เปิด 3 เหตุผล ทำไมคน Gen Z - Gen Y เน้นเช่ามากกว่าซื้อ แนะอสังหาไทยเร่งปรับโมเดล
Loading

เปิด 3 เหตุผล ทำไมคน Gen Z - Gen Y เน้นเช่ามากกว่าซื้อ แนะอสังหาไทยเร่งปรับโมเดล

วันที่ : 15 พฤษภาคม 2568
LWS เปิดเผยผลการสำรวจพฤติกรรมการซื้อที่อยู่อาศัยของคน Gen Z (อายุ 16 - 28 ปี) และ Gen Y (อายุ 29 - 44 ปี) ในช่วงปลายปี 2567 จำนวน 670 คน พบว่า 66% ของผู้ตอบแบบสอบถาม ให้ความสนใจกับการ "เช่า" ที่อยู่อาศัย มากกว่าที่จะซื้อที่อยู่อาศัยเป็นของตัวเอง
    เปิด 3 เหตุผล ทำไมคน Gen Z & Gen Y เน้น'เช่า'มากกว่า 'ซื้อ' แนะอสังหาไทยเร่งปรับโมเดล

    ท่ามกลางภาวะการลงทุนที่ผันผวนในปัจจุบัน แต่ในวิกฤตยังมีโอกาสสำหรับนักลงทุน โดยเฉพาะที่อยู่อาศัย แม้ว่าจะเผชิญกับสถานการณ์แผ่นดินไหว สงครามการค้าที่รุมเร้าเข้ามา แต่ถือว่ายังเป็นสินทรัพย์ปลอดภัยต่อนักลงทุน ไม่แพ้สินทรัพย์อื่นๆ อย่างพันธบัตรและทองคำ

    นายประพันธ์ศักดิ์ รักษ์ไชยวรรณ กรรมการผู้จัดการ บริษัท แอล ดับเบิลยู เอส วิสดอม แอนด์ โซลูชั่นส์ จำกัด (LWS) บริษัทวิจัยและพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ในเครือ บริษัท แอล.พี.เอ็น.ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยผลการสำรวจพฤติกรรมการซื้อที่อยู่อาศัยของคน Gen Z (อายุ 16 - 28 ปี) และ Gen Y (อายุ 29 - 44 ปี) ในช่วงปลายปี 2567 จำนวน 670 คน พบว่า 66% ของผู้ตอบแบบสอบถาม ให้ความสนใจกับการ "เช่า" ที่อยู่อาศัย มากกว่าที่จะซื้อที่อยู่อาศัยเป็นของตัวเอง

    ผลการสำรวจดังกล่าว สอดคล้องกับผลการศึกษาของ SCB (EIC) ล่าสุดที่ระบุว่า คนรุ่นใหม่ หรือ First Jobber เลือกที่จะเช่าที่อยู่อาศัยมากกว่าซื้อ ส่งผลให้การโอนกรรมสิทธิ์ที่อยู่อาศัยในพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล มีแนวโน้มลดลงต่อเนื่อง

    โดยประมาณว่าในปี 2567 มีการโอนกรรมสิทธิ์ในกรุงเทพฯ และ ปริมณฑล ลดลงประมาณ 10% เทียบกับปี 2566 และคาดว่าปี 2568 การโอนกรรมสิทธิ์ในพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล จะลดลงต่อเนื่องประมาณ 1 - 3% จากปี 2567

    ประพันธ์ศักดิ์ กล่าวอีกว่า จากผลการศึกษาของ แอล ดับเบิลยู เอสฯ พบว่า 3 เหตุผลสำคัญ ของคน Gen Z& Gen Y ที่ให้ความสนใจในการ "เช่า" มากกว่า "ซื้อ" ที่อยู่อาศัย ได้แก่

     1. "การเช่า" ตอบโจทย์ความยืดหยุ่นของชีวิต

     คนรุ่นใหม่ หรือ First Jobber มีไลฟ์สไตล์ที่เน้นการเคลื่อนที่เปลี่ยนแปลงได้สะดวกเมื่อต้องการ ไม่ว่าจะเป็นโยกย้ายที่ทำงาน เปลี่ยนที่อยู่อาศัยตามทำเลที่เดินทางสะดวก, การค้นหาประสบการณ์ชีวิตในย่านต่างๆ จากเหตุผลการใช้ชีวิตข้างต้น การซื้อที่อยู่อาศัย ทำให้เกิดภาระทางการเงินระยะยาว ไม่สอดคล้องกับรูปแบบการใช้ชีวิต

     จากการสำรวจพบว่า กลุ่มคนรุ่นใหม่มีสัดส่วนเช่ามากถึง 66% โดยเป็นผู้หญิงกว่า 60% มีสถานะโสด และมีกำลังจ่ายค่าเช่าเฉลี่ยต่อเดือนอยู่ที่ 5,000 - 10,000 บาท โดยปัจจัยในการเลือกเช่าจะอยู่ที่ความสะดวกสบายในการเดินทาง ราคาค่าเช่าที่ไม่สูงเกินไป มีสภาพแวดล้อมที่ดี มีพื้นที่ส่วนกลางที่ตอบโจทย์กับรูปแบบการใช้ชีวิต และมีที่จอดรถทั้งรถยนต์และรถจักรยานยนต์

     2. ความไม่แน่นอน และความผันผวนของเศรษฐกิจไทย

     ภาวะเศรษฐกิจที่ผันผวน ที่กระทบกับความสามารถในการสร้างรายได้ในระยะยาว เป็นปัจจัยที่ทำให้ คนใน Gen Z และ Gen Y ที่มีรายได้ไม่แน่นอน หรือไม่มั่นใจความสามารถในการสร้างรายได้ในอนาคต ไม่มีความพร้อมในการที่จะสร้างภาระหนี้ระยะยาว การเช่าจึงเป็นทางเลือกที่ตอบโจทย์สถานะทางการเงินของคนกลุ่มนี้มากกว่า

     3. การลงทุน&อนาคต

     พฤติกรรมการบริหารจัดการการลงทุนของคน Gen Z และ Gen Y ในปัจจุบัน ได้รับแรงผลักดันจาก Content Creator หรือ Finfluencer ซึ่งเป็นบุคคลที่มีความเชี่ยวชาญในด้านการเงินและการลงทุน ทำให้มีการบริหารจัดการเงินลงทุนในสินทรัพย์ที่มีความหลากหลาย ทั้งหุ้น พันธบัตร กองทุนรวม คริปโตเคอเรนซี การลงทุนในทอง เป็นต้น

     "จากทางเลือกที่หลากหลาย ทำให้คนในรุ่นนี้เลือกที่จะเก็บเงินมาใช้ในการลงทุนมากกว่าที่จะซื้อที่อยู่อาศัย ที่ต้องใช้เงินทุนสูง และ เป็นภาระหนี้ในระยะยาว"ประพันธ์ศักดิ์กล่าว

      อย่างไรก็ตาม"ประพันธ์ศักดิ์"มองว่า การ"ลงทุน เพื่อ ปล่อยเช่า" คือโอกาสสำหรับนักลงทุน สะท้อนจากพฤติกรรมดังกล่าว จึงเป็นโอกาสสำหรับผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ ในการพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัย เพื่อตอบโจทย์กับพฤติกรรมของคน Gen Z และ Gen Y ที่เป็นกำลังซื้อหลักในปัจจุบัน และในอนาคต อาทิ

     โมเดลแบบเช่าซื้อ ผ่อนก่อนเป็นเจ้าของทีหลัง เพื่อการเป็นเจ้าของในอนาคต เหมาะกับ First Jobber หรือ ผู้ที่มีรายได้ไม่มั่นคง หรือผู้ที่ไม่ต้องการมีหนี้สินระยะยาว

     โมเดลเช่าซื้อ หรือการให้เช่าแบบยืดหยุ่นในลักษณะ Package ซึ่งแต่ละ Package จะมีคอนโดในหลายๆพื้นที่ ที่ผู้เช่าสามารถเลือกวางแผนการพักอาศัย และปรับเปลี่ยนหรือย้ายคอนโดได้ตลอดช่วงสัญญาเช่า ภายใต้อัตราค่าเช่าต่อเดือนที่เท่ากันๆ ตาม Package

     มีงานบริการรองรับสำหรับผู้เช่า ทั้งก่อน และหลังเข้าอยู่ เช่น มีบริการขนย้ายสิ่งของ, ทำความสะอาด, ล้างแอร์, ซ่อมแซม เป็นต้น

     รวมไปถึง การพัฒนาโมเดลในการขายอาคารชุดให้กับกลุ่มนักลงทุน โดยการันตีอัตราผลตอบแทนจากการลงทุน จัดหาผู้เช่า เพื่อตอบโจทย์กับความต้องการของกลุ่มผู้มีรายได้สูง และหาแหล่งลงทุนที่ให้ผลตอบแทนที่สูงกว่าเงินฝาก และมีความเสี่ยงที่ต่ำกว่าการลงทุนในหุ้น หรือหุ้นกู้ เป็นต้น

     "ผมมองว่าการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของคนรุ่นใหม่ เป็นโอกาสในการพัฒนาโมเดลธุรกิจของภาคอสังหาฯ ที่จะสร้างรายได้ในระยะยาว รวมถึงกับนักลงทุนที่ต้องการลงทุนในธุรกิจที่ให้ผลตอบแทนที่แน่นอน และมีความเสี่ยงต่ำ ถ้าเรามีเงินลงทุนซื้ออาคารชุด 1 - 2 ล้านบาท ปล่อยเช่าที่ 5,000 - 10,000 บาทต่อเดือน เราสามารถที่จะสร้างผลตอบแทนจากการลงทุนได้ที่ 4 - 9% ขึ้นอยู่กับต้นทุนในการซื้อที่อยู่อาศัย และราคาที่ปล่อยเช่าได้ ซึ่งเป็นผลตอบแทนที่สูงกว่าเงินฝากปัจจุบัน และมีความเสี่ยงที่น้อยกว่าการลงทุนในหุ้น" ประพันธ์ศักดิ์ กล่าวทิ้งท้าย
ข่าวโครงการอสังหาฯ ภาคเอกชน อื่นๆ