LALIN ครึ่งปีหลังโตกว่าครึ่งปีแรก ลุยเปิด 2 โครงการใหม่ 1.6 พันล้าน
วันที่ : 29 สิงหาคม 2568
“ลลิล” ลั่นผลงานครึ่งปีหลังโตกว่าครึ่งปีแรก อานิสงส์ปัจจัยฤดูกาล-ดอกเบี้ยลด โกยรายได้ปีนี้ 3,600-3,700 ล้านบาท ตุนแบ็กล็อกเกือบ 900 ล้านบาท เตรียมเปิดใหม่ 2 โครงการ มูลค่ารวม 1,600 ล้านบาท พร้อมฉลองครบรอบ 40 ปี ตอกย้ำผู้นำการพัฒนาบ้านสไตล์ French Colonial รายแรกในไทย
นายเสรี สินธุอัสว์ กรรมการ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บริษัท ลลิล พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ LALIN เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานในช่วงครึ่งปีหลังของปี 2568 โดยปกติยอดโอนกรรมสิทธิ์จะดีกว่าช่วงครึ่งปีแรก เพราะปัจจัยฤดูกาล และมีปัจจัยบวกจากการที่คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ประกาศลดอัตราดอกเบี้ย และส่งผ่านไปยังธนาคารพาณิชย์ในทิศทางเดียวกันกับ กนง. ส่งผลบวกกับตลาดอสังหาริมทรัพย์ด้วย โดยการลดดอกเบี้ยเป็นการเพิ่มอำนาจซื้อให้กับผู้บริโภค ทำให้วงเงินสินเชื่อเพิ่มขึ้น ซึ่งจะช่วยให้ครึ่งปีหลังดีกว่าครึ่งปีแรก
ทั้งนี้ ในปี 2568 บริษัทคาดว่ามีรายได้จะอยู่ที่ 3,600-3,700 ล้านบาท จากปีก่อนที่มีรายได้รวม 3,696.59 ล้านบาท ซึ่งในช่วงครึ่งปีแรกบริษัทมีรายได้รวมแล้ว 1,553.56 ล้านบาท โดย ณ สิ้นไตรมาส 2/2568 บริษัทมียอดขายรอโอน (Backlog) มูลค่ารวมเกือบ 900 ล้านบาท และพอร์ตสินค้าของ LALIN เป็นแนวราบทั้งหมด ดังนั้น Backlog เกือบทั้งหมดจะสามารถทยอยรับรู้ได้ภายในปีนี้ ส่วนที่เหลือเป็นกลุ่มบ้านผ่อนดาวน์จะรับรู้ในไตรมาส 1/2569 ได้
ขณะที่ยอดขาย (Presale) ปี 2568 คาดว่าจะอยู่ที่ 3,700-3,800 ล้านบาท โดยในช่วงครึ่งปีหลังบริษัทมีแผนจะเปิดตัวโครงการใหม่เพิ่ม 2 โครงการ มูลค่าโครงการรวมประมาณ 1,600 ล้านบาท จากช่วงครึ่งปีแรกที่เปิดตัวโครงการใหม่แล้ว 3 โครงการ มูลค่าโครงการ 2,000 ล้านบาท ซึ่งจะส่งผลให้ทั้งปี 2568 บริษัทมีการเปิดตัวโครงการใหม่ 5 โครงการ มูลค่าโครงการรวม 3,500 ล้านบาท
ส่วนนโยบายรถไฟฟ้า 20 บาท บริษัทมองว่าจะได้รับผลบวกจากนโยบายดังกล่าวด้วย เพราะโครงการของบริษัทจะอยู่ในโซนนอกเมือง และกลุ่มลูกค้าจะเป็นกลุ่มราคาที่จับต้องได้ ซึ่งการที่ค่ารถไฟฟ้าถูกลงจะทำให้ลูกค้าที่ลังเลจะตัดสินใจซื้อคอนโดมิเนียมในเมือง หรือจะเช่าอยู่ มีทางเลือกมากขึ้น
ด้าน นายชูรัชฏ์ ชาครกุล กรรมการผู้จัดการ LALIN เปิดเผยถึงการเดินทาง 40 ปีที่ผ่านมาว่า LALIN ไม่เพียงแต่เป็นผู้พัฒนาโครงการบ้าน แต่เรายังมุ่งพัฒนา ความเชื่อมั่น’ และ ความสุข’ เพื่อส่งมอบให้กับลูกค้าทุกหลัง โดยเน้นคุณภาพในทุกขั้นตอนตั้งแต่การเลือกสรรทำเลคุณภาพ การออกแบบ งานด้านวิศวกรรม การก่อสร้าง จนถึงบริการหลังการขาย เพื่อให้ลูกค้าได้รับประสบการณ์ที่ดีที่สุดและมั่นใจในแบรนด์ของเรา โดยหนึ่งในความภูมิใจสูงสุดคือการเป็นผู้นำในการนำเสนอแบบบ้านสไตล์ French Colonial Style เป็นแบรนด์แรกในตลาดไทย ที่โดดเด่นด้วยเสน่ห์แบบคลาสสิกผสานกับความอบอุ่นและฟังก์ชันการใช้งานที่หลากหลาย เหมาะกับครอบครัวไทยยุคใหม่ที่ต้องการบ้านที่ไม่เพียงแต่มอบความงดงาม แต่ยังให้ความสำคัญด้านความปลอดภัย และสร้างชุมชนสังคมที่อยู่อาศัยอย่างยั่งยืน”
“ตลอด 40 ปีที่ผ่านมา ลลิล พร็อพเพอร์ตี้ ได้ส่งมอบบ้านกว่า 30,000 หลังให้กับครอบครัวไทย ด้วยความตั้งใจและมาตรฐานที่ไม่เคยเปลี่ยนแปลง เพื่อให้ผู้อยู่อาศัยมีความสุข ปลอดภัย และเติบโตในสิ่งแวดล้อมที่ดี ด้วยวิสัยทัศน์ที่ชัดเจน การพัฒนาบุคลากรอย่างต่อเนื่อง และการสร้างสรรค์บ้านคุณภาพในสไตล์ที่โดดเด่น ลลิลฯ พร้อมก้าวสู่อนาคตด้วยความมั่นคง เพื่อเป็น “National Property Company” ที่ลูกค้านึกถึงเป็นอันดับแรกเสมอ” นายชูรัชฏ์ กล่าว
ทั้งนี้ ในปี 2568 บริษัทคาดว่ามีรายได้จะอยู่ที่ 3,600-3,700 ล้านบาท จากปีก่อนที่มีรายได้รวม 3,696.59 ล้านบาท ซึ่งในช่วงครึ่งปีแรกบริษัทมีรายได้รวมแล้ว 1,553.56 ล้านบาท โดย ณ สิ้นไตรมาส 2/2568 บริษัทมียอดขายรอโอน (Backlog) มูลค่ารวมเกือบ 900 ล้านบาท และพอร์ตสินค้าของ LALIN เป็นแนวราบทั้งหมด ดังนั้น Backlog เกือบทั้งหมดจะสามารถทยอยรับรู้ได้ภายในปีนี้ ส่วนที่เหลือเป็นกลุ่มบ้านผ่อนดาวน์จะรับรู้ในไตรมาส 1/2569 ได้
ขณะที่ยอดขาย (Presale) ปี 2568 คาดว่าจะอยู่ที่ 3,700-3,800 ล้านบาท โดยในช่วงครึ่งปีหลังบริษัทมีแผนจะเปิดตัวโครงการใหม่เพิ่ม 2 โครงการ มูลค่าโครงการรวมประมาณ 1,600 ล้านบาท จากช่วงครึ่งปีแรกที่เปิดตัวโครงการใหม่แล้ว 3 โครงการ มูลค่าโครงการ 2,000 ล้านบาท ซึ่งจะส่งผลให้ทั้งปี 2568 บริษัทมีการเปิดตัวโครงการใหม่ 5 โครงการ มูลค่าโครงการรวม 3,500 ล้านบาท
ส่วนนโยบายรถไฟฟ้า 20 บาท บริษัทมองว่าจะได้รับผลบวกจากนโยบายดังกล่าวด้วย เพราะโครงการของบริษัทจะอยู่ในโซนนอกเมือง และกลุ่มลูกค้าจะเป็นกลุ่มราคาที่จับต้องได้ ซึ่งการที่ค่ารถไฟฟ้าถูกลงจะทำให้ลูกค้าที่ลังเลจะตัดสินใจซื้อคอนโดมิเนียมในเมือง หรือจะเช่าอยู่ มีทางเลือกมากขึ้น
ด้าน นายชูรัชฏ์ ชาครกุล กรรมการผู้จัดการ LALIN เปิดเผยถึงการเดินทาง 40 ปีที่ผ่านมาว่า LALIN ไม่เพียงแต่เป็นผู้พัฒนาโครงการบ้าน แต่เรายังมุ่งพัฒนา ความเชื่อมั่น’ และ ความสุข’ เพื่อส่งมอบให้กับลูกค้าทุกหลัง โดยเน้นคุณภาพในทุกขั้นตอนตั้งแต่การเลือกสรรทำเลคุณภาพ การออกแบบ งานด้านวิศวกรรม การก่อสร้าง จนถึงบริการหลังการขาย เพื่อให้ลูกค้าได้รับประสบการณ์ที่ดีที่สุดและมั่นใจในแบรนด์ของเรา โดยหนึ่งในความภูมิใจสูงสุดคือการเป็นผู้นำในการนำเสนอแบบบ้านสไตล์ French Colonial Style เป็นแบรนด์แรกในตลาดไทย ที่โดดเด่นด้วยเสน่ห์แบบคลาสสิกผสานกับความอบอุ่นและฟังก์ชันการใช้งานที่หลากหลาย เหมาะกับครอบครัวไทยยุคใหม่ที่ต้องการบ้านที่ไม่เพียงแต่มอบความงดงาม แต่ยังให้ความสำคัญด้านความปลอดภัย และสร้างชุมชนสังคมที่อยู่อาศัยอย่างยั่งยืน”
“ตลอด 40 ปีที่ผ่านมา ลลิล พร็อพเพอร์ตี้ ได้ส่งมอบบ้านกว่า 30,000 หลังให้กับครอบครัวไทย ด้วยความตั้งใจและมาตรฐานที่ไม่เคยเปลี่ยนแปลง เพื่อให้ผู้อยู่อาศัยมีความสุข ปลอดภัย และเติบโตในสิ่งแวดล้อมที่ดี ด้วยวิสัยทัศน์ที่ชัดเจน การพัฒนาบุคลากรอย่างต่อเนื่อง และการสร้างสรรค์บ้านคุณภาพในสไตล์ที่โดดเด่น ลลิลฯ พร้อมก้าวสู่อนาคตด้วยความมั่นคง เพื่อเป็น “National Property Company” ที่ลูกค้านึกถึงเป็นอันดับแรกเสมอ” นายชูรัชฏ์ กล่าว
ข่าวโครงการอสังหาฯ ภาคเอกชน อื่นๆ