SA ตุนแบ็กล็อกเต็มมือ 4 พันล้าน โอน 'แลนด์มาร์ค แอท แกรนด์ สเตชั่น เฟส 1' มูลค่า 1 พันล้าน Q4
Loading

SA ตุนแบ็กล็อกเต็มมือ 4 พันล้าน โอน 'แลนด์มาร์ค แอท แกรนด์ สเตชั่น เฟส 1' มูลค่า 1 พันล้าน Q4

วันที่ : 9 กันยายน 2568
“ไซมิส แอสเสท” ตุนแบ็กล็อก 4,000 ล้านบาท ทยอยบุ๊กครึ่งปีหลัง 1,094 ล้านบาท เตรียมโอนโครงการ แลนด์มาร์ค แอท แกรนด์ สเตชั่น เฟส 1 มูลค่ากว่า 1,000 ล้านบาท ในไตรมาส 4/68 พร้อมเปิดขายเฟสใหม่ใน 2 โครงการ มูลค่ารวม 2,700 ล้านบาท
    นายมณเฑียร ยิ่งดำนุ่น ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการร่วม บริษัท ไซมิส แอสเสท จำกัด (มหาชน) หรือ SA เปิดเผยว่า ปัจจุบันบริษัทมียอดขายรอโอน (Backlog) อยู่ที่ 4,000.5 ล้านบาท จะทยอยรับรู้รายได้ในช่วงที่เหลือของปี 2568 อยู่ที่ 1,094 ล้านบาท ส่วนที่เหลือจะทยอยรับรู้ในปี 2569-2570 ขณะเดียวกันบริษัทยังมีสินค้าในกลุ่ม Ready to Move มูลค่ารวม 20,638 ล้านบาท โดยในไตรมาส 4/2568 จะมีการเริ่มส่งมอบโครงการ แลนด์มาร์ค แอท แกรนด์ สเตชั่น (ตรงข้าม Fashion Islands) เฟส 1 จำนวนกว่า 400 ยูนิต มูลค่ารวมกว่า 1,000 ล้านบาท ซึ่งในช่วงที่ผ่านมา บริษัทได้มีการทำการเช็กสุขภาพทางการเงินของลูกค้า เพื่อช่วยเตรียมตัวก่อนการโอนกรรมสิทธิ์แล้ว

    สำหรับในช่วงไตรมาส 3/2568 บริษัทมีแผนเปิดขายโครงการเฟสใหม่ใน 2 โครงการ มูลค่ารวม 2,700 ล้านบาท ได้แก่ 1.โครงการ มนต์เสน่ห์ เอ็กซ์คลูซีฟ เฟส 2 มูลค่าโครงการประมาณ 900 ล้านบาท และ 2.โครงการ แลนด์มาร์ค แอท แกรนด์ สเตชั่น เฟส 2 มูลค่าโครงการ 1,800 ล้านบาท เพื่อรองรับความต้องการที่มีอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้บริษัทได้มีการโรดโชว์ในตลาดต่างประเทศที่มีความต้องการซื้ออสังหาริมทรัพย์ไทย เช่น สิงคโปร์ ไต้หวัน เป็นต้น ซึ่งยังคงเห็นความต้องการซื้ออสังหาริมทรัพย์ในประเทศไทยจากประเทศดังกล่าวอย่างต่อเนื่อง

    โดยกลยุทธ์หลัก ๆ ในช่วงที่เหลือของปีนี้ คือการตอบสนองในเรื่องของความต้องการของลูกค้า และด้วยสภาพเศรษฐกิจต่าง ๆ บริษัทจึงมีการปรับกลยุทธ์ในหลายส่วน ทั้งด้านราคา รวมถึงการออกโปรแกรม "ไซมิส อีซี่ โฮม" (Siamese EASY HOME) เป็นบริการผ่อนชำระตรงกับโครงการ ไม่ต้องยื่นกู้กับธนาคาร และยังมีการตลาดอื่น ๆ ซึ่งหากนักลงทุนมีความสนใจในเรื่องของการลงทุน ทางบริษัทมีโปรแกรมรองรับ และปัจจุบันถือว่าเป็นจังหวะที่ดีในการเข้าลงทุน เพื่อปล่อยเช่าระยะยาวด้วย

    “เราเจอหลายปัญหาเข้ามาตั้งแต่ต้นปี ในช่วงครึ่งปีหลังเราจึงได้มีการปรับแผนการดำเนินงาน เพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์ในปัจจุบัน และคาดว่าผลการดำเนินงานในช่วงครึ่งปีหลังน่าจะคล้าย ๆ กับครึ่งปีแรกที่ผ่านมา โดยยอดขายในปัจจุบันยังคงเป็นไปตามแผนที่บริษัทวางไว้” นายมณเฑียร กล่าว

    นายมณเฑียร กล่าวอีกว่า ปัจจัยบวกในประเทศไทยน่าจะเป็นเรื่องของกลุ่มธุรกิจท่องเที่ยวที่จะเข้าสู่ช่วงไฮซีซั่น ซึ่งเริ่มเห็นการฟื้นตัวที่ดีหลังในช่วงหลังไตรมาส 2/2568 และจะต่อเนื่องไปในกลุ่มธุรกิจอาหาร ซึ่งน่าจะดีขึ้นตามลำดับ ประกอบกับการที่ SA มีธุรกิจในหลากหลายกลุ่ม ซึ่งจะเข้ามาเสริมกับธุรกิจหลักได้ โดย ณ สิ้นไตรมาส 2/2568 สัดส่วนรายได้มาจาก 3 กลุ่มหลัก ได้แก่ 1.กลุ่มอสังหาริมทรัพย์เพื่อขาย มีสัดส่วน 64% ของรายได้รวม, 2.กลุ่มธุรกิจโรงแรม มีสัดส่วน 17% ของรายได้รวม และ 3. กลุ่มธุรกิจอื่น ๆ มีสัดส่วน 19% ของรายได้รวม
ข่าวโครงการอสังหาฯ ภาคเอกชน อื่นๆ