'อีอีซี' ครองใจต่างชาติเลือกตั้งธุรกิจ
Loading

'อีอีซี' ครองใจต่างชาติเลือกตั้งธุรกิจ

วันที่ : 26 กันยายน 2568
กรมพัฒนาธุรกิจการค้าเผย 8 เดือนแรกปี'68 ธุรกิจตั้งใหม่ทะลุ 5.9 หมื่นราย ทุนแตะ 1.94 แสนล้าน ด้านต่างชาติลงทุนไทยกว่า 2.25 แสนล้าน โต 125% 'ญี่ปุ่น-อเมริกา-สิงคโปร์' ติด 3 อันดับแรก เฉพาะพื้นที่ 'อีอีซี' จีนครองที่หนึ่ง
   ยอด8เดือนลงทุน7.5หมื่นล.โต33%

   'บริการเขตดาต้าเซ็นเตอร์'โดดเด่น

    นางอรมน ทรัพย์ทวีธรรม อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า เดือนสิงหาคม 2568 มียอดจัดตั้งธุรกิจใหม่ 7,641 ราย เพิ่มขึ้น 0.55% และมีทุนจดทะเบียนรวม 23,189 ล้านบาท เพิ่ม 31.38% เมื่อเทียบกับเดือนสิงหาคมปีก่อน ส่งผลให้ 8 เดือนแรกปี 2568 มีธุรกิจจดตั้งใหม่ รวม 59,189 ราย ลดลง 4.25% มีทุนจดทะเบียน 194,347 ล้านบาท เพิ่ม 4.24% เทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปี 2567 ซึ่งธุรกิจตั้งใหม่สูงสุด 3 อันดับแรก ได้แก่ ก่อสร้างอาคารทั่วไป อสังหาริมทรัพย์ และภัตตาคาร/ร้านอาหาร ขณะที่จดเลิกประกอบกิจการเดือนสิงหาคม 2568 มี 1,660 ราย ลดลง 19.53% และทุนจดทะเบียนเลิก 12,334 ล้านบาท ลดลง 10.72% เทียบกับเดือนสิงหาคม 2567 ประเภทธุรกิจเลิกสูงสุด 3 อันดับแรก ได้แก่ ก่อสร้างอาคารทั่วไป อสังหาริมทรัพย์ ภัตตาคาร/ร้านอาหาร ส่งผลเลิกกิจการรวม 8 เดือนแรกปี 2568 มี 9,729 ราย ลดลง 2.63% ทุนจดทะเบียนเลิกสะสม 63,033 ล้านบาท ลดลง 36.58% ธุรกิจเลิกกิจการสูงสุด 3 อันดับแรก ได้แก่ ก่อสร้างอาคารทั่วไป อสังหาริมทรัพย์ และภัตตาคาร/ร้านอาหาร

    "สัญญาณการฟ้นตัวและการปรับตัวของธุรกิจพัฒนามากขึ้น สะท้อนจาก 8 เดือนแรก สัดส่วนการตั้งธุรกิจใหม่กับเลิกกิจการอยู่ที่ 6 ต่อ 1 คือตั้งใหม่ 6 ราย และเลิก 1 ราย อีกทั้งจำนวนตั้งใหม่ 59,189 ราย สูงกว่าค่าเฉลี่ย 5 ปีย้อนหลังที่มี 54,746 ราย ถือว่าเป็นไปตามวัฏจักรของการจดทะเบียนธุรกิจ" นางอรมนกล่าว

    นางอรมนกล่าวว่า สำหรับประเภทธุรกิจที่มีอัตราเติบโตเพิ่มขึ้น ช่วง 8 เดือนที่ผ่านมา ใน 3 อันดับแรก คือ ธุรกิจขายส่งสินค้าทั่วไปโดยได้รับค่าตอบแทนหรือตามสัญญาจ้าง เพิ่มขึ้น 368 ราย คิดเป็น 51.18% ธุรกิจโรงแรม รีสอร์ตและห้องชุด เพิ่มขึ้น 305 ราย คิดเป็น 44.79% และธุรกิจขนส่ง ขนถ่ายสินค้า และคนโดยสาร เพิ่มขึ้น 288 ราย คิดเป็น 26.18% ขณะที่ธุรกิจชะลอการจัดตั้งใน 3 อันดับคือ ธุรกิจตัวแทนและนายหน้าอสังหาริมทรัพย์ ลดลง 343 ราย คิดเป็น 27.77% ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ลดลง 1,079 ราย คิดเป็น 22.97% และธุรกิจภัตตาคาร/ร้านอาหาร ลดลง 427 ราย คิดเป็น 15.05%

    นางอรมนกล่าวว่า การอนุญาตให้คนต่างชาติเข้ามาลงทุนประกอบธุรกิจในประเทศไทย ภายใต้พระราชบัญญัติการประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว พ.ศ.2542 ในช่วง 8 เดือนแรก 2568 มี 687 ราย เพิ่มขึ้น 152 ราย หรือ 28% เทียบกับช่วงเวลาเดียวกันปี 2567 และมูลค่าการลงทุนเพิ่มขึ้น 125,474 ล้านบาท หรือ 125% ชาวต่างชาติที่เข้ามาลงทุนประกอบธุรกิจในประเทศไทยสูงสุด 5 อันดับแรก ได้แก่ ญี่ปุ่น สหรัฐ สิงคโปร์ จีน และฮ่องกง ส่วนใหญ่เป็นธุรกิจการค้าระหว่างประเทศ นำเข้าวัตถุดิบและให้บริการในอุตสาหกรรมใหม่ๆ

    นางอรมนกล่าวว่า ช่วง 8 เดือนแรกปี 2568 มีนักลงทุนต่างชาติสนใจลงทุนในพื้นที่ EEC จำนวน 197 ราย คิดเป็น 29% ของนักลงทุนต่างชาติในไทย เพิ่มขึ้น 21% มูลค่าการลงทุนในพื้นที่อีอีซี 74,792 ล้านบาท คิดเป็น 33% ของเงินลงทุนทั้งหมด เป็นนักลงทุนจากจีน ญี่ปุ่น สิงคโปร์ และประเทศอื่นๆ ธุรกิจที่ลงทุน อาทิ ธุรกิจการค้าระหว่างประเทศ อาทิ จัดซื้อสินค้า วัตถุดิบ และชิ้นส่วนสำหรับอุตสาหกรรมต่างๆ ธุรกิจบริการเขต Data Center และธุรกิจบริการรับจ้างผลิตสินค้า

 
ข่าวเขตเศรษฐกิจพิเศษ อื่นๆ