มือสองในเมืองขายดีสุดรอบ4ปีครึ่ง

          6จว.ยอดฮิต'กทม.-ชลบุรี' ยืนหนึ่ง

          ศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ (REIC) เผยยอดโอนห้องชุดต่างชาติไตรมาส 2 ปี'65 เพิ่มขึ้นกว่า 1.2 หมื่นล้าน เพิ่มขึ้น 26.9% มือสองทำเลในเมืองขายดี ชี้ กทม. ชลบุรี ปากน้ำ ภูเก็ต เชียงใหม่ ยังฮอต

          นายวิชัย วิรัตกพันธ์ ผู้ตรวจการธนาคารอาคารสงเคราะห์ และรักษาการผู้อำนวยการศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ (REIC) เปิดเผยว่า สถานการณ์การโอนกรรมสิทธิ์ ห้องชุดของคนต่างชาติ ไตรมาส 2 (เมษายน-มิถุนายน) ปี 2565 มีจำนวน 2,326 หน่วย เพิ่มขึ้น 15.1% มีมูลค่าการโอน 12,114 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 26.9% และเป็นพื้นที่โอนกรรมสิทธิ์ 109,486 ตร.ม. เพิ่มขึ้น 27.6% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน สูงกว่าค่าเฉลี่ยในช่วงเกิดโควิด-19 (2563-64)และเป็นการเพิ่มขึ้นในเชิงจำนวนหน่วยสูงสุดในรอบ 5 ไตรมาสที่ผ่านมา และเพิ่มขึ้นในมูลค่าและพื้นที่สูงสุดในรอบ 6 ไตรมาส โดยพบว่าเป็นการโอนห้องชุดมือสองถึง 37.1% เพิ่มมากขึ้นติดต่อกัน 6 ไตรมาส และยังเป็นสัดส่วนที่สูงที่สุดในรอบ 18 ไตรมาส โดยอยู่ในทำเลพื้นที่ชั้นในหรือใกล้ศูนย์กลางธุรกิจ ซึ่งปัจจุบันมีอุปทานให้เลือกน้อยลง ประกอบกับราคาห้องชุดมือสองในทำเลเหล่านี้ มีราคาที่ต่ำกว่าโครงการเปิดใหม่ จึงเป็นทางเลือกที่น่าสนใจ ของคนต่างชาติ โดยเฉพาะกลุ่มยุโรป สหรัฐอเมริกา ออสเตรเลีย รัสเซีย และอินเดีย

          นายวิชัยกล่าวว่า สำหรับจีนยังคงเป็นสัญชาติที่มีหน่วยการโอนกรรมสิทธิ์ห้องชุดทั่วประเทศมากที่สุด รองลงมามีรัสเซีย สหรัฐอเมริกา สหราชอาณาจักร และเยอรมัน ขณะที่ มูลค่าการโอนกรรมสิทธิ์ห้องชุดทั่วประเทศมากที่สุดเป็นลำดับแรก คือ ชาวจีน รองลงมาคือ สหรัฐอเมริกา ฝรั่งเศส รัสเซีย และกัมพูชา ขณะที่ราคาเฉลี่ยห้องชุดที่ชาวต่างชาติ รับโอนกรรมสิทธิ์ คือ 5 ล้านบาทต่อหน่วย สัญชาติที่มีราคาเฉลี่ยต่อหน่วยโอนสูงสุด คือ ไต้หวัน 7.1 ล้านบาทต่อหน่วย ด้านรัสเซีย และเยอรมันเป็นกลุ่มที่มีราคาเฉลี่ยต่อหน่วยโอนต่ำสุด 3.2 ล้านบาทต่อหน่วย ทั้งนี้ห้องชุดไม่เกิน 60 ตร.ม. เป็นประเภทที่คนต่างชาตินิยมมากที่สุด มีหน่วยรวมกัน สูงกว่า 80% ในแต่ละไตรมาส โดยไต้หวันซื้อห้องชุดในราคาเฉลี่ยต่อพื้นที่สูงสุด 155,085 บาทต่อ ตร.ม. รองลงมา จีน 129,353 บาทต่อ ตร.ม.

          "จังหวัดที่มีหน่วยโอนให้ต่างชาติสะสมมากที่สุด 5 อันดับแรก ใน 6 เดือนแรก (มกราคม-มิถุนายน2565) ได้แก่ กรุงเทพฯ ชลบุรี สมุทรปราการ ภูเก็ต และเชียงใหม่ ซึ่งส่วนใหญ่จะอยู่ใน 2 จังหวัดแรก คือ กรุงเทพฯ 43.8% และชลบุรี 31.0% โดย 6 จังหวัดมีสัดส่วนจำนวนหน่วย รวมกันสูงถึง 80.7% ของทั่วประเทศ"นายวิชัยกล่าว