ศักดิ์สยาม เร่งตั๋วร่วมใช้ต้นปี65 MRT-สีแดง-ARL-โทลล์เวย์
Loading

ศักดิ์สยาม เร่งตั๋วร่วมใช้ต้นปี65 MRT-สีแดง-ARL-โทลล์เวย์

วันที่ : 8 กรกฎาคม 2564
 ศักดิ์สยาม เร่งเครื่องตั๋วร่วม ต้นปี 65 ใช้บัตรเครดิต-เดบิต(เทคโนโลยี ABT) กับรถไฟฟ้าสีน้ำเงิน-สีม่วง-สีแดง-แอร์พอร์ตลิงก์-โทลล์เวย์ เร่งศึกษาตั้งเคลียริ่งเฮาส์ ลดค่าแรกเข้าเดินทางข้ามสาย
      
          นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมเปิดเผยภายหลังเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการนโยบายระบบตั๋วร่วม (คนต.) ครั้งที่ 2/2564 วันที่ 7 ก.ค. ผ่านการประชุมทางไกล (Video Conference) ด้วยระบบ Zoom Cloud Meetings ว่า ที่ประชุม รับทราบความคืบหน้าการพัฒนาระบบตั๋วร่วม ของการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) โดยใช้เทคโนโลยี Account Based Ticketing (ABT)  ซึ่งออกแบบระบบเสร็จแล้ว อยู่ระหว่างการพัฒนาซอฟต์แวร์ และติดตั้งระบบ ซึ่งเมื่อต้นเดือน ก.ค. ได้ทำการทดสอบระบบครั้งแรกที่สถานีหัวลำโพง และสถานีสนามไชยพบว่าระบบใช้งานได้ถูกต้อง ตามแผนงานจะแล้วเสร็จภายในสิ้นปี2564 และสามารถเปิดให้ประชาชนใช้งานระบบได้ในต้นปี 2565

          นอกจากนี้ ตามแผน จะให้ใช้รถไฟฟ้าสายสีแดง และทางยกระดับดอนเมืองโทลล์เวย์  รวมถึงรถไฟฟ้าแอร์พอร์ตเรลลิงก์ ได้ภายในสิ้นปี2564 นี้ เช่นกัน ซึ่ง ระบบตั๋วร่วมแบบ ABT ที่จะนำมาชำระค่าผ่านทางด่วนค่าโดยสารรถไฟฟ้านั้น จะเป็นบัตรที่ออกโดยธนาคาร และมีบัญชีผูก ได้แก่ บัตรเครดิต บัตรเดบิต ฯลฯ ทำให้ประชาชนมีความสะดวกในการชำระค่าเดินทาง

          ส่วนการทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) นั้น ได้มีการเริ่มใช้บัตรจ่ายเงินที่ใช้เทคโนโลยี ABT จ่ายค่าผ่านทาง ทางพิเศษศรีรัช-วงแหวนรอบนอกกรุงเทพ ทางพิเศษอุดรรัถยา ทางพิเศษศรีรัช ทางพิเศษกาญจนาภิเษก (บางพลี-สุขสวัสดิ์) และทางพิเศษเฉลิมมหานคร ไปแล้ว

          นอกจากนี้ ที่ประชุมยังรับทราบการแต่งตั้งคณะอนุกรรมการฯ 2 คณะ ได้แก่ คณะอนุกรรมการด้านการกำหนดมาตรฐานทางเทคโนโลยีและสถาปัตยกรรมองค์กร ซึ่งได้วางแนวการออกแบบมาตรฐานทางเทคโนโลยีระบบตั๋วร่วมให้เป็นแบบการใช้บัญชีระบุตัวตนผู้โดยสาร (ABT) และบัตรที่ใช้เป็นแบบระบบเปิด (Open Loop)  ส่วนการบริหารจัดการตั๋วร่วม จะมีการแบ่งเป็นส่วนของผู้ใช้บริการ ส่วนของผู้ให้บริการระบบขนส่งสาธารณะ ศูนย์กลางจัดการค่าโดยสาร (Central Clearing House: CCH) และส่วนผู้ให้บริการชำระเงิน

          ซึ่งมีการกำหนดแผนการดำเนินการเป็นระยะสั้น (ภายในปี 2564) จะสามารถนำระบบตั๋วร่วมแบบ ABT มาใช้ได้ ,ระยะกลาง(ภายในปี 2565) จะมีการจัดตั้งศูนย์บริหารจัดการรายได้กลางเพื่อรองรับการใช้อัตราค่าโดยสารร่วม และในระยะยาว (ภายในปี 2566) จะมีการจัดตั้งสำนักงานกลางเพื่อมาทำหน้าที่บริหารจัดการเรื่องตั๋วร่วม พร้อมประกาศใช้พระราชบัญญัติการบริหารจัดการระบบตั๋วร่วมฯ เพื่อบังคับใช้ระบบตั๋วร่วมกับผู้ประกอบการระบบขนส่งสาธารณะทั้งที่เป็นของรัฐ และของเอกชน

          ส่วนคณะอนุกรรมการด้านการกำหนดมาตรฐานอัตราค่าโดยสารและการจัดสรรรายได้นั้น ได้สรุปปัญหาที่พบ ได้แก่ การเก็บค่าแรกเข้าในแต่ละสายไม่เท่ากัน การปรับขึ้นอัตราค่าโดยสารในแต่ละสายไม่เท่ากัน มีการเก็บค่าแรกเข้าทุกครั้งเมื่อมีการเดินทางข้ามระบบและโครงสร้างอัตราค่าโดยสารไม่สะท้อนกับระยะทาง

          ซึ่งแนวทางในการแก้ปัญหา แบ่งเป็นรถไฟฟ้าสายที่มีการลงนามสัญญาสัมปทานไปแล้ว คณะอนุกรรมการฯ จะทำการศึกษาหาแนวทางในการแก้ไขสัญญาพร้อมแนวทางการชดเชย กรณีที่มีความจำเป็น

          ส่วนรถไฟฟ้าสายที่จะมีการ ลงนามในอนาคต คณะอนุกรรมการฯ จะทำการศึกษาเพื่อกำหนดโครงสร้างอัตราค่าโดยสารที่มีความเหมาะสมเพื่อกำหนดในสัญญาสัมปทานก่อนทำการลงนาม

          ปัจจุบัน คณะอนุกรรมการฯ ได้ทำการศึกษาโครงสร้างอัตราค่าโดยสารของระบบขนส่งสาธารณะในประเทศไทย และในต่างประเทศ ทำการวิเคราะห์อัตราค่าโดยสารที่มีความเหมาะสม รวมถึงค่าธรรมเนียมต่างๆ เสร็จแล้ว และคาดว่าจะการกำกับดูแล การจัดสรรรายได้ เมื่อมีการใช้อัตราค่าโดยสารร่วม ได้ภายในเดือน ก.ย. 2564

          นายศักดิ์สยาม กล่าวว่า ได้ มอบคณะอนุกรรมการฯ ร่วมกับธนาคารกรุงไทยพิจารณาแนวทางการลงทุนในระบบ EMV ที่ในอนาคตจะมีการเปลี่ยนถ่ายไปสู่ระบบ M-flow ให้เกิดประสิทธิภาพในการดำเนินงานสูงสุด
ข่าวพัฒนาสาธารณูปโภค อื่นๆ