นายสุนทร สถาพร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สถาพร เอสเตท จำกัด เปิดเผยว่า บริษัทกำลังศึกษาขยายโมเดลสู่ธุรกิจใหม่ เพื่อกระจายความเสี่ยงธุรกิจที่อยู่อาศัย ท่ามกลางตลาดโดยรวมชะลอตัวตามภาวะเศรษฐกิจ แรงกดดันจากหนี้ครัวเรือนสูง กำลังซื้อหดตัวอย่างต่อเนื่อง โดยจะเดินหน้าธุรกิจ Renovate ที่อยู่อาศัยใจกลางเมือง พัฒนาเป็นสินค้าใหม่ เป็นการซื้อบ้านมือสองมาปรับปรุงใหม่เพื่อขายต่อ เน้นทำเลในเมืองที่หาที่ดินพัฒนายาก ประกอบกับตลาดบ้านมือสองเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยธุรกิจใหม่จะเข้ามาเสริมกับ 2 ธุรกิจที่ได้ดำเนินการก่อนหน้านี้ ได้แก่ ธุรกิจ Handy Mate รับซ่อมแซม ตกแต่ง ต่อเติมที่อยู่อาศัย และธุรกิจ Sathaporn Connect การหาผู้เช่าและให้เช่าแก่ลูกค้า คาดว่าจะเริ่มดำเนินการในไตรมาสแรกของปี 2569 ตั้งเป้า 1-2 ปีแรกสร้างรายได้ระยะยาว (Recurring income) ใหักับบริษัท 5-10% ของรายได้ รวมที่มีรายได้ขายที่อยู่อาศัยกว่า 1,000 ล้านบาทต่อปี นอกจากนี้บริษัทยังมองหาโอกาสทางธุรกิจใหม่ๆ ให้สอดรับกับเมกะเทรนด์โลก เช่น เศรษฐกิจหมุนเวียน ความเป็นกลางทางคาร์บอน พลังงานทดแทนและเทคโนโลยีดิจิทัล

   "ธุรกิจใหม่ที่เรากำลังดำเนินการ เป็นการเพิ่มประสิทธิภาพของพนักงานเดิมที่มีอยู่ให้รับผิดชอบงานมากขึ้น ปรับตัวให้รับกับสถานการณ์ปัจจุบันที่ยังมีปัจจัยเสี่ยงอยู่รอบด้าน โดยที่ผ่านมามีบริษัท อสังหาฯหลายรายขยายสู่ธุรกิจใหม่ เช่น คลังสินค้า รับสร้างบ้าน โรงแรม โรงพยาบาล ศูนย์การค้า นิคมอุตสาหกรรม เป็นต้น" นายสุนทรกล่าว

   นายสุนทรกล่าวว่า ปัจจุบันบริษัทพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ รวม 7 โครงการ มูลค่ากว่า 9,316ล้านบาท เป็นแนวราบ 5 โครงการ แบรนด์อิเธอร์นิตี้ ทั้งบ้านเดี่ยว บ้านแฝด ทาวน์โฮม เริ่มต้น 4.3-17 ล้านบาท แนวสูง 2 โครงการย่านสาทร-พระราม 4 เริ่มต้น 3.79 ล้านบาท รวมมูลค่าโครงการทั้งหมดในธุรกิจอสังหาฯแล้วกว่า 12,416 ล้านบาท ทั้งนี้สถาพรเป็นส่วนหนึ่งของกลุ่มบริษัททรัพย์สถาพร ที่ก่อตั้งในปี 2498 จากธุรกิจเกี่ยวกับปอ ข้าว ข้าวโพด มันสำปะหลัง การค้าขายไปยังต่างประเทศ ปัจจุบันมี 4 ธุรกิจหลัก คือ ส่งออกพืชไร่ คลังสินค้าและท่าเรือให้เช่า พลังงานผลิตเอทานอลจากมันสำปะหลัง และอสังหาฯ แบรนด์บ้านสถาพร เริ่มธุรกิจปี 2534 ในนามบริษัท เฉลิมนคร มูลค่าโครงการ 3,100 ล้านบาท และปี 2559 รีแบรนด์เป็นบริษัท สถาพร เอสเตท ถึงปัจจุบัน ก้าวสู่ทศวรรษที่ 7 แล้ว