นายวิชัย วิรัตกพันธ์ ผู้ตรวจการธนาคารอาคารสงเคราะห์ และรักษาการผู้อำนวยการ ศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ (REIC) เปิดเผยว่า ในช่วงไตรมาส 2 ปี 2565 มีการโอนกรรมสิทธิ์ห้องชุดของคนต่างชาติ 2,326 หน่วย เพิ่มขึ้น 15.1% มีมูลค่าการโอน 12,114 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 26.9% และเป็นพื้นที่โอน 109,486 ตารางเมตร เพิ่มขึ้น 27.6% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งยอดการโอนในไตรมาส 2 ปี 2565 สูงกว่าค่าเฉลี่ยในช่วงเกิด COVID-19 (ปี 2563-2564) และเพิ่มขึ้นในเชิงจำนวนหน่วยสูงสุดในรอบ 5 ไตรมาส และเพิ่มขึ้นในแง่มูลค่าและพื้นที่สูงสุดในรอบ 6 ไตรมาส

          นอกจากนี้ยังพบว่าในไตรมาส 2 ปี 2565 จำนวนหน่วยโอนห้องชุดให้คนต่างชาติ เป็นห้องชุดมือสองถึง 37.1% ขณะที่มูลค่าและพื้นที่โอนห้องชุดมือสองมีสัดส่วน 27.2% และ 43.3% ตามลำดับ และเป็นสัดส่วนพื้นที่ห้องชุดมือสองเพิ่มขึ้นต่อเนื่องกัน 6 ไตรมาส และยังเป็นสัดส่วนที่สูงที่สุดในรอบ 18 ไตรมาส อีกด้วย

          โดยจะสังเกตได้ว่าคนต่างชาติในระยะหลัง อาจมีความต้องการห้องชุดมือสองที่อยู่ในพื้นที่ชั้นในหรือพื้นที่ใกล้ศูนย์กลางธุรกิจของเมือง ซึ่งในปัจจุบันมีอุปทานให้เลือกน้อยลง ประกอบกับห้องชุดมือสองในทำเลเหล่านี้มีราคาต่ำกว่าโครงการเปิดใหม่ ดังนั้นห้องชุดมือสองจึงเป็นทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับคนต่างชาติ โดยเฉพาะกลุ่มผู้ซื้อจากยุโรป สหรัฐอเมริกา ออสเตรเลีย รัสเซีย และอินเดีย

          นอกจากนี้ยังพบว่าในไตรมาส 2 ปี 2565 ชาวจีนยังคงมีหน่วยการโอนห้องชุดมากที่สุดถึง 2,072 หน่วย คิดเป็น 25.3% รองลงมา ได้แก่ รัสเซีย สหรัฐอเมริกา สหราชอาณาจักร และเยอรมนี ขณะที่มูลค่าการโอนมากที่สุดก็ยังเป็นชาวจีน 10,493 ล้านบาท คิดเป็น 26.4% รองลงมาคือ สหรัฐอเมริกา ฝรั่งเศส รัสเซีย และกัมพูชา ส่วนราคาเฉลี่ยคือ 5 ล้านบาท/หน่วย