NCH เปิดแผนปี 68 โตต่อ เล็งขยายฐานลูกค้าใหม่
วันที่ : 18 ธันวาคม 2567
NCH เปิดแผนปี 2568 ดันผลดำเนินงานเติบโต มุ่งเจาะกลุ่มลูกค้าใหม่-ออกโปรดักต์ตอบโจทย์ลูกค้า ด้านงบโค้งท้ายปี 2567 สดใส รับไฮซีซัน เผยปัจจุบันมีแบ็กล็อก 400 ล้านบาท แจงฐานะการเงินแกร่ง
นายสมนึก ตันฑเทอดธรรม กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอ็น.ซี.เฮ้าส์ซิ่ง จำกัด (มหาชน) หรือ NCH เปิดเผยว่า เบื้องต้นปี 2568 บริษัทคาดแนวโน้มผลการดำเนินงานจะเติบโตต่อเนื่องจากปี 2567 เนื่องจากธุรกิจมีแนวทางทำตลาดเพื่อเข้าถึงกลุ่มลูกค้าใหม่ๆ เพิ่มเติม ซึ่งควบคู่ไปกับการนำเสนอโปรดักต์ใหม่เพื่อสามารถตอบโจทย์ความต้องการให้ดี ยิ่งขึ้น ตลอดจนยังเป็นแรงสนับสนุนให้ฐานลูกค้าของธุรกิจกว้างขึ้น
เร่งทำแผนอัพแกร่ง
ขณะที่ปัจจุบันทาง NCH อยู่ระหว่างการจัดทำแผนงานของธุรกิจในส่วนต่างๆ อาทิ การพัฒนาโครงการใหม่ ฯลฯ เพื่อเป็นการต่อยอดธุรกิจให้ดี ยิ่งขึ้น โดยคงจะมีการนำเสนอต่อที่ประชุม คณะกรรมการบริษัท (บอร์ด) เพื่อพิจารณา อนุมัติต่อไป และน่าจะได้เห็นความชัดเจนในปีหน้า
ทั้งนี้ จากการสำรวจข้อมูลตัวเลขยอดขายรอโอน (Backlog) คิดเป็นอยู่ที่ประมาณ 400 ล้านบาท จากโครงการต่างๆ อาทิ เอ็น.ซี. ออนกรีน ฌาร์ม คลาสสิค, เอ็น ซี ออน กรีน ปาล์ม พาร์ค 2, บ้านฟ้ากรีนเนอรี่ ลอฟท์ พัทยา, บ้านฟ้า กรีนพาร์ค ธาม, บ้านฟ้ากรีนเนอรี่ ธีโอ ชัยพฤกษ์ - แจ้งวัฒนะ ฯลฯ ซึ่งส่วนใหญ่น่าจะสามารถดำเนินการส่งมอบในช่วงไตรมาส 4/2567 และที่เหลือต่อเนื่องในปีถัดไป
โค้งท้ายฟอร์มสวย
อย่างไรก็ดี ในแง่ของภาพรวมในไตรมาส 4/2567 ทาง NCH คาดจะดีขึ้นอย่างชัดเจนเมื่อเทียบกับไตรมาส 3/2566 ผลมาจากช่วงเข้าสู่ฤดูกาล (ไฮซีซัน) ของธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ จึงทำให้ความต้องการที่อยู่อาศัยและยอดขายของบริษัทขยายตัวมากขึ้น รวมทั้งธุรกิจยังสามารถบริหารจัดการต้นทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ส่วนกลยุทธ์การบริหารงานของบริษัทในปีนี้ยังมุ่งให้ความสำคัญกับการขยายโครงการฐานใหญ่แนวราบเพิ่มขึ้น และยังมุ่งเติบโตกลุ่มตลาดสินค้า บ้านเดี่ยว ระดับราคา 5-7 ล้านบาท, บ้านแฝดรูปลักษณ์ ใหม่สไตล์บ้านเดี่ยว ราคา 4-5 ล้านบาท และกลุ่มทาวน์เฮาส์ ด้วยรูปลักษณ์ดีไซน์ แตกต่างโดดเด่น ราคา 2-3 ล้านบาท รวมทั้งเพิ่มช่องทางการเข้าถึงกลุ่ม Segment ใหม่ สร้างฐานลูกค้าให้กว้างมากขึ้นด้วย สื่อการตลาดดิจิทัลที่เข้าถึงกลุ่มผู้ซื้อบ้าน และกิจกรรมส่งเสริมการขาย เพื่อรองรับ การเปิดโครงการใหม่แนวราบ หวังสนับสนุน การเติบโตต่อเนื่อง
พร้อมกันนี้ ทาง NCH ยังมีการควบคุมเข้มเรื่องการบริหารต้นทุนในองค์กร และบริหารทีมงานด้วยวัฒนธรรมองค์กรใหม่ผนวกกับมุ่งเน้นด้านประสิทธิภาพการทำงานร่วมกัน ให้ความสำคัญด้านบริการ เสมือนเป็นที่ปรึกษาเรื่องบ้าน อย่างครบวงจร พร้อมนำพันธกิจการดำเนินธุรกิจ ชูความ เป็น Green Concept มุ่งสู่ ESG 2567 อีกด้วย
ฐานะการเงินแกร่ง
ด้านฐานะทางการเงินของบริษัท เอ็น.ซี.เฮ้าส์ซิ่ง จำกัด (มหาชน) หรือ NCH ในปัจจุบันนั้นถือว่าแข็งแกร่ง โดยมีตัวเลขอัตราส่วนหนี้สินต่อทุน (D/E) อยู่ที่ราว 0.70 เท่า อีกทั้งในช่วงเดือนกรกฎาคม 2567 ที่ผ่านมา ทาง NCH ได้มีการไถ่ถอนหุ้นกู้ที่ครบกำหนดวงเงินราว 150 ล้านบาท ดังนั้นนักลงทุนจึงมั่นใจในพื้นฐานของบริษัทได้
นอกจากนี้ ในช่วงที่ผ่านมาคณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้อนุมัติมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านภาคอสังหาริมทรัพย์ และการเตรียมการเพื่อรองรับการดำเนินการยกระดับประเทศไทยสู่ศูนย์กลางเมืองแห่งอุตสาหกรรมระดับโลก (Thailand Vision) เพื่อสนับสนุนการมีที่อยู่อาศัยของประชาชน กระตุ้นเศรษฐกิจผ่านภาคอสังหาริมทรัพย์และธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับภาคอสังหาริมทรัพย์ไทย ซึ่งมาตรการนี้จะมีการปรับปรุงมาตรการลดค่าธรรมเนียมจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรมสำหรับที่อยู่อาศัย ปี 2567 ซึ่งลดค่าจดทะเบียนโอนอสังหาริมทรัพย์จาก 2% เหลือ 0.01% และลดค่าจดทะเบียนการจำนองอสังหาริมทรัพย์ จาก 1% เหลือ 0.01% เฉพาะที่จดทะเบียนโอนในคราวเดียวกัน
โดยเงื่อนไขการซื้อขายอสังหาริมทรัพย์ ได้แก่ อาคารที่อยู่อาศัยประเภทบ้านเดี่ยว บ้านแฝด หรือบ้านแถว หรืออาคารพาณิชย์ หรือที่ดินพร้อมอาคารดังกล่าว หรือห้องชุดที่จดทะเบียนอาคารชุด โดยมีราคาซื้อขายและราคาประเมินทุนทรัพย์ไม่เกิน 7 ล้านบาท และวงเงินจำนองไม่เกิน 7 ล้านบาทต่อสัญญา โดยไม่รวมถึง กรณีการขายเฉพาะส่วน ซึ่งสำหรับ ผู้ซื้อที่เป็นบุคคลธรรมดาสัญชาติไทย และมีผลจนวันที่ 31 ธันวาคม 2567 จึงเชื่อน่าจะกลายเป็นอีกปัจจัยช่วยสนับสนุนธุรกิจของ NCH ช่วงปลายปี 2567 เพิ่มเติม
เร่งทำแผนอัพแกร่ง
ขณะที่ปัจจุบันทาง NCH อยู่ระหว่างการจัดทำแผนงานของธุรกิจในส่วนต่างๆ อาทิ การพัฒนาโครงการใหม่ ฯลฯ เพื่อเป็นการต่อยอดธุรกิจให้ดี ยิ่งขึ้น โดยคงจะมีการนำเสนอต่อที่ประชุม คณะกรรมการบริษัท (บอร์ด) เพื่อพิจารณา อนุมัติต่อไป และน่าจะได้เห็นความชัดเจนในปีหน้า
ทั้งนี้ จากการสำรวจข้อมูลตัวเลขยอดขายรอโอน (Backlog) คิดเป็นอยู่ที่ประมาณ 400 ล้านบาท จากโครงการต่างๆ อาทิ เอ็น.ซี. ออนกรีน ฌาร์ม คลาสสิค, เอ็น ซี ออน กรีน ปาล์ม พาร์ค 2, บ้านฟ้ากรีนเนอรี่ ลอฟท์ พัทยา, บ้านฟ้า กรีนพาร์ค ธาม, บ้านฟ้ากรีนเนอรี่ ธีโอ ชัยพฤกษ์ - แจ้งวัฒนะ ฯลฯ ซึ่งส่วนใหญ่น่าจะสามารถดำเนินการส่งมอบในช่วงไตรมาส 4/2567 และที่เหลือต่อเนื่องในปีถัดไป
โค้งท้ายฟอร์มสวย
อย่างไรก็ดี ในแง่ของภาพรวมในไตรมาส 4/2567 ทาง NCH คาดจะดีขึ้นอย่างชัดเจนเมื่อเทียบกับไตรมาส 3/2566 ผลมาจากช่วงเข้าสู่ฤดูกาล (ไฮซีซัน) ของธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ จึงทำให้ความต้องการที่อยู่อาศัยและยอดขายของบริษัทขยายตัวมากขึ้น รวมทั้งธุรกิจยังสามารถบริหารจัดการต้นทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ส่วนกลยุทธ์การบริหารงานของบริษัทในปีนี้ยังมุ่งให้ความสำคัญกับการขยายโครงการฐานใหญ่แนวราบเพิ่มขึ้น และยังมุ่งเติบโตกลุ่มตลาดสินค้า บ้านเดี่ยว ระดับราคา 5-7 ล้านบาท, บ้านแฝดรูปลักษณ์ ใหม่สไตล์บ้านเดี่ยว ราคา 4-5 ล้านบาท และกลุ่มทาวน์เฮาส์ ด้วยรูปลักษณ์ดีไซน์ แตกต่างโดดเด่น ราคา 2-3 ล้านบาท รวมทั้งเพิ่มช่องทางการเข้าถึงกลุ่ม Segment ใหม่ สร้างฐานลูกค้าให้กว้างมากขึ้นด้วย สื่อการตลาดดิจิทัลที่เข้าถึงกลุ่มผู้ซื้อบ้าน และกิจกรรมส่งเสริมการขาย เพื่อรองรับ การเปิดโครงการใหม่แนวราบ หวังสนับสนุน การเติบโตต่อเนื่อง
พร้อมกันนี้ ทาง NCH ยังมีการควบคุมเข้มเรื่องการบริหารต้นทุนในองค์กร และบริหารทีมงานด้วยวัฒนธรรมองค์กรใหม่ผนวกกับมุ่งเน้นด้านประสิทธิภาพการทำงานร่วมกัน ให้ความสำคัญด้านบริการ เสมือนเป็นที่ปรึกษาเรื่องบ้าน อย่างครบวงจร พร้อมนำพันธกิจการดำเนินธุรกิจ ชูความ เป็น Green Concept มุ่งสู่ ESG 2567 อีกด้วย
ฐานะการเงินแกร่ง
ด้านฐานะทางการเงินของบริษัท เอ็น.ซี.เฮ้าส์ซิ่ง จำกัด (มหาชน) หรือ NCH ในปัจจุบันนั้นถือว่าแข็งแกร่ง โดยมีตัวเลขอัตราส่วนหนี้สินต่อทุน (D/E) อยู่ที่ราว 0.70 เท่า อีกทั้งในช่วงเดือนกรกฎาคม 2567 ที่ผ่านมา ทาง NCH ได้มีการไถ่ถอนหุ้นกู้ที่ครบกำหนดวงเงินราว 150 ล้านบาท ดังนั้นนักลงทุนจึงมั่นใจในพื้นฐานของบริษัทได้
นอกจากนี้ ในช่วงที่ผ่านมาคณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้อนุมัติมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านภาคอสังหาริมทรัพย์ และการเตรียมการเพื่อรองรับการดำเนินการยกระดับประเทศไทยสู่ศูนย์กลางเมืองแห่งอุตสาหกรรมระดับโลก (Thailand Vision) เพื่อสนับสนุนการมีที่อยู่อาศัยของประชาชน กระตุ้นเศรษฐกิจผ่านภาคอสังหาริมทรัพย์และธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับภาคอสังหาริมทรัพย์ไทย ซึ่งมาตรการนี้จะมีการปรับปรุงมาตรการลดค่าธรรมเนียมจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรมสำหรับที่อยู่อาศัย ปี 2567 ซึ่งลดค่าจดทะเบียนโอนอสังหาริมทรัพย์จาก 2% เหลือ 0.01% และลดค่าจดทะเบียนการจำนองอสังหาริมทรัพย์ จาก 1% เหลือ 0.01% เฉพาะที่จดทะเบียนโอนในคราวเดียวกัน
โดยเงื่อนไขการซื้อขายอสังหาริมทรัพย์ ได้แก่ อาคารที่อยู่อาศัยประเภทบ้านเดี่ยว บ้านแฝด หรือบ้านแถว หรืออาคารพาณิชย์ หรือที่ดินพร้อมอาคารดังกล่าว หรือห้องชุดที่จดทะเบียนอาคารชุด โดยมีราคาซื้อขายและราคาประเมินทุนทรัพย์ไม่เกิน 7 ล้านบาท และวงเงินจำนองไม่เกิน 7 ล้านบาทต่อสัญญา โดยไม่รวมถึง กรณีการขายเฉพาะส่วน ซึ่งสำหรับ ผู้ซื้อที่เป็นบุคคลธรรมดาสัญชาติไทย และมีผลจนวันที่ 31 ธันวาคม 2567 จึงเชื่อน่าจะกลายเป็นอีกปัจจัยช่วยสนับสนุนธุรกิจของ NCH ช่วงปลายปี 2567 เพิ่มเติม
ข่าวโครงการอสังหาฯ ภาคเอกชน อื่นๆ