นายทวีพงษ์ วิชัยดิษฐ ผู้ว่าการการเคหะแห่งชาติ เปิดเผยว่า ในปี 2565 จะเริ่มดำเนินโครงการบ้านเคหะสุขประชาบ้านเช่าพร้อมอาชีพ ระยะที่ 1 เพื่อก่อสร้างที่พักตามโครงการ 30,000 ยูนิต ทั่วประเทศใช้วงเงินลงทุน 18,000 ล้านบาท โดยการเคหะฯจะระดมทุน ซึ่งอยู่ระหว่างเจรจากับนักลงทุนสถาบันเพื่อออกหุ้นกู้ โดยใช้หลักการการแปลงสินทรัพย์เป็นหลักทรัพย์โดยนำเอาสินทรัพย์ที่มีอยู่มาเป็นสินทรัพย์เพื่อระดมทุนจากนักลงทุนสถาบัน คาดว่าจะมีความชัดเจนสามารถไประดมทุนจากนักลงทุนสถาบันได้ในเดือน พ.ค.นี้ นอกจากนี้ จะนำเอาโครงการบ้านเอื้ออาทรที่ยังจำหน่ายไม่หมดในบางพื้นที่มาปรับปรุงและขายออกไปโดยได้หารือกับธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) เพื่อให้มีการปล่อยสินเชื่อให้กับผู้ที่สนใจในโครงการต่อไป

          "การระดมทุนจากประชาชนจะเป็นขั้นตอน โดยการเคหะฯจะตั้งบริษัทลูก เพื่อดำเนินการโครงการเคหะสุขประชาชน แล้วนำบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ และกระจายหุ้นให้ประชาชน เพื่อให้มีส่วนร่วมในโครงการ"

          สำหรับโครงการเคหะสุขประชา บ้านเช่าพร้อมอาชีพ มีกรอบระยะเวลาการดำเนินงาน 5 ปี จำนวน 100,000 ยูนิตทั่วประเทศใช้วงเงินลงทุนประมาณ 60,000 ล้านบาท โดยจะมีการก่อสร้างบ้านทั่วประเทศนอกจากที่อยู่อาศัยที่จะให้กลุ่มผู้มีรายได้น้อยเช่าซื้อได้ในราคาถูกยังมีการฝึกอาชีพ และสร้างอาชีพในพื้นที่โครงการ 6 กลุ่มอาชีพ ได้แก่ 1.เกษตรอินทรีย์ เช่น ปลูกพืชระยะสั้น ปลูกพืชล้มลุก ปลูกผลไม้ยืนต้น ฯลฯ 2.ปศุสัตว์ เช่น เลี้ยงเป็ด เลี้ยงไก่ เลี้ยงปลา ฯลฯ 3.อาชีพบริการ เช่น ดูแลผู้สูงอายุ (Elderly Day Care) สร้างงานในชุมชน กลุ่มแม่บ้าน ฯลฯ 4.ตลาดเช่น แผงตลาด 5.อุตสาหกรรมขนาดเล็ก เช่น กระดาษสาน ดอกไม้จันทน์ เย็บผ้า ฯลฯ และ 6.ศูนย์การค้าปลีก-ส่ง เช่น Mini Mall คลังกระจายสินค้า