การเคหะฯ จับมือกรมธนารักษ์ และ ธอส. ผุดที่อยู่อาศัยบนที่ราชพัสดุช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อย

          วานนี้ นายยุทธนา หยิมการุณ อธิบดีกรมธนารักษ์ลงนามร่วมกับ นายฉัตรชัย ศิริไล กรรมการผู้จัดการ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ และนายทวีพงษ์ วิชัยดิษฐ ผู้ว่าการการเคหะแห่งชาติ เพื่อจัดทำโครงการพัฒนาที่อยู่อาศัยบนที่ราชพัสดุสำหรับประชาชนที่มีรายได้น้อยและกลุ่มเปราะบาง รวมทั้งให้บริการทางการเงินและให้สินเชื่อแก่ผู้ประกอบการ

          นายทวีพงษ์ วิชัยดิษฐ ผู้ว่าการการเคหะแห่งชาติ (กคช.) กล่าวว่า กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) ได้มอบนโยบายให้การเคหะฯ พัฒนาที่อยู่อาศัยรองรับกลุ่มเป้าหมายให้ครอบคลุมทั่วทุกภูมิภาค โดยการเคหะฯ มีเป้าในการพัฒนาที่อยู่อาศัยประเภทเช่าหลายโครงการ เช่น โครงการบ้านเคหะสุขประชา โครงการบ้านเคหะสุขเกษม โครงการบ้านสวัสดิการข้าราชการชั้นผู้น้อย โครงการที่อยู่อาศัยสำหรับผู้สูงอายุ และโครงการที่อยู่อาศัยสำหรับผู้พิการ ผู้ด้อยโอกาสทางสังคม กลุ่มผู้ถูกไล่รื้อที่อยู่อาศัย กลุ่มผู้บุกรุกพื้นที่ริมทางรถไฟ และประชาชนทั่วไป

          "สำหรับโครงการนำร่องที่การเคหะฯดำเนินการพัฒนาที่อยู่อาศัยบนที่ราชพัสดุของกรมธนารักษ์อยู่ระหว่างศึกษาความเป็นไปได้เบื้องต้นในการจัดทำโครงการอยู่ในจังหวัดพิษณุโลกครอบคลุม 8 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเมือง อำเภอบางระกำ อำเภอวังทอง อำเภอบางกระทุ่ม อำเภอวัดโบสถ์ อำเภอนครไทย อำเภอพรหมพิราม และอำเภอชาติตระการ โดยจะนำที่ดินในพื้นที่ดังกล่าวมาพัฒนาบ้านเคหะสุขประชา บ้านเคหะสุขเกษม รวมถึงบ้านพักสำหรับข้าราชการและผู้มีรายได้น้อย"

          ทั้งนี้ โครงการเคหะสุขประชา มีเป้าหมายการพัฒนาปีละ 20,000 หน่วย โดยมีกลุ่มเป้าหมายคือกลุ่มเปราะบาง ซึ่งได้แก่ พ่อ/แม่เลี้ยงเดี่ยว ผู้พิการ ผู้ป่วยติดเตียง ผู้ที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 กลุ่มคนไร้บ้านซึ่งมีอยู่มากกว่า 30,000 ครัวเรือน และกลุ่มผู้บุกรุกพื้นที่ริมทางรถไฟอีกกว่า 44,000 ครัวเรือน ซึ่งเป็นผู้มีรายได้น้อย ไม่เกิน 41,600/เดือน/ครอบครัว ซึ่งเป็นการพัฒนาโครงการในลักษณะบ้านเช่าพร้อมอาชีพใน 6 ด้านได้แก่ ตลาด มินิมอลล์ อุตสาหกรรมการแปรรูปเพื่อเพิ่มมูลค่าสินค้า กสิกรรม ปศุสัตว์ และการประกอบอาชีพภายในโครงการ เช่น แม่บ้าน คนสวน รปภ. ทั้งนี้ค่าเช่าจะอยู่ที่ประมาณ 1,500-3,000 บาท/เดือน ซึ่งผู้เช่าสามารถเช่าได้ตลอดชีวิต และหากมีรายได้เพิ่ม ในอนาคตก็สามารถเปลี่ยนจากเงินจ่ายค่าเช่าเป็นเงินดาวน์เพื่อซื้อที่อยู่อาศัยของการเคหะแห่งชาติต่อไปได้

          "ปัจจุบันโครงการเคหะสุขประชาได้พัฒนาโครงการนำร่องไปแล้ว 2 แห่ง ที่ฉลองกรุง 302 หน่วย พร้อมตลาด ร่มเกล้า 270 หน่วย พร้อมมินิมอลล์ รวม 572 หน่วย โดยมีคนแห่จองถึง 6,660 สิทธิ์ จึงมีโปเจกต์พัฒนาอีก 13 โครงการ"

          นายฉัตรชัย ศิริไล กรรมการผู้จัดการธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) กล่าวว่า ในฐานะสถาบันการเงินของรัฐ ที่มีพันธกิจ "ทำให้คนไทยมีบ้าน" โดยครั้งนี้เป็นความร่วมมือจัดทำโครงการพัฒนาที่อยู่อาศัยบนที่ราชพัสดุ ระหว่าง ธนาคารอาคารสงเคราะห์ กรมธนารักษ์ และการเคหะแห่งชาติ เพื่อตอบสนองความต้องการของกลุ่มเป้าหมายตามนโยบายรัฐ รวมทั้งการดำเนินงานพัฒนาที่อยู่อาศัยของการเคหะฯ เป็นการบูรณาการในการพัฒนาที่อยู่อาศัยบนที่ราชพัสดุ โดยเป็นการเช่าที่ดินจากกรมธนารักษ์มาเพื่อก่อสร้างบ้านเช่าแนวราบ โดย ธอส.เป็นผู้สนับสนุนสินเชื่อพัฒนาโครงการให้กับ กคช.