ฮาบิแททฯ ผนึกแลนด์ลอร์ดชลบุรี-พัทยา บุกแนวราบครั้งแรกรับเมืองใหม่อัจฉริยะEEC
วันที่ : 19 ตุลาคม 2565
สำหรับภาพรวมตลาดอสังหาฯในพื้นที่พัทยา มีความต้องการซื้อในหลายเซกเมนต์ และโครงการในรูปแบบ วิลล่า เป็นอีกเซกเมนต์ที่มีดีมานด์สูง สำหรับทั้งการท่องเที่ยวและพักผ่อน รวมทั้งซื้อไว้เพื่อการลงทุนในระยะยาว
"ฮาบิแทท กรุ๊ป" เซอร์ไพรส์ จับมือหนึ่งในแลนด์ลอร์ดรายใหญ่ชลบุรี-พัทยา ตั้งบริษัทร่วมทุนลุยพัฒนาโครงการแนวราบครั้งแรก ภายใต้แบรนด์ใหม่ "ไฮแลนด์ พาร์ค พูล วิลล่า พัทยา" โชว์คอนเซ็ปต์ "เวเคชัน พูลวิลล่า" มูลค่าโครงการ 1,700 ล้านบาท เจาะกลุ่ม เรียลดีมานด์ไทย-ต่างชาติ เพื่อซื้อบ้านหลังที่ 2 แทนการเช่า ด้านผู้ร่วมทุน "รัฐกิจ เฮงตระกูล" ทุนการเมืองจากพรรคเพื่อไทย ระบุจุดมุ่งหมายสร้างชื่อในธุรกิจอสังหาฯ เผยแปลงร่วมทุน 'ห้วยใหญ่'อยู่ในทำเลศักยภาพสูง และอยู่ในเป้าหมายโครงการรัฐ ปันศูนย์ธุรกิจอีอีซี และเมืองใหม่น่าอยู่อัจฉริยะกว่า 1.4 หมื่นไร่
นายชนินทร์ วานิชวงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ฮาบิแทท กรุ๊ป จำกัด ผู้นำด้านการพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์เพื่อการลงทุน เปิดเผยถึงแผนการลงทุนและกลยุทธ์ธุรกิจครั้งสำคัญในรอบ 10 ปีนับตั้งแต่ก่อตั้งบริษัทฯ จากเดิมที่เน้นโปรดักส์กลุ่มไลฟ์สไตล์ อินเวสเม้นท์ มาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเป็นตลาดเฉพาะกลุ่มนิช มาร์เก็ต ที่ต้องการซื้ออสังหาริมทรัพย์เพื่อการลงทุนเป็นหลัก มาสู่แผนการสร้างโอกาสใหม่ๆ ขยายไปในตลาดแนวราบเป็นครั้งแรก ซึ่งเป็นตลาด เรียลดีมานด์ที่มีขนาดใหญ่ และมีความต้องการซื้ออย่างต่อเนื่อง
นอกจากด้าน ดีมานด์แล้ว ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา ยังพบว่า โควิด-19 ได้ส่งผลให้ผู้บริโภคและนักลงทุนมีมุมมองต่อการซื้อที่อยู่อาศัยที่เปลี่ยนไป โดยคาดหวังถึงที่อยู่อาศัยที่มีพื้นที่กว้างมากขึ้น สามารถรองรับกิจกรรมของครอบครัวและกลุ่มเพื่อน ซึ่งเป็นรูปแบบของการอยู่อาศัยพร้อมท่องเที่ยวและพักผ่อนที่เป็นเทรนด์การใช้ชีวิตและทำงานของคนยุคใหม่ "ทำงานจากที่ไหนก็ได้" หรือ Work from Anywhere จากปัจจัยดังกล่าวนำมาสู่การปรับแผนธุรกิจในครั้งนี้ และเชื่อว่าจะทำให้ธุรกิจสามารถเติบโตได้อย่างมั่นคงในระยะยาว
"จากเดิมที่เราโฟกัสการพัฒนาโครงการอสังหาฯ เพื่อลงทุน แต่วิกฤตโควิดที่ผ่านมา ทำให้บริษัทฯ หันมาสนใจตลาดแนวราบและหวังสร้างบาลานซ์ พอร์ต เพื่อจัดการบริหารความเสี่ยงอีกด้วย" นายชนินทร์ กล่าว
โดยรูปแบบการลงทุนโครงการแนวราบใหม่ในครั้งนี้ เป็นโมเดลร่วมทุนกับแลนด์ลอร์ดรายใหญ่ในพื้นที่ "ชลบุรี-พัทยา" จัดตั้งในนามบริษัท ฮาบิแทท วิลล่า จำกัด เพื่อพัฒนาโครงการ "ไฮแลนด์ พาร์ค พูล วิลล่า พัทยา" ร่วมกัน โดยมีสัดส่วน ฮาบิแทท กรุ๊ป ถือหุ้น 70% และอีก 30% เป็นของนายรัฐกิจ เฮงตระกูล เจ้าของที่ดินดังกล่าว
"ไฮแลนด์ พาร์ค พูล วิลล่า โครงการพูล วิลล่า สไตล์โมเดิร์น มูลค่าโครงการ 1,700 ล้านบาท บนเนื้อที่กว่า 51 ไร่ โดยจะเริ่มพัฒนาเฟสแรกจำนวน 65 หลัง มูลค่าโครงการ 700 ล้านบาท ประกอบด้วยบ้าน 2 แบบ ได้แก่ โรสวูด แกรนด์ วิลล่า ขนาดเนื้อที่ใหญ่เริ่มต้น 76-152 ตารางวา พื้นที่ใช้สอยภายในบ้าน 375 ตารางเมตร (ตร.ม.) ในราคา 13-15 ล้านบาท และแบบแคสเซีย พูล วิลล่า ขนาดเนื้อที่เริ่มต้น 61-122 ตารางวา พื้นที่ใช้สอยภายในบ้าน 282 ตร.ม. ราคาขายเริ่มต้นที่ 8-12ล้านบาท
โครงการ "ไฮแลนด์ พาร์ค พูล วิลล่า พัทยา" มีจุดเด่นอยู่ที่ทำเลระดับพรีเมียมบริเวณห้วยใหญ่ มองเห็นวิวภูเขาที่สวยงาม โดยจะเริ่มเปิดขาย VVIP ในช่วงเดือนพฤศจิกายน 2565 นี้ เจาะกลุ่มเป้าหมายที่มาจากกรุงเทพฯ 70% ในช่วงอายุ 30-50 ปี ซึ่งเป็นกลุ่มครอบครัว และอีก 30% เป็นชาวต่างชาติที่เข้ามาทำงานในประเทศไทย และวัยเริ่มเกษียณ ที่มองหาพื้นที่เพื่อการพักผ่อนและต้องการมีคุณภาพชีวิตที่ดี โดยผู้ซื้อสามารถเลือกซื้อทั้งเพื่ออยู่เองและปล่อยเช่าในระยะยาว จากนั้นจะรอดูผลตอบรับจากกลุ่มลูกค้าก่อนจะเปิดในส่วนของเฟสสองอีก 100 หลัง มูลค่ากว่า 1,000 ล้านบาทต่อไป
"รัฐกิจ เฮงตระกูล" พรรค พท.แจงร่วมทุนพัฒนาวิลล่ารับ "เมืองคู่แฝด EEC"สร้างชื่อในวงการอสังหาฯ
ด้าน นายรัฐกิจ เฮงตระกูล ผู้ร่วมทุนโครงการ "ไฮแลนด์ พาร์ค พูล วิลล่า พัทยา" ผู้ลงสมัครเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) เขตชลบุรี พรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวเป็นครั้งแรกว่า ที่ผ่านมาทางครอบครัวดำเนินธุรกิจธุรกิจบ้านจัดสรรมากว่า 10 ปี ภายใต้แบรนด์ "พัทยา ปาร์ค ฮิลล์" และ "วรรณสิริ" ราค 2-3 แสนบาทต่อยูนิต ปัจจุบันได้มาจับตลาดระดับราคา 1-2 ล้านบาท รวมไปถึงการซื้อที่ดินเข้าเพิ่มเติม แม้ว่าปัจจุบันทางครอบครัวทั้งของคุณพ่อ (ชาญยุทธ เฮงตระกูล) และคุณแม่ จะมีที่ดินสะสม(แลนด์แบงก์)อยู่ในจังหวัดชลบุรี รวมไม่ต่ำกว่า 20 แปลง ขนาดเนื้อที่ 10-20 ไร่ ซึ่งส่วนใหญ่จะอยู่ในเมืองติดถนนสุขุมวิท และที่ดินซื้อมานานไม่ต่ำกว่า 40 ปี ราคาต่อไร่ประมาณ 40,000 บาท ปัจจุบันบางแปลงราคาไปถึง 100 ล้านบาท นอกจากนี้ ยังมีที่ดินในจังหวัดนนทบุรี และจังหวัดพิจิตร เป็นต้น
"เราอยากทำโครงการอสังหาฯระดับพรีเมียม จะว่าเป็นการสร้างชื่อก็ไม่ผิด มีเหตุผลที่พูดคุยกับฮาบิแทท เพราะมีความประทับใจในผลงานการพัฒนาโครงการในพื้นที่พัทยาที่ผ่านมา โดยแปลงร่วมทุนกับทางบริษัท ฮาบิแททฯ ถือเป็นแปลงที่มีศักยภาพอันดับท้ายๆ ของที่ดินทั้งหมดที่มีอยู่ แต่เป็นแปลงที่มีอนาคต เพราะอยู่ในบริเวณตำบลห้วยใหญ่ อ.บางละมุง ซึ่งอยู่ในพื้นที่โครงการของรัฐบาลที่จะสร้างเมืองคู่แฝดอีอีซี ภายใต้ชื่อโครงการศูนย์ธุรกิจอีอีซี และ เมืองน่าอยู่อัจฉริยะ ที่ขณะนี้ ภาครัฐ ได้นำที่ดินของสำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม (ส.ป.ก.) เนื้อที่ 14,619 ไร่ มาพัฒนา ส่งผลให้โครงการเมืองคู่แฝดอีอีซี จะมีมูลค่าสูงถึง 1.34 ล้านล้ายบาท ยิ่งจะช่วยสร้างมูลค่าให้กับโครงการ ไฮแลนด์ พาร์ค พูล วิลล่า พัทยา" นายรัฐกิจ กล่าว
สำหรับภาพรวมตลาดอสังหาฯในพื้นที่พัทยา มีความต้องการซื้อในหลายเซกเมนต์ และโครงการในรูปแบบ วิลล่า เป็นอีกเซกเมนต์ที่มีดีมานด์สูง สำหรับทั้งการท่องเที่ยวและพักผ่อน รวมทั้งซื้อไว้เพื่อการลงทุนในระยะยาว โดยมีความสนใจจากผู้ซื้อทั้งนักธุรกิจในพื้นที่ ชาวต่างชาติที่ทำงานอยู่ในนิคมอุตสาหกรรมโซนอีอีซี เป็นระดับผู้บริหารที่ต้องการซื้อแทนเช่า และชาวไทยที่อยู่กรุงเทพฯ เพราะการเดินทางที่สะดวกและใช้เวลาในช่วงสั้นๆ จากกรุงเทพฯ มาพัทยา และสุดท้ายกลุ่มต่างชาติ ที่นับตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมาพบว่าแนวโน้มเริ่มดีขึ้นเรื่อยๆ จึงมองว่าเป็นโอกาสในการพัฒนาและเปิดขายโครงการบนทำเลศักยภาพที่ตอบโจทย์ความต้องการของตลาดได้ในช่วงจังหวะนี้
ขณะที่ฝ่ายวิจัยและการสื่อสาร คอลลิเออร์ส ประเทศไทย วิเคราะห์ถึงตลาดพูลวิลล่าในพื้นที่พัทยา ระดับราคาขาย 8-15 ล้านบาท นับเป็นตลาดที่เติบโตและได้รับความสนใจทั้งจากผู้พัฒนาและกำลังซื้ออย่างต่อเนื่อง โดยในช่วง 6 เดือนแรกของปี 2565 มีโครงการพูลวิลล่าเปิดขาย 13 โครงการ รวม 404 ยูนิต ซึ่งในจำนวนนี้ขายไปแล้ว 295 ยูนิต หรือคิดเป็น 73% ของจำนวนยูนิตที่เปิดขายทั้งหมด ซึ่งส่วนใหญ่เป็นการพัฒนาโดยผู้พัฒนารายใหญ่ในพื้นที่ และเป็นโครงการขนาดเล็กที่มีจำนวนยูนิต ขายน้อย
นายชนินทร์ วานิชวงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ฮาบิแทท กรุ๊ป จำกัด ผู้นำด้านการพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์เพื่อการลงทุน เปิดเผยถึงแผนการลงทุนและกลยุทธ์ธุรกิจครั้งสำคัญในรอบ 10 ปีนับตั้งแต่ก่อตั้งบริษัทฯ จากเดิมที่เน้นโปรดักส์กลุ่มไลฟ์สไตล์ อินเวสเม้นท์ มาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเป็นตลาดเฉพาะกลุ่มนิช มาร์เก็ต ที่ต้องการซื้ออสังหาริมทรัพย์เพื่อการลงทุนเป็นหลัก มาสู่แผนการสร้างโอกาสใหม่ๆ ขยายไปในตลาดแนวราบเป็นครั้งแรก ซึ่งเป็นตลาด เรียลดีมานด์ที่มีขนาดใหญ่ และมีความต้องการซื้ออย่างต่อเนื่อง
นอกจากด้าน ดีมานด์แล้ว ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา ยังพบว่า โควิด-19 ได้ส่งผลให้ผู้บริโภคและนักลงทุนมีมุมมองต่อการซื้อที่อยู่อาศัยที่เปลี่ยนไป โดยคาดหวังถึงที่อยู่อาศัยที่มีพื้นที่กว้างมากขึ้น สามารถรองรับกิจกรรมของครอบครัวและกลุ่มเพื่อน ซึ่งเป็นรูปแบบของการอยู่อาศัยพร้อมท่องเที่ยวและพักผ่อนที่เป็นเทรนด์การใช้ชีวิตและทำงานของคนยุคใหม่ "ทำงานจากที่ไหนก็ได้" หรือ Work from Anywhere จากปัจจัยดังกล่าวนำมาสู่การปรับแผนธุรกิจในครั้งนี้ และเชื่อว่าจะทำให้ธุรกิจสามารถเติบโตได้อย่างมั่นคงในระยะยาว
"จากเดิมที่เราโฟกัสการพัฒนาโครงการอสังหาฯ เพื่อลงทุน แต่วิกฤตโควิดที่ผ่านมา ทำให้บริษัทฯ หันมาสนใจตลาดแนวราบและหวังสร้างบาลานซ์ พอร์ต เพื่อจัดการบริหารความเสี่ยงอีกด้วย" นายชนินทร์ กล่าว
โดยรูปแบบการลงทุนโครงการแนวราบใหม่ในครั้งนี้ เป็นโมเดลร่วมทุนกับแลนด์ลอร์ดรายใหญ่ในพื้นที่ "ชลบุรี-พัทยา" จัดตั้งในนามบริษัท ฮาบิแทท วิลล่า จำกัด เพื่อพัฒนาโครงการ "ไฮแลนด์ พาร์ค พูล วิลล่า พัทยา" ร่วมกัน โดยมีสัดส่วน ฮาบิแทท กรุ๊ป ถือหุ้น 70% และอีก 30% เป็นของนายรัฐกิจ เฮงตระกูล เจ้าของที่ดินดังกล่าว
"ไฮแลนด์ พาร์ค พูล วิลล่า โครงการพูล วิลล่า สไตล์โมเดิร์น มูลค่าโครงการ 1,700 ล้านบาท บนเนื้อที่กว่า 51 ไร่ โดยจะเริ่มพัฒนาเฟสแรกจำนวน 65 หลัง มูลค่าโครงการ 700 ล้านบาท ประกอบด้วยบ้าน 2 แบบ ได้แก่ โรสวูด แกรนด์ วิลล่า ขนาดเนื้อที่ใหญ่เริ่มต้น 76-152 ตารางวา พื้นที่ใช้สอยภายในบ้าน 375 ตารางเมตร (ตร.ม.) ในราคา 13-15 ล้านบาท และแบบแคสเซีย พูล วิลล่า ขนาดเนื้อที่เริ่มต้น 61-122 ตารางวา พื้นที่ใช้สอยภายในบ้าน 282 ตร.ม. ราคาขายเริ่มต้นที่ 8-12ล้านบาท
โครงการ "ไฮแลนด์ พาร์ค พูล วิลล่า พัทยา" มีจุดเด่นอยู่ที่ทำเลระดับพรีเมียมบริเวณห้วยใหญ่ มองเห็นวิวภูเขาที่สวยงาม โดยจะเริ่มเปิดขาย VVIP ในช่วงเดือนพฤศจิกายน 2565 นี้ เจาะกลุ่มเป้าหมายที่มาจากกรุงเทพฯ 70% ในช่วงอายุ 30-50 ปี ซึ่งเป็นกลุ่มครอบครัว และอีก 30% เป็นชาวต่างชาติที่เข้ามาทำงานในประเทศไทย และวัยเริ่มเกษียณ ที่มองหาพื้นที่เพื่อการพักผ่อนและต้องการมีคุณภาพชีวิตที่ดี โดยผู้ซื้อสามารถเลือกซื้อทั้งเพื่ออยู่เองและปล่อยเช่าในระยะยาว จากนั้นจะรอดูผลตอบรับจากกลุ่มลูกค้าก่อนจะเปิดในส่วนของเฟสสองอีก 100 หลัง มูลค่ากว่า 1,000 ล้านบาทต่อไป
"รัฐกิจ เฮงตระกูล" พรรค พท.แจงร่วมทุนพัฒนาวิลล่ารับ "เมืองคู่แฝด EEC"สร้างชื่อในวงการอสังหาฯ
ด้าน นายรัฐกิจ เฮงตระกูล ผู้ร่วมทุนโครงการ "ไฮแลนด์ พาร์ค พูล วิลล่า พัทยา" ผู้ลงสมัครเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) เขตชลบุรี พรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวเป็นครั้งแรกว่า ที่ผ่านมาทางครอบครัวดำเนินธุรกิจธุรกิจบ้านจัดสรรมากว่า 10 ปี ภายใต้แบรนด์ "พัทยา ปาร์ค ฮิลล์" และ "วรรณสิริ" ราค 2-3 แสนบาทต่อยูนิต ปัจจุบันได้มาจับตลาดระดับราคา 1-2 ล้านบาท รวมไปถึงการซื้อที่ดินเข้าเพิ่มเติม แม้ว่าปัจจุบันทางครอบครัวทั้งของคุณพ่อ (ชาญยุทธ เฮงตระกูล) และคุณแม่ จะมีที่ดินสะสม(แลนด์แบงก์)อยู่ในจังหวัดชลบุรี รวมไม่ต่ำกว่า 20 แปลง ขนาดเนื้อที่ 10-20 ไร่ ซึ่งส่วนใหญ่จะอยู่ในเมืองติดถนนสุขุมวิท และที่ดินซื้อมานานไม่ต่ำกว่า 40 ปี ราคาต่อไร่ประมาณ 40,000 บาท ปัจจุบันบางแปลงราคาไปถึง 100 ล้านบาท นอกจากนี้ ยังมีที่ดินในจังหวัดนนทบุรี และจังหวัดพิจิตร เป็นต้น
"เราอยากทำโครงการอสังหาฯระดับพรีเมียม จะว่าเป็นการสร้างชื่อก็ไม่ผิด มีเหตุผลที่พูดคุยกับฮาบิแทท เพราะมีความประทับใจในผลงานการพัฒนาโครงการในพื้นที่พัทยาที่ผ่านมา โดยแปลงร่วมทุนกับทางบริษัท ฮาบิแททฯ ถือเป็นแปลงที่มีศักยภาพอันดับท้ายๆ ของที่ดินทั้งหมดที่มีอยู่ แต่เป็นแปลงที่มีอนาคต เพราะอยู่ในบริเวณตำบลห้วยใหญ่ อ.บางละมุง ซึ่งอยู่ในพื้นที่โครงการของรัฐบาลที่จะสร้างเมืองคู่แฝดอีอีซี ภายใต้ชื่อโครงการศูนย์ธุรกิจอีอีซี และ เมืองน่าอยู่อัจฉริยะ ที่ขณะนี้ ภาครัฐ ได้นำที่ดินของสำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม (ส.ป.ก.) เนื้อที่ 14,619 ไร่ มาพัฒนา ส่งผลให้โครงการเมืองคู่แฝดอีอีซี จะมีมูลค่าสูงถึง 1.34 ล้านล้ายบาท ยิ่งจะช่วยสร้างมูลค่าให้กับโครงการ ไฮแลนด์ พาร์ค พูล วิลล่า พัทยา" นายรัฐกิจ กล่าว
สำหรับภาพรวมตลาดอสังหาฯในพื้นที่พัทยา มีความต้องการซื้อในหลายเซกเมนต์ และโครงการในรูปแบบ วิลล่า เป็นอีกเซกเมนต์ที่มีดีมานด์สูง สำหรับทั้งการท่องเที่ยวและพักผ่อน รวมทั้งซื้อไว้เพื่อการลงทุนในระยะยาว โดยมีความสนใจจากผู้ซื้อทั้งนักธุรกิจในพื้นที่ ชาวต่างชาติที่ทำงานอยู่ในนิคมอุตสาหกรรมโซนอีอีซี เป็นระดับผู้บริหารที่ต้องการซื้อแทนเช่า และชาวไทยที่อยู่กรุงเทพฯ เพราะการเดินทางที่สะดวกและใช้เวลาในช่วงสั้นๆ จากกรุงเทพฯ มาพัทยา และสุดท้ายกลุ่มต่างชาติ ที่นับตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมาพบว่าแนวโน้มเริ่มดีขึ้นเรื่อยๆ จึงมองว่าเป็นโอกาสในการพัฒนาและเปิดขายโครงการบนทำเลศักยภาพที่ตอบโจทย์ความต้องการของตลาดได้ในช่วงจังหวะนี้
ขณะที่ฝ่ายวิจัยและการสื่อสาร คอลลิเออร์ส ประเทศไทย วิเคราะห์ถึงตลาดพูลวิลล่าในพื้นที่พัทยา ระดับราคาขาย 8-15 ล้านบาท นับเป็นตลาดที่เติบโตและได้รับความสนใจทั้งจากผู้พัฒนาและกำลังซื้ออย่างต่อเนื่อง โดยในช่วง 6 เดือนแรกของปี 2565 มีโครงการพูลวิลล่าเปิดขาย 13 โครงการ รวม 404 ยูนิต ซึ่งในจำนวนนี้ขายไปแล้ว 295 ยูนิต หรือคิดเป็น 73% ของจำนวนยูนิตที่เปิดขายทั้งหมด ซึ่งส่วนใหญ่เป็นการพัฒนาโดยผู้พัฒนารายใหญ่ในพื้นที่ และเป็นโครงการขนาดเล็กที่มีจำนวนยูนิต ขายน้อย