการโอนกรรมสิทธิ์ห้องชุดของชาวต่างชาติกับชาวไทย ในปี 2561 ต่างชาติเคยมีสัดส่วนการโอน 10.1% ของจำนวนหน่วยทั้งหมด มูลค่าคิดเป็น 16.3% ของมูลค่าทั้งหมด ปี 2562 สัดส่วนลดลงเหลือ 9.9% และ 15.5% ของมูลค่า โดยมีสัดส่วนต่ำสุดเหลือ 6.8% และ 12.1% ของมูลค่าในปี 2563  ระดับราคาห้องชุดที่ต่างชาติมีการโอนกรรมสิทธิ์มากที่สุด  3 ปีย้อนหลัง (2561-2563) ส่วนใหญ่ราคา 3.01-5 ล้านบาท และ  2.01-3 ล้านบาท ทั้ง 2 ระดับราคามีจำนวนหน่วยใกล้เคียงกัน  23.2% และ 23% ตามลำดับ แต่เมื่อพิจารณาด้านมูลค่าการโอน พบว่าห้องชุดราคามากกว่า 10 ล้านบาท มีสัดส่วนมูลค่าสูงสุด 28.5%

          สำหรับจังหวัดที่มีการโอนกรรมสิทธิ์ห้องชุดของต่างชาติมากที่สุดปีที่ผ่านมา 10 ลำดับแรก ซึ่งมีจำนวนหน่วยรวมกันมากถึง 99.7% และมูลค่าการโอนกรรมสิทธิ์รวม 99.8% ที่เหลืออีก 20 จังหวัด มีเพียง 0.3% มูลค่ารวม 0.2% อันดับแรก กรุงเทพมหานคร  57.1% มีมูลค่าการโอน 73.5% เกินกว่าครึ่งหนึ่งของการโอนกรรมสิทธิ์ห้องชุดของต่างชาติทั่วประเทศ อันดับสอง ชลบุรี  24.9% มูลค่า 14.2% ตามด้วย ภูเก็ต  4.7% มูลค่า 4.6% ส่วนอันดับ 4-10 ได้แก่ สมุทรปราการ เชียงใหม่ ประจวบคีรีขันธ์ (หัวหิน) ปทุมธานี ระยอง นนทบุรี และเชียงราย

          ชาวต่างชาติที่ซื้อและรับโอนกรรมสิทธิ์ห้องชุดมากที่สุด 10 อันดับแรก ในปี 2563 เทียบปี 2562 ซึ่งทั้ง 2 ปีไม่ต่างกัน อันดับแรก ชาวจีน มีการรับโอนกรรมสิทธิ์ห้องชุดมากที่สุด ปี 2562 สัดส่วนการโอน 59.6% ของจำนวนหน่วย เพิ่มเป็น 63.4% ในปี 2563 อันดับสอง ชาวรัสเซีย สัดส่วนโอนปีที่ผ่านมา 4.7% ลดลงจากปี 2562 ซึ่งมีสัดส่วน 6.2%  อันดับสาม ชาวฝรั่งเศส 3.4% เพิ่มขึ้นจากปี 2562 ที่มีสัดส่วน 3.1% อันดับสี่ สหราชอาณาจักร (อังกฤษ)  3.1% เพิ่มขึ้นจากปี 2562 ซึ่งมี 3% อันดับห้า ชาวเยอรมัน  2.5% เพิ่มขึ้นจากปี 2562 มีสัดส่วน 2.2%