PRI ครึ่งหลังบุก ภูเก็ต-EEC หนุนรายได้ปีนี้ 1,850 ล้าน
วันที่ : 9 กันยายน 2568
“พรีโม เซอร์วิส โซลูชั่น” ชูแผนธุรกิจ “Driving to 2025 Goal” ดันรายได้ช่วงครึ่งปีหลัง ปักหมุดเปิดตลาดใหม่ทั้งภูเก็ต และ EEC ด้วยการรุกธุรกิจแบบครบวงจร ครอบคลุมทั้งงานขาย งานบริการ และงานก่อสร้าง มั่นใจหนุนรายได้ปีนี้ตามนัด 1,850 ล้านบาท
นายสุรินทร์ สหชาติโภคานันท์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พรีโม เซอร์วิส โซลูชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ PRI เปิดเผยว่า ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ยังได้รับแรงกดดันจากจำนวนสินค้ารอขายจำนวนมาก ปัญหาสินเชื่อ รวมทั้งความเชื่อมั่นจากผลของสภาวะเศรษฐกิจในภาพรวมต่อรายได้ของลูกค้า ส่งผลให้ลูกค้าบางส่วนชะลอการตัดสินใจซื้อ บริษัทพร้อมมุ่งมั่นที่จะสร้างผลประกอบการในครึ่งปีหลังให้บรรลุตามเป้าหมายที่วางไว้ โดยกำหนดแผนธุรกิจ Driving to 2025 Goal เพื่อต่อยอดรายได้ตามเป้าหมายไว้ที่ 1,850 ล้านบาท ด้วยการมุ่งเน้นการดำเนินงานตาม 3 แกนสำคัญ ประกอบด้วย
1.HARVEST สร้างโอกาสในตลาดใหม่ ๆ เช่น ตลาดภูเก็ต ผ่านกลุ่มงานของบริษัท Brokerage, Living Service, และงานก่อสร้างแบบครบวงจร ให้บริการด้านการซื้อขายและเช่าอสังหาริมทรัพย์ครบวงจร รวมถึงการบริหารจัดการนิติบุคคล บริการดูแลลูกบ้าน โดยใช้จุดแข็งที่มีธุรกิจครบวงจรด้านวิศวกรรมและงานก่อสร้าง (UPM) รับงานบริหารโครงการแบบ Turnkey Project ทั้งการควบคุมงานและการก่อสร้าง
2.QUAILTY ปรับโครงสร้างองค์กรผ่าน 3 กลุ่มบริษัท ได้แก่ Living Service, BROKERAGE และ Engineering เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของงานบริการ และ 3.DIGITAL TRANSFORMATION ยกระดับองค์กรด้วยนวัตกรรมดิจิทัล ด้วย Primo Robot นวัตกรรมหุ่นยนต์เพื่อความสะดวกสบายของลูกบ้าน รวมทั้งยังนำระบบ AI มาใช้พัฒนา Chatbot และ Agent อัจฉริยะ ช่วยลูกบ้านตอบคำถาม แจ้งซ่อม จองพื้นที่ แนะนำบริการต่าง ๆ ได้ทันใจ ตลอด 24 ชั่วโมง พร้อมเรียนรู้เพื่อปรับปรุงการบริการให้ตรงใจมากขึ้น
ขณะที่บริษัทมองเห็นโอกาสในการสร้างงานผ่านทุกกลุ่มของบริษัท ได้แก่ กลุ่ม Living Service หรือกลุ่มบริหารอาคาร และนิติบุคคล ซึ่งในกลุ่มนี้ยังมีช่องว่างของตลาดอีกจำนวนมากและมีการขยายตัวในทุกปี โดยแผนงานในช่วงที่เหลือของปีนี้ บริษัทจะเพิ่มงานบริการเฉพาะกลุ่ม เช่น งาน Pet Friendly Service รวมถึงการนำระบบ IOT เข้ามาช่วย ผนวกกับการทำ Robot ส่งของ และ Robot ทำความสะอาดเข้ามาช่วย รวมทั้งบริการเสริม Pest Control และ Landscape เป็นต้น
สำหรับกลุ่ม Brokerage กลุ่มงานด้านการขาย การเช่าอสังหาริมทรัพย์ ที่มีการขยายตัวต่อเนื่อง โดยเฉพาะในกลุ่มชาวต่างชาติ บนทำเลที่มีศักยภาพสูงอย่างภูเก็ต และ EEC เน้นเจาะกลุ่ม Long Stay, Co-Living, Smart Home เพื่อขยายตลาดในทำเลศักยภาพดังกล่าว และกลุ่ม Engineering ในสายงานก่อสร้าง งานปรับปรุง ตกแต่งภายใน และธุรกิจเฟอร์นิเจอร์ มุ่งเน้นความเป็นมืออาชีพของทีมงาน ตอบโจทย์ทั้งการออกแบบตกแต่งภายใน (Wyde Interior) รวมถึงความต้องการงาน Renovate และ งาน Home Care ที่ยังมีความต้องการสูงในช่วงที่เหลือของปีนี้
ทั้งนี้ PRI ยังเดินหน้าต่อยอดรายได้ในช่วงครึ่งปีหลัง ด้วยการปักหมุด 2 เป้าหมายสำคัญพร้อมเปิดตลาดใหม่ที่มีศักยภาพสูงทั้งภูเก็ต และ EEC ด้วยการรุกธุรกิจแบบครบวงจร ครอบคลุมทั้งงานขาย งานบริการ และงานก่อสร้าง พร้อมตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าทั้งคอนโดมิเนียมทำเลศักยภาพและบ้านหรู Pool Villa
1.HARVEST สร้างโอกาสในตลาดใหม่ ๆ เช่น ตลาดภูเก็ต ผ่านกลุ่มงานของบริษัท Brokerage, Living Service, และงานก่อสร้างแบบครบวงจร ให้บริการด้านการซื้อขายและเช่าอสังหาริมทรัพย์ครบวงจร รวมถึงการบริหารจัดการนิติบุคคล บริการดูแลลูกบ้าน โดยใช้จุดแข็งที่มีธุรกิจครบวงจรด้านวิศวกรรมและงานก่อสร้าง (UPM) รับงานบริหารโครงการแบบ Turnkey Project ทั้งการควบคุมงานและการก่อสร้าง
2.QUAILTY ปรับโครงสร้างองค์กรผ่าน 3 กลุ่มบริษัท ได้แก่ Living Service, BROKERAGE และ Engineering เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของงานบริการ และ 3.DIGITAL TRANSFORMATION ยกระดับองค์กรด้วยนวัตกรรมดิจิทัล ด้วย Primo Robot นวัตกรรมหุ่นยนต์เพื่อความสะดวกสบายของลูกบ้าน รวมทั้งยังนำระบบ AI มาใช้พัฒนา Chatbot และ Agent อัจฉริยะ ช่วยลูกบ้านตอบคำถาม แจ้งซ่อม จองพื้นที่ แนะนำบริการต่าง ๆ ได้ทันใจ ตลอด 24 ชั่วโมง พร้อมเรียนรู้เพื่อปรับปรุงการบริการให้ตรงใจมากขึ้น
ขณะที่บริษัทมองเห็นโอกาสในการสร้างงานผ่านทุกกลุ่มของบริษัท ได้แก่ กลุ่ม Living Service หรือกลุ่มบริหารอาคาร และนิติบุคคล ซึ่งในกลุ่มนี้ยังมีช่องว่างของตลาดอีกจำนวนมากและมีการขยายตัวในทุกปี โดยแผนงานในช่วงที่เหลือของปีนี้ บริษัทจะเพิ่มงานบริการเฉพาะกลุ่ม เช่น งาน Pet Friendly Service รวมถึงการนำระบบ IOT เข้ามาช่วย ผนวกกับการทำ Robot ส่งของ และ Robot ทำความสะอาดเข้ามาช่วย รวมทั้งบริการเสริม Pest Control และ Landscape เป็นต้น
สำหรับกลุ่ม Brokerage กลุ่มงานด้านการขาย การเช่าอสังหาริมทรัพย์ ที่มีการขยายตัวต่อเนื่อง โดยเฉพาะในกลุ่มชาวต่างชาติ บนทำเลที่มีศักยภาพสูงอย่างภูเก็ต และ EEC เน้นเจาะกลุ่ม Long Stay, Co-Living, Smart Home เพื่อขยายตลาดในทำเลศักยภาพดังกล่าว และกลุ่ม Engineering ในสายงานก่อสร้าง งานปรับปรุง ตกแต่งภายใน และธุรกิจเฟอร์นิเจอร์ มุ่งเน้นความเป็นมืออาชีพของทีมงาน ตอบโจทย์ทั้งการออกแบบตกแต่งภายใน (Wyde Interior) รวมถึงความต้องการงาน Renovate และ งาน Home Care ที่ยังมีความต้องการสูงในช่วงที่เหลือของปีนี้
ทั้งนี้ PRI ยังเดินหน้าต่อยอดรายได้ในช่วงครึ่งปีหลัง ด้วยการปักหมุด 2 เป้าหมายสำคัญพร้อมเปิดตลาดใหม่ที่มีศักยภาพสูงทั้งภูเก็ต และ EEC ด้วยการรุกธุรกิจแบบครบวงจร ครอบคลุมทั้งงานขาย งานบริการ และงานก่อสร้าง พร้อมตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าทั้งคอนโดมิเนียมทำเลศักยภาพและบ้านหรู Pool Villa
ข่าวเขตเศรษฐกิจพิเศษ อื่นๆ