อสังหาฯชะลอตัวเจอปัญหาศก.ซบกำลังซื้อร่วง
Loading

อสังหาฯชะลอตัวเจอปัญหาศก.ซบกำลังซื้อร่วง

วันที่ : 2 สิงหาคม 2568
LWS กล่าวว่า โดยภาพรวมตลาดอสังหาริมทรัพย์ในช่วงครึ่งแรกของปี 2568 การเปิดตัวโครงการใหม่ชะลอตัวลงด้วยปัจจัยหลายประการทั้งภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว รวมไปถึงสถานการณ์แผ่นดินไหว ทำให้ผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ชะลอแผนการเปิดตัวโครงการในช่วงไตรมาสสองของปี โดยไม่มีการเปิดตัวโครงการอาคารชุดใหม่เลยในเดือนเมษายน หลังเหตุการณ์แผ่นดินไหว และเริ่มกลับมาเปิดตัวโครงการใหม่ในเดือนพฤษภาคม และ มิถุนายน
     นายประพันธ์ศักดิ์ รักษ์ไชยวรรณ กรรมการผู้จัดการ บริษัท แอล ดับเบิลยู เอส วิสดอม แอนด์ โซลูชั่นส์ จำกัด บริษัทวิจัยและพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ในเครือบริษัท แอล.พี.เอ็น. ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) กล่าวถึง แนวโน้มตลาดอสังหาริมทรัพย์ในพื้นที่กรุงเทพฯ และ ปริมณฑล ในช่วงครึ่งหลังของปี 2568 ว่า ยังคงมีแนวโน้มที่จะชะลอตัวต่อเนื่องจากช่วงครึ่งแรกของปี ซึ่งเป็นผลมาจากภาวะเศรษฐกิจที่ยังคงชะลอตัว เป็นผลมาจากมาตรการกีดกันทางการค้า ของประเทศสหรัฐอเมริกา ที่มีการประกาศขึ้นภาษีศุลกากรนำเข้าสินค้าจากประเทศไทยที่อัตรา 36% ซึ่งจะมีผลวันที่ 1 สิงหาคม 2568 ส่งผลให้มีการ คาดการณ์ว่าเศรษฐกิจไทยในปี 2568 มีแนวโน้มที่จะเติบโตต่ำกว่า 2% จากเดิมที่มีการคาดการณ์ว่าเศรษฐกิจไทยในปี 2568 จะเติบโตที่ 2.7-3%

    "การที่เศรษฐกิจไทยมีอัตราการเติบโตที่ต่ำ ทำให้รายได้และกำลังซื้อของประชากรลดลง ผนวกกับสถาบันการเงิน ยังคงเข้มงวดกับการพิจารณาอนุมัติสินเชื่อทั้งสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยไปจนถึงสินเชื่ออุปโภคและบริโภค ส่งผลกระทบ โดยตรงกับกำลังซื้อที่อยู่อาศัย ถึงแม้อัตราดอกเบี้ยภายในประเทศจะมีแนวโน้มลดลง และมีมาตรการผ่อนคลาย อัตราส่วนการให้สินเชื่อซื้อบ้านโดยเทียบกับมูลค่า (Loan to Value : LTV) รวมทั้งการลดค่าธรรมเนียมการโอนและจดจำนองมาอยู่ที่ 0.01% ก็ยังไม่สามารถที่จะกระตุ้นกำลังซื้อให้กลับคืนมาได้ เพราะผู้ซื้อส่วนใหญ่ยังกังวลรายได้ ในอนาคต ทำให้ชะลอการตัดสินใจซื้อ ที่อยู่อาศัย ที่เป็นภาระหนี้ระยะยาวออกไปก่อน" นายประพันธ์ศักดิ์ กล่าว

    จากแนวโน้มดังกล่าว ทำให้คาดว่า ปี 2568 จะมีการเปิดตัวโครงการที่อยู่อาศัยใหม่ลดลงทั้งมูลค่าและจำนวน เนื่องจากผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ จะชะลอแผนการเปิดตัวโครงการใหม่ เพื่อลดความเสี่ยงในการเปิดตัวโครงการใหม่แล้วจะขายไม่ได้ตามแผน แต่ต้องใช้เงินลงทุนสูง ไปมุ่งเน้นที่การเร่งระบายสินค้าคงเหลือที่ยังคงมีอยู่เพื่อเพิ่มสภาพคล่องทางการเงิน และ ลดภาระดอกเบี้ยจ่ายในการถือครองทรัพย์สินแทน แนวโน้ม ดังกล่าวสะท้อนจากการเปิดตัวโครงการใหม่ในช่วงครึ่งแรกของปี 2568 ที่ปรับตัวลดลงทั้งจำนวนและมูลค่าการเปิดตัวโครงการคิดเป็นสัดส่วน 54% และ 46% ตามลำดับเมื่อเทียบกับระยะเดียวกันของปี 2567

    จากผลการสำรวจการเปิดตัวโครงการที่อยู่อาศัยใหม่ในพื้นที่กรุงเทพฯ และ ปริมณฑล ในช่วงครึ่งแรกของปี 2568 ของ บริษัท แอล ดับเบิลยู เอสฯ พบว่า มีจำนวนโครงการที่อยู่อาศัยเปิดตัวใหม่ในช่วงครึ่งแรกของปี 2568 (มกราคม-มิถุนายน 2568) ทั้งสิ้น 104 โครงการ คิดเป็นจำนวนหน่วยเปิดตัว ทั้งสิ้น 14,942 หน่วย คิดเป็นมูลค่ารวม 109,220 ล้านบาท ลดลง 42%, 54%, และ 46% ตามลำดับ เมื่อเทียบกับจำนวนการเปิดตัวโครงการ 182 โครงการ จำนวน 32,675 หน่วย คิดเป็นมูลค่า 201,517 ล้านบาท ในระยะเดียวกันของปี 2567

    โดยเป็นการเปิดตัวโครงการอาคารชุดพักอาศัยในช่วงครึ่งแรกของปี 2568 จำนวน 23 โครงการ จำนวน 7,393 หน่วย คิดเป็นมูลค่า 22,956 ล้านบาท ลดลง 30%, 45% และ 56% ตามลำดับ จากจำนวนโครงการเปิดใหม่ 33 โครงการ จำนวน 13,377 หน่วย คิดเป็นมูลค่า 51,802 ล้านบาท ในระยะเดียวกันของปี 2567

    ขณะที่การเปิดตัวบ้านพักอาศัยในช่วงครึ่งแรกของปี 2568 มีจำนวนทั้งสิ้น 81 โครงการ คิดเป็นจำนวนหน่วย เปิดตัวทั้งสิ้น 7,549 หน่วย คิดเป็นมูลค่าการเปิดตัวรวม 86,264 ล้านบาท ลดลง 46%, 61%, และ 42% ตามลำดับ เมื่อเทียบกับจำนวนการเปิดตัวโครงการใหม่ 149 โครงการ คิดเป็นจำนวนหน่วยเปิดตัว 19,298 หน่วย คิดเป็นมูลค่ารวม 149,715 ล้านบาท ในระยะเดียวกันของปี 2567

    ส่วนทำเลที่มีกำลังซื้อสูง จากผลการสำรวจของ แอล ดับเบิลยู เอสฯ พบว่า สำหรับอาคารชุดพักอาศัยที่เปิดตัวใหม่ในช่วงไตรมาสสองของปี 2568 โครงการในทำเลหลักสี่แจ้งวัฒนะ มีกำลังซื้อสูง โดยโครงการอาคารชุดที่เปิดตัวในทำเลดังกล่าวมียอดขาย ณ วันเปิดตัวสูงถึง 40% จากจำนวนหน่วยที่เปิดขาย 328 หน่วย ตามมาด้วยทำเลติวานนท์ ที่มียอดขาย ณ วันเปิดตัวที่ 30% จากจำนวนหน่วยเปิดตัว 154 หน่วย

    ขณะที่ทำเลที่ขายดีสำหรับบ้านพักอาศัยที่ราคา ไม่เกิน 10 ล้านบาท ที่เปิดตัวในช่วงไตรมาสสองของปี 2568 ได้แก่ ทำเล แบริ่ง-วัดด่าน ที่ขายได้ 51 หน่วย ณ วันเปิดตัว จากจำนวนหน่วยเปิดตัวทั้งสิ้น 222 หน่วย คิดเป็นสัดส่วน 23%ของจำนวนหน่วยเปิดตัวทั้งหมดในทำเลนี้ ตามมาด้วย ปทุมธานี โดยสามารถขายได้ 49 หน่วย จากจำนวนหน่วยเปิดตัว 288 หน่วย คิดเป็นสัดส่วน 17% ของหน่วยเปิดตัวทั้งหมดในทำเลนี้

    "โดยภาพรวมตลาดอสังหาริมทรัพย์ในช่วงครึ่งแรกของปี 2568 การเปิดตัวโครงการใหม่ชะลอตัวลงด้วยปัจจัยหลายประการทั้งภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว รวมไปถึงสถานการณ์แผ่นดินไหว ทำให้ผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ชะลอแผนการเปิดตัวโครงการในช่วงไตรมาสสองของปี โดยไม่มีการเปิดตัวโครงการอาคารชุดใหม่เลยในเดือนเมษายน หลังเหตุการณ์แผ่นดินไหว และเริ่มกลับมาเปิดตัวโครงการใหม่ในเดือนพฤษภาคม และ มิถุนายน ถึงแม้ผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ จะเร่งเปิดตัวโครงการใหม่ในช่วงครึ่งหลังของปี 2568 แต่โดยภาพรวมแล้วในปี 2568 การเปิดตัว โครงการใหม่มีแนวโน้มที่จะน้อยกว่า ปี 2567 หรือไม่ก็ใกล้เคียงกับปี 2567" นายประพันธ์ศักดิ์ 
ข่าวโครงการอสังหาฯ ภาคเอกชน อื่นๆ