6 ปี 'เซ็นทรัล ภูเก็ต' ลงทุนอัพไซซ์ลักเซอรี่โซน 200,000 ตร.ม.
Loading

6 ปี 'เซ็นทรัล ภูเก็ต' ลงทุนอัพไซซ์ลักเซอรี่โซน 200,000 ตร.ม.

วันที่ : 4 ธันวาคม 2567
CPN ระบุว่า "ตลาดช็อปปิ้งสินค้าลักเซอรี่ไทยมีมูลค่า 5 พันล้านเหรียญสหรัฐ หรือ 5 แสนล้านบาท จากเทรนด์การฟื้นตัว ของภาคการท่องเที่ยวไทยที่ฟื้นตัวแรงและเร็ว ทำให้คาดว่าในช่วง 5 ปี ตั้งแต่ปีนี้จะมีการเติบโต 6.15% ต่อปี จนถึงปี 2571 มีการเติบโตสูงกว่าตลาดลักเซอรี่ของสิงคโปร์"
   
     เซ็นทรัลกรุ๊ปเพิ่งจะไฟเขียว ลงทุนเพิ่ม 1,000 ล้านบาท ขยายพื้นที่วางสินค้าลักเซอรี่เพิ่มขึ้นที่เซ็นทรัล ภูเก็ต

    นับเป็นการตัดสินใจครั้งสำคัญเพื่อต่อจิ๊กซอว์ธุรกิจศูนย์การค้า ยกระดับอย่างน้อย 2 เรื่องด้วยกัน คือ ขยายโซนลักเซอรี่แข่งกับเมืองท่องเที่ยวทั่วโลก มีผลให้ เป็นการขยายพื้นที่ศูนย์การค้าไปสู่พื้นที่ 200,000 ตารางเมตร ไซซ์ใหญ่ขนาดนี้ เป็นรองก็เฉพาะเซ็นทรัลเวิลด์ในกรุงเทพฯเท่านั้น อีกเรื่องสร้างความโดดเด่นจาก Phuket A World Class Luxury Beach City

    ลงทุนเพิ่ม 1,000 ล้านบาท

    โดย "ดร.ณัฐกิตติ์ ตั้งพูลสินธนา" กรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานการตลาด บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) หรือ CPN ระบุว่า จากสาเหตุที่ตลาดสินค้าลักเซอรี่ในไทยมีการเติบโตอย่างโดดเด่น ดังนั้น เซ็นทรัลกรุ๊ปจึงได้ลงทุนเพิ่ม 1,000 ล้านบาท ในเซ็นทรัล ภูเก็ต เพื่อรองรับความต้องการของลูกค้ากลุ่มกำลังซื้อระดับลักเซอรี่

    รูปแบบจะมีการลงทุนขยายพื้นที่เซ็นทรัล ภูเก็ต ฝั่งฟลอเรสต้า จากเดิมมี GFA 180,000 ตารางเมตร เพิ่มเป็น 200,000 ตารางเมตร หรือเพิ่มขึ้น 20,000 ตารางเมตร จะเริ่มเปิดปฏิบัติการได้ในเดือนกุมภาพันธ์ 2568 คาดว่าการก่อสร้างแล้วเสร็จในปี 2570

    ในอนาคตอันใกล้ เซ็นทรัล ภูเก็ต จะยกระดับเพิ่มพื้นที่ Ultra Luxury Brands and Bridge Line รวมทั้งสิ้น 25 แบรนด์ จาก 16 แบรนด์ ถือเป็น Luxury Mall ที่รวมแบรนด์หรูมากที่สุดเพียงหนึ่งเดียวที่อยู่นอกกรุงเทพฯ

    "ตลาดช็อปปิ้งสินค้าลักเซอรี่ไทยมีมูลค่า 5 พันล้านเหรียญสหรัฐ หรือ 5 แสนล้านบาท จากเทรนด์การฟื้นตัว ของภาคการท่องเที่ยวไทยที่ฟื้นตัวแรงและเร็ว ทำให้คาดว่าในช่วง 5 ปี ตั้งแต่ปีนี้จะมีการเติบโต 6.15% ต่อปี จนถึงปี 2571 มีการเติบโตสูงกว่าตลาดลักเซอรี่ของสิงคโปร์"

    ทั้งนี้ สินค้าลักเซอรี่ในไทยเน้นกลุ่มแฟชั่นเป็นหลัก เติบโตจากความต้องการในประเทศ และอิทธิพลของโซเชียลมีเดีย แม้ตลาดสินค้าหรูทั่วโลกชะลอตัว แต่ไทยกลับเติบโตอย่างแข็งแกร่ง วัดได้จากเม็ดเงินโฆษณาแบรนด์หรูต่าง ๆ ที่พุ่งเป้าหมายมาเปิดพื้นที่ในไทย พบว่า สถิติครึ่งปีแรก (มกราคม-มิถุนายน 2567) เติบโตถึง 214% สูงที่สุดในเอเชีย ซึ่งแบรนด์หรูระดับโลกหลายแบรนด์เริ่มหันมาใช้ KOLs ไทยในฐานะ Brand Ambassador สะท้อนอิทธิพลต่อการตัดสินใจซื้อ โดยเฉพาะกับกลุ่ม "Young Gen"
    
    5 จิ๊กซอว์บูมไข่มุกอันดามัน

    "ดร.ณัฐกิตติ์" กล่าวว่า มี 5 จิ๊กซอว์สำคัญทำให้ภูเก็ตเป็นเมืองชายทะเลหรูระดับโลก ดังนี้

    1.World-Class Infrastructure จากการสนามบินนานาชาติภูเก็ต เตรียมขยายเฟส 2 คาดก่อสร้างแล้วเสร็จปี 2572 รองรับนักท่องเที่ยว 18 ล้านคน จากปัจจุบันรองรับได้ 16 ล้านคน อัพเดตล่าสุด นักท่องเที่ยวต่างชาติ ระดับท็อป 5 ได้แก่ รัสเซีย, จีน, อินเดีย, ออสเตรเลีย, อังกฤษ โดยสถิติล่าสุดมีเที่ยวบินขึ้น-ลงเกือบ 100,000 เที่ยวบินต่อปี เฉลี่ย 300 เที่ยวบินต่อวัน รองรับผู้โดยสารต่างชาติ 10 ล้านคนต่อปี เฉลี่ย 30,000 คนต่อวัน

    โดยมีเที่ยวบินชาร์เตอร์ไฟลต์หรือเที่ยวบินตรงสู่เมืองสำคัญทั่วโลก เช่น ดูไบ โดฮา ออสเตรเลีย รวมทั้งมี Private Jet Terminal ระดับ 5 ดาวแห่งแรก ปัจจุบันมี Private Jet บินเข้าภูเก็ตเฉลี่ย 156 ลำ/ปี

    2.Luxurious Shopping & Dining ประสบการณ์ช็อปปิ้งแบรนด์ลักเซอรี่ระดับโลก ล่าสุด Su Va Na ร้านอาหารใต้น้ำที่ดีที่สุดในโลกที่เซ็นทรัล ภูเก็ต ได้รางวัล The World's Culinary Award จากดูไบ เป็นปัจจัยสำคัญที่สามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวกระเป๋าหนักที่ท่องเที่ยวทั่วโลก

    3.Ultra-Luxury Properties & Hospitality มีโครงการที่อยู่อาศัยระดับลักเซอรี่ราคาขายหลังละ 100 ล้านบาท ไม่ต่ำกว่า 17 โครงการ จนได้รับการยอมรับว่าเป็นเมืองอสังหาริมทรัพย์ระดับหรู ติด Top 4 ของโลก รองจาก "ดูไบ ฟลอริดา นิวยอร์ก ลอนดอน" ราคาที่ดินโตก้าวกระโดดในรอบ 20 ปี เพิ่มขึ้นถึง 700%

    4.Exclusive Activities ภูเก็ตมีท่าเรือซูเปอร์ยอชต์ 5 แห่ง ได้แก่ "ยอชต์เฮเว่น มารีน่า-อ่าวปอ แกรนด์ มารีน่า-รอยัล ภูเก็ต มารีน่า-โบ๊ทลากูน มารีน่า-ท่าเทียบเรืออ่าวฉลอง" นอกจากนี้ มีสนามกอล์ฟระดับโลก 16 แห่ง และร้านอาหารมิชลินระดับหรู 28 ร้าน

    5.A Global Hub for Health & Education มีโรงพยาบาลชั้นนำระดับโลก 9 แห่ง ยกระดับภูเก็ตให้เป็น Medical Hub และโรงเรียนนานาชาติ 13 แห่ง

    ลักเซอรี่+แรร์ไอเท็ม

    ผู้บริหารอีกราย "วิไลพร ปิติมานะอารี" ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ศูนย์การค้าเซ็นทรัล ภูเก็ต กล่าวว่า เซ็นทรัล ภูเก็ต มีลักเซอรี่แบรนด์ทั้งหมด 15 แบรนด์ ปีนี้จะเพิ่มเป็น 16 แบรนด์ ได้แก่ Balenciaga, Bottega Veneta, Burberry, Bvlgari, Celine, Dior, Gucci, Hermes, Louis Vuitton, Omega, PMT The Hour Glass, Prada, Saint Laurent, Tiffany & Co., Versace, Zegna

    โดยปีนี้มีความเคลื่อนไหวของแบรนด์หรูต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น Louis Vuitton บูติคส่วนต่อขยายใหญ่ที่สุดในภาคใต้, Prada เปิดบูติคใหม่ขนาด 597 ตารางเมตร ใหญ่ที่สุดในไทย, Tiffany & Co. เปิดแฟลกชิปสโตร์, Bvlgari พ็อปอัพโดยเผยโฉมครั้งแรกนอกกรุงเทพฯ, Celine เตรียมเปิดเดือนธันวาคมนี้ และที่ Relocate อย่าง Balenciaga, Bottega Veneta เป็นต้น

    นอกจากนี้เพิ่มแบรนด์สตรีตระดับโลก อย่าง Lululemon สาขาแรกนอกกรุงเทพฯ และ ZARA Flagship Store ใหญ่ที่สุดใน South East Asia บนพื้นที่กว่า 1,800 ตารางเมตร มียอดขายเปิดร้านวันแรก อันดับ 1 ในเอเชีย และ ยอดขายติดอันดับ 3 ของไทย รองจากกรุงเทพฯ สะท้อนศักยภาพเมืองเป็นศูนย์การค้าที่แบรนด์โลกเลือกปักหมุด

    เซ็นทรัล ภูเก็ต มีทราฟฟิกปัจจุบันเฉลี่ย 80,000 คน/วัน คาดว่าหลังลงทุนเพิ่ม 1,000 ล้านบาท ขยายโซนลักเซอรี่ แล้วเสร็จ จะเพิ่มทราฟฟิกลูกค้า 25% เป็น 100,000 คน/วัน แบ่งเป็นชาวต่างชาติ 70% คนไทย 30% โดยนักท่องเที่ยวต่างชาติ 5 อันดับแรกที่เข้าใช้บริการศูนย์การค้ามี รัสเซีย, จีน, อเมริกัน, สิงคโปร์, ฮ่องกง

    โดยข้อมูลจาก The 1 พบว่า Spending per Visit ของ The 1 Member สูงกว่าศูนย์อื่น 5 เท่า และ Spending per Visit ของ The 1 Exclusive สูงกว่าศูนย์อื่น 6 เท่า โดยสิ่งที่ดึงดูดให้คนมาช็อปแบรนด์เนมที่เซ็นทรัล ภูเก็ต เพราะมีสินค้า Rare Items ที่หาซื้อไม่ได้ที่อื่น