สินเชื่อครึ่งปีติดลบ! หวั่นครึ่งหลังแย่กว่า

   นายกมลภพ วีระพละ กรรมการผู้จัดการธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) เปิดเผยว่า แนวโน้มตลาดที่อยู่อาศัยไตรมาส 2 ปี 68 ดีขึ้นจากไตรมาสก่อน โดยเฉพาะกลุ่มบ้านและคอนโดมิเนียมมือสองราคาไม่เกิน 3 ล้านบาท ได้รับความนิยมมากกว่าบ้านมือหนึ่ง เนื่องจากมีข้อได้เปรียบทั้งเรื่องราคาที่ถูกกว่า ทำเลที่ดีกว่า ขณะเดียวกันผู้บริโภคยังหันมาเลือกซื้อ บ้านที่มีขนาดเล็กลงพอดีกับครอบครัว ต่างจากเดิมที่จะซื้อเผื่อมีลูกหรือเผื่อญาติมาพัก ทำให้ที่อยู่อาศัยขนาดเล็กเติบโตได้ดีกว่า

   สำหรับยอดโอนกรรมสิทธิ์ที่อยู่อาศัยไตรมาส 2 พบว่าบ้านใหม่ติดลบค่อนข้างมากเทียบกับบ้านมือสองที่ติดลบน้อยกว่า เช่น กลุ่มราคาต่ำกว่า 1 ล้านบาท บ้านใหม่ติดลบ 31.3% แต่บ้านมือสองติดลบ 7.4% กลุ่มราคา 1.5-2 ล้านบาท บ้านใหม่ติดลบ 20% บ้านมือสองลบ 8.3% กลุ่มราคา 2-3 ล้านบาท บ้านใหม่ติดลบ 19.8% บ้านมือสองลบเพียง 11.7% ทั้งนี้ การที่รัฐบาลใช้มาตรการกระตุ้นอสังหาริมทรัพย์ ลดค่าธรรมเนียมการโอนและจดจำนองเหลือ 0.01% และผ่อนคลายเกณฑ์สินเชื่อแอลทีวี ส่งผลให้กำลังซื้อและการโอนกรรมสิทธิ์ไตรมาส 2 เพิ่มขึ้นชัดเจน ทั้งจำนวนหน่วยมี 77,343 หน่วย เพิ่มขึ้น 18.5% จากไตรมาสแรก มีมูลค่า 210,056 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 15.7% ทำให้ภาพรวมครึ่งแรก ปี 68 มีการโอนกรรมสิทธิ์ 142,619 หน่วย ลดลง 10.7% มีมูลค่า 391,601 ล้านบาท ลดลง 13.3%

   สำหรับแนวโน้มอสังหาฯ ครึ่งหลังปี 68 จะชะลอตัวลงจากครึ่งปีแรก โดยมาตรการภาษีสหรัฐฯ มีผลกระทบต่อรายได้ของธุรกิจ ลูกจ้างทำให้กำลังซื้อลดลง ขณะที่โครงการเปิดขายใหม่มีแนวโน้มลดลงและผู้ซื้อบ้านขาดความสามารถในการกู้ ส่งผลให้ผู้ประกอบการรายกลางและเล็กมีความเสี่ยงด้านสภาพคล่องสูงขึ้น กดดันให้ทั้งปี 68 การโอนกรรมสิทธิ์ที่อยู่อาศัยทั่วประเทศจะอยู่ที่ 343,678 หน่วย ลดลง 1.2% และมีมูลค่า 964,027 ล้านบาท ลดลง 1.7%