อสังหาอุ้มลูกค้าเครดิตสีเทา แก้เกมโดน 'ปฏิเสธสินเชื่อ'
วันที่ : 8 พฤษภาคม 2568
สมาคมธุรกิจบ้านจัดสรร กล่าวว่า ภาวะในตอนนี้ ทุกคนต้องช่วยตัวเองให้มากที่สุด ทั้งในฝั่งผู้ขายหรือ ผู้ประกอบการ ที่จะต้องเพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินธุรกิจ ควบคุมต้นทุนพัฒนาโครงการ และนำเสนอราคาที่แข่งขันได้ในภาวะที่ยากลำบากแบบนี้ ส่วนฝั่งผู้ซื้อหรือผู้บริโภคอสังหาฯ ก็ต้องมีวินัยทางการเงิน ต้องสร้างและรักษาเครดิตทางการเงินให้มั่นคง เพื่อให้สามารถซื้อที่อยู่อาศัยซึ่งเป็นปัจจัย 4 ในการดำรงชีวิต
อสังหาฯงัดกลยุทธ์เก็บเบี้ยใต้ถุนร้านแก้เกมแบงก์ปฏิเสธสินเชื่อ "พฤกษาฯ" ให้ลูกค้าผ่อนค่างวดแทนเงินดาวน์นาน 1 ปี "เสนาฯ" เพิ่มน้ำหนักโปรแกรม LivNex-เช่าออมบ้าน เป้ารายได้ ปีนี้ทะลุ 2,000 ล้านบาท "แสนสิริ" จัดไฟแนนเชียลเดย์ อุ้มลูกค้าเครดิตสีเทาเพิ่มโอกาสได้รับอนุมัติเงินกู้ซื้อบ้านเป็นของตนเอง
นายสุนทร สถาพร นายกสมาคมธุรกิจบ้านจัดสรร เปิดเผย "ประชาชาติธุรกิจ" ว่า ภาคธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ หลังจากเผชิญเหตุการณ์แผ่นดินไหวที่เป็นผลกระทบเฉพาะตัว บวกกับผลกระทบ ภาพรวมจากนโยบายภาษีทรัมป์ ทำให้เป็นปัจจัยกดดันการทำธุรกิจในช่วง 7 เดือน ที่เหลือของปี โดยช่วงที่ผ่านมาจะพบว่า ในปี 2567 ภาพรวมคำขอสินเชื่อซื้อบ้านและคอนโดมิเนียมถูกแบงก์ปฏิเสธสินเชื่อหรือ Reject Rate สูงถึง 40% ขณะที่ไตรมาส 1/68 ที่ผ่านมา ยอดปฏิเสธสินเชื่อหรือยอดกู้ไม่ผ่านขยับสูงขึ้นมาอยู่ที่ 45% ในขณะที่แนวโน้มยังเต็มไปด้วยอนาคตที่คาดเดาไม่ได้ว่าจะเกิดมีวิกฤตอะไรขึ้นมากระทบกับเศรษฐกิจอีกหรือไม่
"ภาวะในตอนนี้ ทุกคนต้องช่วยตัวเองให้มากที่สุด ทั้งในฝั่งผู้ขายหรือ ผู้ประกอบการ ที่จะต้องเพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินธุรกิจ ควบคุมต้นทุนพัฒนาโครงการ และนำเสนอราคาที่แข่งขันได้ในภาวะที่ยากลำบากแบบนี้ ส่วนฝั่งผู้ซื้อหรือผู้บริโภคอสังหาฯ ก็ต้องมีวินัยทางการเงิน ต้องสร้างและรักษาเครดิตทางการเงินให้มั่นคง เพื่อให้สามารถซื้อที่อยู่อาศัยซึ่งเป็นปัจจัย 4 ในการดำรงชีวิต"
สำหรับข้อเสนอทางออกปัญหากู้ไม่ผ่าน นายสุนทรกล่าวว่า หนึ่งในข้อเสนอที่อยากส่งผ่านถึงสถาบันการเงินก็คือ นำหลักการ Mortgage Insurance ให้มีบริษัทประกันเข้ามาคุ้มครองความเสี่ยงในการผิดนัดชำระหนี้ เพื่อไม่ให้ บัญชีสินเชื่อเป็นบัญชีหนี้เสียหรือ NPL-Nonperforming Loan โดยบริษัทอสังหาฯยินดีเป็นผู้รับผิดชอบ ค่าเบี้ยประกันภัยนี้ให้แทนลูกค้า ควบคู่กับสถาบันการเงินหรือแบงก์ยังคงมีเกณฑ์การพิจารณาสินเชื่อตามแนวทางของแต่ละแห่งตามปกติ
"ตอนนี้ทุกอย่างมีแต่ปัจจัยลบ แม้กระทั่งจีดีพีก็ถูกปรับคาดการณ์ลดลงเหลือ 1.6-2.1% เพราะฉะนั้น การปรับตัวตั้งแต่ไตรมาส 2/68 เป็นต้นไป ทำเพื่อประคับประคองธุรกิจให้อยู่รอดปลอดภัยจนถึงสิ้นปี เป็นข้อคำนึงหลัก"
พฤกษาฯให้ผ่อนค่างวด 1 ปี
นายภัคริน ทัตติพงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่ บริหารกลุ่มธุรกิจคอนโดมิเนียม บริษัท พฤกษา เรียลเอสเตท จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า แนวโน้มยอดกู้ไม่ผ่านที่ยังอยู่ในระดับสูงต่อเนื่อง แบงก์พิจารณาสินเชื่ออย่างเข้มงวด ทำให้การยื่นกู้ของผู้บริโภคหลายกลุ่มมีแนวโน้มถูกปฏิเสธมากขึ้น ปีนี้บริษัทจึงได้จัดแคมเปญ "Pruksa PASS ผ่านง่าย ๆ ย้ายเข้าเลย" ทางเลือกใหม่ของคนอยากมีคอนโดฯ เพื่อลดข้อจำกัด และเปิดโอกาสให้ทุกคน ได้เป็นเจ้าของคอนโดฯได้ง่ายขึ้น (ดูกราฟิกประกอบ)
จุดโฟกัสกลุ่มลูกค้าที่มีศักยภาพใน การชำระเงิน แต่ยังไม่พร้อมหรือไม่สะดวกในการขอสินเชื่อทันที เช่น เจ้าของกิจการ ผู้ประกอบการอาชีพอิสระ พ่อค้าแม่ค้าออนไลน์ พนักงานใหม่ที่ยังไม่ผ่านทดลองงาน รวมถึงพนักงานเอกชน ข้าราชการ และพนักงานรัฐวิสาหกิจที่มีรายได้ถึงเกณฑ์ แต่มีภาระหนี้เดิม หรือมีความกังวลในการขอสินเชื่อ ภายใต้แคมเปญนี้ลูกค้าสามารถชำระค่างวดรายเดือนกับโครงการโดยตรง เป็นเวลา 1 ปี และสามารถนำมาเป็นส่วนลดยอดเงินกู้จากธนาคารได้อีกด้วย
"นอกจากจะช่วยให้ลูกค้ามีเวลาวางแผนการเงินอย่างมั่นใจ ยังเพิ่มโอกาสในการขอสินเชื่อผ่านได้ง่ายขึ้นในอนาคต แคมเปญนี้ถือเป็นหนึ่งในนโยบายที่ช่วยขับเคลื่อนตลาดอสังหาฯ ในการสนับสนุนให้คนรุ่นใหม่เข้าถึงการมีบ้านเป็นของตนเองได้จริง"
รายละเอียดพฤกษาฯ นำคอนโดฯจำนวน 5 โครงการเข้าร่วมแคมเปญ โดยมีเงื่อนไข 1.ลูกค้ามีฐานรายได้ขั้นต่ำ 15,000 บาท/เดือน 2.งวดผ่อนเริ่มต้น 5,800 บาท/เดือน 3.ทำสัญญาและย้ายเข้าอยู่ได้ทันที 4.ลูกค้าผ่อนชำระกับทางโครงการโดยตรงเป็นเวลา 1 ปี 5.สิทธิได้รับคำปรึกษาด้านการเงินจากพันธมิตรสถาบันการเงิน 6.นำยอดผ่อนชำระกับโครงการไปใช้ลดวงเงินกู้กับธนาคารเมื่อยื่นสินเชื่อ (เงินดาวน์) 7.ไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายส่วนกลางและค่าจอดรถเพิ่ม ตลอดอายุสัญญา 8.ทุกยอดผ่อนรายเดือนกับโครงการ ตลอดเวลา 1 ปี จะถูกนำไปใช้เป็น "ส่วนลด ณ วันโอนกรรมสิทธิ์" ทันที เมื่อสินเชื่อได้รับการอนุมัติ
นอกจากสิทธิประโยชน์ทางการเงินภายใต้แคมเปญนี้ บริษัทมีโปรโมชั่น ออนท็อป อาทิ รับฟรีแพ็กเกจเฟอร์นิเจอร์ตกแต่งครบทั้งห้อง พร้อมเครื่องใช้ไฟฟ้า หรือฟรีค่าใช้จ่ายวันโอน โดยมี 5 คอนโดฯ ที่เข้าร่วม ได้แก่ พลัมคอนโด แจ้งวัฒนะดอนเมือง, พลัมคอนโด พระราม 2, เดอะไพรเวซี่ ปาร์ค เตาปูน, แชปเตอร์วัน จรัญ และแชปเตอร์วัน ออล รามอินทรา ราคาเริ่มต้น 1.59 ล้านบาท โดยบริษัทตั้งเป้าผลักดันรายได้ภายใต้แคมเปญนี้ 400 ล้านบาท
เสนาฯเพิ่มดีกรี "เช่าออมบ้าน"
ผศ.ดร.เกษรา ธัญลักษณ์ภาคย์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เสนาดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) หรือ SENA เปิดเผยว่า บริษัทประสบความสำเร็จ คว้ารางวัล The Most Innovative 2025 จากเวที Future Trends Award 2025 จากนวัตกรรมทางการเงิน "LivNex เช่าออมบ้าน เช่าเพื่อเป็นเจ้าของ" ที่ช่วยให้ผู้บริโภคเข้าถึงที่อยู่อาศัย ได้ง่ายขึ้น โดยเฉพาะกลุ่มที่ยังไม่พร้อมทางการเงิน และเผชิญข้อจำกัดด้านสินเชื่อ ช่วยลดความเหลื่อมล้ำ และสร้างความมั่นคงด้านที่อยู่อาศัย
ทั้งนี้ โปรแกรม "LivNex เช่าออมบ้าน" เพื่อช่วยเหลือลูกค้ากลุ่มกำลังซื้อ Affordable ราคา 3 ล้านบาทบวกลบ ซึ่งมีความต้องการบ้านสูงแต่ติดปัญหาสินเชื่อ โดยเสนาฯพบว่ากลุ่มที่ได้รับผล กระทบหนักคือ ผู้ที่อาศัยอยู่ในกรุงเทพฯ เนื่องจากค่าครองชีพสูง ปัญหาหนี้ครัวเรือนทำให้การกู้ซื้อบ้านเป็นเรื่องยาก โดยเสนาฯประสบความสำเร็จจาก LivNex ในปี 2567 มีรายได้ 1,900 ล้านบาท หรือจำนวนห้องชุด 976 ยูนิต สำหรับปี 2568 คาดว่าน่าจะผลักดันเพิ่มขึ้น 10-15% และรวมอยู่ในคาดการณ์เป้ารายได้ 10,000 ล้านบาทของบริษัทในปีนี้
รายละเอียด LivNex เป็นนวัตกรรมทางการเงินที่ช่วยให้การมีบ้านเป็นจริงได้ แม้ติดปัญหาด้านเครดิตหรือเอกสาร ก็สามารถเป็นเจ้าของที่อยู่อาศัยได้ โดยทำสัญญาไม่เกิน 3 ปี เริ่มต้นผ่อนล้านละ 4,100 บาท/เดือน แบ่งเป็นดอกเบี้ย 1.8% และเงินสะสมที่สามารถนำไปหักเงินต้นเมื่อยื่นกู้สินเชื่อบ้าน ไม่ต้องดาวน์ ไม่ต้องรออนุมัติสินเชื่อ
แสนสิริจัดไฟแนนเชียลเดย์
นางสาวภัคพริ้ง การุญ ผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายการตลาดโครงการ แนวราบ บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) กล่าวเพิ่มเติมว่า แสนสิริเตรียมจัดบิ๊ก อีเวนต์ที่กำหนดเพียง 2 วัน ในวันที่ 25-26 พฤษภาคม 2568 นี้ ภายใต้แคมเปญ "ไฟแนนเชียลเดย์ กู้ง่าย ได้บ้านชัวร์" ซึ่งได้จัดต่อเนื่องเป็นปีที่ 3 เพื่อช่วยเหลือให้ลูกค้าที่อยากมีบ้าน สามารถเป็นเจ้าของบ้านได้ง่ายขึ้น โดยเฉพาะในช่วงที่เศรษฐกิจฝืดเคือง อัตราการปล่อยสินเชื่อของธนาคารลดต่ำลงมาก ทำให้โอกาสที่จะมีบ้านของตัวเองยากมากขึ้น
โดยแสนสิริได้ทำการบ้าน และรวบรวมโปรโมชั่นที่ตอบโจทย์ลูกค้าในทุกสภาวะการเงิน จากนั้นได้ร่วมกับพันธมิตรธุรกิจและธนาคาร เพื่อเพิ่มโอกาสให้ลูกค้าได้เป็นเจ้าของบ้านได้ง่ายมากขึ้น เพิ่มโอกาสในการอนุมัติสินเชื่อ โดยนำบ้านแนวราบแบรนด์ "สิริเพลส" กับ "อณาสิริ" ทุกโครงการเข้าร่วมแคมเปญ
สำหรับกลุ่มลูกค้าเป้าหมายมองไว้ 4 กลุ่มหลัก 1.Potential Consumer ลูกค้าที่กำลังมองหาบ้านหรือเคยเยี่ยมชมโครงการมาก่อนหน้านี้ อยู่ระหว่างตัดสิน และมีการกลับเข้ามาพูดคุยกับฝ่ายขายมากกว่า 1 ครั้ง 2.Bad Record กลุ่มลูกค้าที่มีประวัติเนกาทีฟกับสถาบันการเงิน กลัวว่าอาจจะขอสินเชื่อไม่ผ่าน 3.Investor นักลงทุนที่เน้นซื้อง่าย ขายไว ปล่อยเช่าก็ดี เป็นโอกาสดีที่ไม่ต้องลงทุนมากในภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว และ 4.Condo ลูกค้าที่อาศัยอยู่คอนโดฯ ที่อยากย้ายมาอยู่บ้านเพราะต้องการขยายพื้นที่ หรือเลี้ยงสัตว์ แต่ติดภาระคอนโดฯอยู่
"จากการศึกษา Consumer Insight พบว่าลูกค้าอยากมีบ้าน แต่กลัวปัญหากู้ไม่ผ่าน สาเหตุหลัก ๆ มี 2 เรื่อง 1.เพราะมีภาระเยอะ หรือกู้คอนโดฯไว้แล้ว บางรายเคยมีประวัติหนี้เสีย บางราย ป็นเจ้าของกิจการไมโครเอ็นเตอร์ไพรส์บ้าง ฟรีแลนซ์บ้าง และเหตุผลส่วนใหญ่ เลยคือ ไม่มีเงินเก็บกับรายได้ไม่พอ 2.ยังไม่เจอธนาคารที่ตรงใจ ยังไม่มีข้อมูลเพียงพอ ยังไม่เจอโครงการที่น่าเชื่อถือ"
จากนั้นแสนสิรินำมาจัดทำแคมเปญไฟแนนเชียลเดย์ปีที่ 3 รับโปรฯ 7 ต่อ ในราคาเริ่มต้น 1.99 ล้านบาท เลือกรับเงินคืนสูงสุด 7 แสนบาท หรืออยู่ฟรีสูงสุด 2 ปี จอง 999 บาท ปรึกษาฟรีรู้ผลไวใน 3 วัน และงวดผ่อนสบายเริ่มต้น 6,000 บาท
นายสุนทร สถาพร นายกสมาคมธุรกิจบ้านจัดสรร เปิดเผย "ประชาชาติธุรกิจ" ว่า ภาคธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ หลังจากเผชิญเหตุการณ์แผ่นดินไหวที่เป็นผลกระทบเฉพาะตัว บวกกับผลกระทบ ภาพรวมจากนโยบายภาษีทรัมป์ ทำให้เป็นปัจจัยกดดันการทำธุรกิจในช่วง 7 เดือน ที่เหลือของปี โดยช่วงที่ผ่านมาจะพบว่า ในปี 2567 ภาพรวมคำขอสินเชื่อซื้อบ้านและคอนโดมิเนียมถูกแบงก์ปฏิเสธสินเชื่อหรือ Reject Rate สูงถึง 40% ขณะที่ไตรมาส 1/68 ที่ผ่านมา ยอดปฏิเสธสินเชื่อหรือยอดกู้ไม่ผ่านขยับสูงขึ้นมาอยู่ที่ 45% ในขณะที่แนวโน้มยังเต็มไปด้วยอนาคตที่คาดเดาไม่ได้ว่าจะเกิดมีวิกฤตอะไรขึ้นมากระทบกับเศรษฐกิจอีกหรือไม่
"ภาวะในตอนนี้ ทุกคนต้องช่วยตัวเองให้มากที่สุด ทั้งในฝั่งผู้ขายหรือ ผู้ประกอบการ ที่จะต้องเพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินธุรกิจ ควบคุมต้นทุนพัฒนาโครงการ และนำเสนอราคาที่แข่งขันได้ในภาวะที่ยากลำบากแบบนี้ ส่วนฝั่งผู้ซื้อหรือผู้บริโภคอสังหาฯ ก็ต้องมีวินัยทางการเงิน ต้องสร้างและรักษาเครดิตทางการเงินให้มั่นคง เพื่อให้สามารถซื้อที่อยู่อาศัยซึ่งเป็นปัจจัย 4 ในการดำรงชีวิต"
สำหรับข้อเสนอทางออกปัญหากู้ไม่ผ่าน นายสุนทรกล่าวว่า หนึ่งในข้อเสนอที่อยากส่งผ่านถึงสถาบันการเงินก็คือ นำหลักการ Mortgage Insurance ให้มีบริษัทประกันเข้ามาคุ้มครองความเสี่ยงในการผิดนัดชำระหนี้ เพื่อไม่ให้ บัญชีสินเชื่อเป็นบัญชีหนี้เสียหรือ NPL-Nonperforming Loan โดยบริษัทอสังหาฯยินดีเป็นผู้รับผิดชอบ ค่าเบี้ยประกันภัยนี้ให้แทนลูกค้า ควบคู่กับสถาบันการเงินหรือแบงก์ยังคงมีเกณฑ์การพิจารณาสินเชื่อตามแนวทางของแต่ละแห่งตามปกติ
"ตอนนี้ทุกอย่างมีแต่ปัจจัยลบ แม้กระทั่งจีดีพีก็ถูกปรับคาดการณ์ลดลงเหลือ 1.6-2.1% เพราะฉะนั้น การปรับตัวตั้งแต่ไตรมาส 2/68 เป็นต้นไป ทำเพื่อประคับประคองธุรกิจให้อยู่รอดปลอดภัยจนถึงสิ้นปี เป็นข้อคำนึงหลัก"
พฤกษาฯให้ผ่อนค่างวด 1 ปี
นายภัคริน ทัตติพงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่ บริหารกลุ่มธุรกิจคอนโดมิเนียม บริษัท พฤกษา เรียลเอสเตท จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า แนวโน้มยอดกู้ไม่ผ่านที่ยังอยู่ในระดับสูงต่อเนื่อง แบงก์พิจารณาสินเชื่ออย่างเข้มงวด ทำให้การยื่นกู้ของผู้บริโภคหลายกลุ่มมีแนวโน้มถูกปฏิเสธมากขึ้น ปีนี้บริษัทจึงได้จัดแคมเปญ "Pruksa PASS ผ่านง่าย ๆ ย้ายเข้าเลย" ทางเลือกใหม่ของคนอยากมีคอนโดฯ เพื่อลดข้อจำกัด และเปิดโอกาสให้ทุกคน ได้เป็นเจ้าของคอนโดฯได้ง่ายขึ้น (ดูกราฟิกประกอบ)
จุดโฟกัสกลุ่มลูกค้าที่มีศักยภาพใน การชำระเงิน แต่ยังไม่พร้อมหรือไม่สะดวกในการขอสินเชื่อทันที เช่น เจ้าของกิจการ ผู้ประกอบการอาชีพอิสระ พ่อค้าแม่ค้าออนไลน์ พนักงานใหม่ที่ยังไม่ผ่านทดลองงาน รวมถึงพนักงานเอกชน ข้าราชการ และพนักงานรัฐวิสาหกิจที่มีรายได้ถึงเกณฑ์ แต่มีภาระหนี้เดิม หรือมีความกังวลในการขอสินเชื่อ ภายใต้แคมเปญนี้ลูกค้าสามารถชำระค่างวดรายเดือนกับโครงการโดยตรง เป็นเวลา 1 ปี และสามารถนำมาเป็นส่วนลดยอดเงินกู้จากธนาคารได้อีกด้วย
"นอกจากจะช่วยให้ลูกค้ามีเวลาวางแผนการเงินอย่างมั่นใจ ยังเพิ่มโอกาสในการขอสินเชื่อผ่านได้ง่ายขึ้นในอนาคต แคมเปญนี้ถือเป็นหนึ่งในนโยบายที่ช่วยขับเคลื่อนตลาดอสังหาฯ ในการสนับสนุนให้คนรุ่นใหม่เข้าถึงการมีบ้านเป็นของตนเองได้จริง"
รายละเอียดพฤกษาฯ นำคอนโดฯจำนวน 5 โครงการเข้าร่วมแคมเปญ โดยมีเงื่อนไข 1.ลูกค้ามีฐานรายได้ขั้นต่ำ 15,000 บาท/เดือน 2.งวดผ่อนเริ่มต้น 5,800 บาท/เดือน 3.ทำสัญญาและย้ายเข้าอยู่ได้ทันที 4.ลูกค้าผ่อนชำระกับทางโครงการโดยตรงเป็นเวลา 1 ปี 5.สิทธิได้รับคำปรึกษาด้านการเงินจากพันธมิตรสถาบันการเงิน 6.นำยอดผ่อนชำระกับโครงการไปใช้ลดวงเงินกู้กับธนาคารเมื่อยื่นสินเชื่อ (เงินดาวน์) 7.ไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายส่วนกลางและค่าจอดรถเพิ่ม ตลอดอายุสัญญา 8.ทุกยอดผ่อนรายเดือนกับโครงการ ตลอดเวลา 1 ปี จะถูกนำไปใช้เป็น "ส่วนลด ณ วันโอนกรรมสิทธิ์" ทันที เมื่อสินเชื่อได้รับการอนุมัติ
นอกจากสิทธิประโยชน์ทางการเงินภายใต้แคมเปญนี้ บริษัทมีโปรโมชั่น ออนท็อป อาทิ รับฟรีแพ็กเกจเฟอร์นิเจอร์ตกแต่งครบทั้งห้อง พร้อมเครื่องใช้ไฟฟ้า หรือฟรีค่าใช้จ่ายวันโอน โดยมี 5 คอนโดฯ ที่เข้าร่วม ได้แก่ พลัมคอนโด แจ้งวัฒนะดอนเมือง, พลัมคอนโด พระราม 2, เดอะไพรเวซี่ ปาร์ค เตาปูน, แชปเตอร์วัน จรัญ และแชปเตอร์วัน ออล รามอินทรา ราคาเริ่มต้น 1.59 ล้านบาท โดยบริษัทตั้งเป้าผลักดันรายได้ภายใต้แคมเปญนี้ 400 ล้านบาท
เสนาฯเพิ่มดีกรี "เช่าออมบ้าน"
ผศ.ดร.เกษรา ธัญลักษณ์ภาคย์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เสนาดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) หรือ SENA เปิดเผยว่า บริษัทประสบความสำเร็จ คว้ารางวัล The Most Innovative 2025 จากเวที Future Trends Award 2025 จากนวัตกรรมทางการเงิน "LivNex เช่าออมบ้าน เช่าเพื่อเป็นเจ้าของ" ที่ช่วยให้ผู้บริโภคเข้าถึงที่อยู่อาศัย ได้ง่ายขึ้น โดยเฉพาะกลุ่มที่ยังไม่พร้อมทางการเงิน และเผชิญข้อจำกัดด้านสินเชื่อ ช่วยลดความเหลื่อมล้ำ และสร้างความมั่นคงด้านที่อยู่อาศัย
ทั้งนี้ โปรแกรม "LivNex เช่าออมบ้าน" เพื่อช่วยเหลือลูกค้ากลุ่มกำลังซื้อ Affordable ราคา 3 ล้านบาทบวกลบ ซึ่งมีความต้องการบ้านสูงแต่ติดปัญหาสินเชื่อ โดยเสนาฯพบว่ากลุ่มที่ได้รับผล กระทบหนักคือ ผู้ที่อาศัยอยู่ในกรุงเทพฯ เนื่องจากค่าครองชีพสูง ปัญหาหนี้ครัวเรือนทำให้การกู้ซื้อบ้านเป็นเรื่องยาก โดยเสนาฯประสบความสำเร็จจาก LivNex ในปี 2567 มีรายได้ 1,900 ล้านบาท หรือจำนวนห้องชุด 976 ยูนิต สำหรับปี 2568 คาดว่าน่าจะผลักดันเพิ่มขึ้น 10-15% และรวมอยู่ในคาดการณ์เป้ารายได้ 10,000 ล้านบาทของบริษัทในปีนี้
รายละเอียด LivNex เป็นนวัตกรรมทางการเงินที่ช่วยให้การมีบ้านเป็นจริงได้ แม้ติดปัญหาด้านเครดิตหรือเอกสาร ก็สามารถเป็นเจ้าของที่อยู่อาศัยได้ โดยทำสัญญาไม่เกิน 3 ปี เริ่มต้นผ่อนล้านละ 4,100 บาท/เดือน แบ่งเป็นดอกเบี้ย 1.8% และเงินสะสมที่สามารถนำไปหักเงินต้นเมื่อยื่นกู้สินเชื่อบ้าน ไม่ต้องดาวน์ ไม่ต้องรออนุมัติสินเชื่อ
แสนสิริจัดไฟแนนเชียลเดย์
นางสาวภัคพริ้ง การุญ ผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายการตลาดโครงการ แนวราบ บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) กล่าวเพิ่มเติมว่า แสนสิริเตรียมจัดบิ๊ก อีเวนต์ที่กำหนดเพียง 2 วัน ในวันที่ 25-26 พฤษภาคม 2568 นี้ ภายใต้แคมเปญ "ไฟแนนเชียลเดย์ กู้ง่าย ได้บ้านชัวร์" ซึ่งได้จัดต่อเนื่องเป็นปีที่ 3 เพื่อช่วยเหลือให้ลูกค้าที่อยากมีบ้าน สามารถเป็นเจ้าของบ้านได้ง่ายขึ้น โดยเฉพาะในช่วงที่เศรษฐกิจฝืดเคือง อัตราการปล่อยสินเชื่อของธนาคารลดต่ำลงมาก ทำให้โอกาสที่จะมีบ้านของตัวเองยากมากขึ้น
โดยแสนสิริได้ทำการบ้าน และรวบรวมโปรโมชั่นที่ตอบโจทย์ลูกค้าในทุกสภาวะการเงิน จากนั้นได้ร่วมกับพันธมิตรธุรกิจและธนาคาร เพื่อเพิ่มโอกาสให้ลูกค้าได้เป็นเจ้าของบ้านได้ง่ายมากขึ้น เพิ่มโอกาสในการอนุมัติสินเชื่อ โดยนำบ้านแนวราบแบรนด์ "สิริเพลส" กับ "อณาสิริ" ทุกโครงการเข้าร่วมแคมเปญ
สำหรับกลุ่มลูกค้าเป้าหมายมองไว้ 4 กลุ่มหลัก 1.Potential Consumer ลูกค้าที่กำลังมองหาบ้านหรือเคยเยี่ยมชมโครงการมาก่อนหน้านี้ อยู่ระหว่างตัดสิน และมีการกลับเข้ามาพูดคุยกับฝ่ายขายมากกว่า 1 ครั้ง 2.Bad Record กลุ่มลูกค้าที่มีประวัติเนกาทีฟกับสถาบันการเงิน กลัวว่าอาจจะขอสินเชื่อไม่ผ่าน 3.Investor นักลงทุนที่เน้นซื้อง่าย ขายไว ปล่อยเช่าก็ดี เป็นโอกาสดีที่ไม่ต้องลงทุนมากในภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว และ 4.Condo ลูกค้าที่อาศัยอยู่คอนโดฯ ที่อยากย้ายมาอยู่บ้านเพราะต้องการขยายพื้นที่ หรือเลี้ยงสัตว์ แต่ติดภาระคอนโดฯอยู่
"จากการศึกษา Consumer Insight พบว่าลูกค้าอยากมีบ้าน แต่กลัวปัญหากู้ไม่ผ่าน สาเหตุหลัก ๆ มี 2 เรื่อง 1.เพราะมีภาระเยอะ หรือกู้คอนโดฯไว้แล้ว บางรายเคยมีประวัติหนี้เสีย บางราย ป็นเจ้าของกิจการไมโครเอ็นเตอร์ไพรส์บ้าง ฟรีแลนซ์บ้าง และเหตุผลส่วนใหญ่ เลยคือ ไม่มีเงินเก็บกับรายได้ไม่พอ 2.ยังไม่เจอธนาคารที่ตรงใจ ยังไม่มีข้อมูลเพียงพอ ยังไม่เจอโครงการที่น่าเชื่อถือ"
จากนั้นแสนสิรินำมาจัดทำแคมเปญไฟแนนเชียลเดย์ปีที่ 3 รับโปรฯ 7 ต่อ ในราคาเริ่มต้น 1.99 ล้านบาท เลือกรับเงินคืนสูงสุด 7 แสนบาท หรืออยู่ฟรีสูงสุด 2 ปี จอง 999 บาท ปรึกษาฟรีรู้ผลไวใน 3 วัน และงวดผ่อนสบายเริ่มต้น 6,000 บาท
ข่าวโครงการอสังหาฯ ภาคเอกชน อื่นๆ