แกรนด์แอสเสทฯ สู่ยุคขาขึ้น ลงทุนโรงแรม-คอนโดฯ-วิลล่า
Loading

แกรนด์แอสเสทฯ สู่ยุคขาขึ้น ลงทุนโรงแรม-คอนโดฯ-วิลล่า

วันที่ : 22 มิถุนายน 2565
ที่ผ่านมามีดีมานด์ซื้อวิลล่าตากอากาศเพิ่มขึ้นอย่างชัดเจน เป็นผลมาจากสถานการณ์โควิด 2-3 ปี ทำให้พฤติกรรมผู้บริโภคมีการเปลี่ยนแปลง
          "แกรนด์ แอสเสทฯ" เผยธุรกิจโรงแรมส่งสัญญาณฟ้นตัวชัดเจน คาดรายได้ปีนี้เติบโต 207% ธุรกิจอสังหาฯเตรียมโอนคอนโดฯร่วมทุน "ไฮด์ เฮอริเทจ ทองหล่อ" ก.ค.นี้

          นายวิทวัส วิภากุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แกรนด์ แอสเสท โฮเทลส์ แอนด์ พรอพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ภาพรวมธุรกิจโรงแรมของบริษัทมีการฟ้นตัวอย่างชัดเจนหลังเปิดเมือง คาดว่ารายได้ปี 2565 จะสามารถทำอัตราเติบโตขึ้นจากปีก่อน 207% โดยคาดว่า มีอัตราเข้าพัก (occupency rate) 60% เทียบ กับปี 2564 ที่มีอัตราเข้าพัก 15.7%

          สำหรับแผนธุรกิจปีนี้ แกรนด์ แอสเสทฯ ตั้งเป้ารายได้เติบโตแบบก้าวกระโดดจำนวน 5,600 ล้านบาท แบ่งเป็น รายได้จากธุรกิจโรงแรม 1,800 ล้านบาท ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ 1,000 ล้านบาท และโครงการร่วมทุน 2,800 ล้านบาท

          ล่าสุด ไทม์ไลน์ในเดือนกรกฎาคม 2565 นี้ บริษัทมีกำหนดเริ่มดำเนินการโอนกรรมสิทธิ์ "ไฮด์ เฮอริเทจ ทองหล่อ" โครงการคอนโดมิเนียมร่วมทุนกับกลุ่มซูมิโตโม ฟอเรสทรี ประเทศญี่ปุ่น ซึ่งมียอดขายรอรับรู้รายได้ (Backlog) 2,500 ล้านบาท

          นายวิทวัสกล่าวต่อว่า แผนลงทุนในไตรมาส 3/65 บริษัทเตรียมเปิดตัวโครงการใหม่แบรนด์ "อมาธารา เรสซิเดนซ์ ระยอง" บนทำเลแหลมแม่พิมพ์ จังหวัดระยอง ก่อสร้างบนพื้นที่รวม 37 ไร่ มูลค่าโครงการ 2,656 ล้านบาท

          รายละเอียดโครงการ ออกแบบเป็นวิลล่าหรูบนเนินเขา พร้อมสระว่ายน้ำส่วนตัวทุกหลัง จำนวน 61 ยูนิต ราคาเริ่มต้น 33 ล้านบาท ภายใต้แนวคิดเวลเนส เรสซิเดนซ์ ตอบโจทย์กลุ่มลูกค้าที่ให้ความสำคัญกับการพักผ่อนทั้งร่างกายและจิตใจ

          "ที่ผ่านมามีดีมานด์ซื้อวิลล่าตากอากาศเพิ่มขึ้นอย่างชัดเจน เป็นผลมาจากสถานการณ์โควิด 2-3 ปี ทำให้พฤติกรรมผู้บริโภคมีการเปลี่ยนแปลง กลุ่มลูกค้าคนไทยนิยมซื้อบ้านหลังที่สองในทำเลที่เป็นแหล่งท่องเที่ยวพักผ่อนกันมากขึ้น"

          ศักยภาพของทำเลแหลมแม่พิมพ์ยังมีปัจจัยบวกจากเป็นพื้นที่รองรับกำลังซื้อจากโซน EEC (โครงการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก) ทำให้มีการค้าและการลงทุนหลั่งไหลเข้าสู่พื้นที่ 3 จังหวัด คือ ชลบุรี ระยอง ฉะเชิงเทรา เป็นจำนวนมาก ส่งผลให้ภูมิภาคนี้มีแนวโน้มการเติบโตที่ดี

          ด้านธุรกิจผลิตและจัดจำหน่ายถุงมือยาง ปัจจุบันก่อสร้างโรงงานแล้วเสร็จ 1 อาคาร มี 8 สายการผลิต โดยคาดว่า จะดำเนินการก่อสร้างแล้วเสร็จครบทั้ง 8 สายการผลิตภายในปี 2565 นี้
ข่าวโครงการอสังหาฯ ภาคเอกชน อื่นๆ