ดีมานด์ต่างชาติหนุนอสังหาฯสมุย คอนโดฯ-วิลล่าโตก้าวกระโดด
วันที่ : 20 ตุลาคม 2568
ฝ่ายวิจัยและการสื่อสาร คอลลิเออร์ส ยังพบว่า ในครึ่งแรกของปี 2568 ภาพรวมตลาดคอนโดฯบนเกาะสมุยยังคงมีความเคลื่อนไหวที่น่าสนใจ โดยปัจจุบันมีโครงการคอนโดฯที่อยู่ระหว่างการขายเพียงแค่ 3 โครงการเท่านั้น ประกอบด้วยยูนิตขายทั้งหมด 876 ยูนิต ด้วยมูลค่าการลงทุนรวมประมาณ 3,661 ล้านบาท ซึ่งส่วนใหญ่อยู่ในทำเลทองอย่างหาดเฉวง-บ่อผุด และหาดละไม ทำให้ยังคงดึงดูดทั้งนักลงทุนและนักท่องเที่ยวได้อย่างต่อเนื่อง
จับตายุโรป-รัสเซีย-อิสราเอลแห่ซื้อลงทุน
ล่าสุด ฝ่ายวิจัยและการสื่อสาร คอลลิเออร์ส ประเทศไทย เปิดเผยว่า ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา มีโครงการคอนโดฯใหม่กว่า 2-3 โครงการใหญ่เปิดตัวบนเกาะสมุยด้วยยูนิตขายรวมกว่า 360 ยูนิต และ บ้านพักตากอากาศที่เปิดขายใหม่มากกว่า 400 ยูนิต โดยเฉพาะบ้านพักตากอากาศคาดการณ์ว่าในปี พ.ศ. 2568 นี้จะเป็นปีที่มีอุปทาน บ้านพักตากอากาศเปิดขายใหม่สูงที่สุดในรอบ 15 ปี สำหรับพื้นที่ ยอดนิยมยังคงเป็นพื้นที่ย่าน บ่อผุด, แม่น้ำ, เฉวง , เชิงมน และละไมเป็นต้น
ตลาดอสังหาฯ สมุย ไม่ใช่เพียงแหล่งท่องเที่ยว แต่เป็นตลาดลงทุนที่มีศักยภาพสูง นักลงทุนทั้งไทยและต่างชาติต่างให้ความสนใจโดยเฉพาะนักลงทุนจาก ยุโรป, รัสเซีย, ฝรั่งเศส, ออสเตรเลีย, จีน และอิสราเอล ซึ่งการเลือกซื้อยูนิตในทำเลคุณภาพไม่เพียงตอบโจทย์การพักผ่อน แต่ยังสามารถสร้าง ผลตอบแทนระยะยาว จากการปล่อยเช่าหรือการขายต่อได้ ส่งผลให้ตลาดคอนโดมิเนียมและบ้านพักตากอากาศในพื้นที่สมุยกลายเป็นหนึ่งในแหล่งลงทุนที่น่าสนใจที่สุดของประเทศไทยในปัจจุบัน เนื่องจากราคาขายที่ค่อนข้างถูกเมื่อเทียบกับราคาอสังหาฯในพื้นที่เมืองท่องเที่ยวอื่นๆ ของประเทศ และคาดว่าความร้อนแรงของตลาดจะยังคงต่อเนื่องในปีต่อๆ ไป
เนื่องจากพบว่า ผู้พัฒนารายใหญ่หลายรายมองเห็นศักยภาพและโอกาสการลงทุน เตรียมความพร้อมสำหรับการเปิดตัวโครงการใหม่ในพื้นที่เกาะสมุย เช่น บมจ. ศุภาลัย ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำของประเทศไทย เตรียมเปิดตัวโครงการบ้านพักตากอากาศสุดหรูบนเกาะสมุย ตอบโจทย์นักลงทุนและผู้ที่มองหาบ้านพักผ่อนติดชายหาดในทำเลทองของเกาะสมุยในราคา 17.59-26.59 ล้านบาทต่อยูนิต จำนวน 8 ยูนิต
นอกจากนี้ ฝ่ายวิจัยและการสื่อสาร คอลลิเออร์ส ยังพบว่า ในครึ่งแรกของปี 2568 ภาพรวมตลาดคอนโดฯบนเกาะสมุยยังคงมีความเคลื่อนไหวที่น่าสนใจ โดยปัจจุบันมีโครงการคอนโดฯที่อยู่ระหว่างการขายเพียงแค่ 3 โครงการเท่านั้น ประกอบด้วยยูนิตขายทั้งหมด 876 ยูนิต ด้วยมูลค่าการลงทุนรวมประมาณ 3,661 ล้านบาท ซึ่งส่วนใหญ่อยู่ในทำเลทองอย่างหาดเฉวง-บ่อผุด และหาดละไม ทำให้ยังคงดึงดูดทั้งนักลงทุนและนักท่องเที่ยวได้อย่างต่อเนื่อง
สำหรับในช่วงครึ่งแรกของปีที่ผ่านมาพบว่าในพื้นที่เกาะสมุย มีการเปิดตัวโครงการคอนโดฯใหม่เพียง 1 โครงการเท่านั้น ในพื้นที่ บ่อผุด ซึ่งพัฒนาโดยผู้พัฒนาจีน ประกอบด้วยยูนิตขายทั้งหมด 218 ยูนิต ซึ่งโครงการดังกล่าวได้รับความสนใจจากผู้ซื้อเป็นอย่างมาก โดยมียอดขายแล้วกว่า 72.93% ของยูนิตทั้งหมดและพบว่ามีกำลัง ซื้อต่างชาติเหมาซื้อบางอาคาร นอกจากนี้ยังมีโครงการคอนโดฯ บางโครงการที่สามารถขายหมดภายในเวลาเพียง 9 เดือนหลังการ เปิดตัว สะท้อนถึงความร้อนแรงของตลาดและความต้องการที่อยู่อาศัยบนเกาะสมุย
ส่วนในช่วงครึ่งหลังของปี 2568 คอลลิเออร์สฯ คาดว่าอาจมีโครงการคอนโดฯ ใหม่อีกประมาณ 2 โครงการเข้าสู่ตลาด ส่งผลให้ในปี 2568 อาจมีคอนโดมิเนียมเปิดขายใหม่รวมตลอดปีสูงถึง 276 ยูนิต ทั้งนี้ แม้ว่าราคาคอนโดฯส่วนใหญ่จะอยู่ในช่วงราคาตารางเมตรละ 60,000-80,000 บาท แต่พบว่าราคาขายเฉลี่ยยังคงปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยบางโครงการมีราคาสูงกว่า 200,000 บาทต่อตารางเมตร ซึ่งสะท้อนถึงความต้องการและศักยภาพการลงทุนในตลาดที่เติบโตอย่างมั่นคง และพบว่าตลาดคอนโดฯ ในเกาะสมุยยังคงได้รับความสนใจจากนักลงทุนต่างชาติ โดยเฉพาะนักลงทุนยุโรป, รัสเซีย,ฝรั่งเศส, ออสเตรเลีย, จีน และ อิสราเอล ซึ่งกำลังซื้อต่างชาติเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ตลาดคอนโดฯบนเกาะสมุยยังคงคึกคัก และมี แนวโน้มเติบโตต่อเนื่อง
ฝ่ายวิจัยและการสื่อสาร คอลลิเออร์สฯ ยังระบุอีกว่า ตลาดเกาะสมุยยังคงได้รับความสนใจจากนักลงทุนต่างชาติเป็นอย่างมากในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา ซึ่งกลายเป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยกระตุ้นให้ ตลาดคอนโดมิเนียมคึกคักต่อเนื่อง ด้วยการตอบสนองต่อทั้งกลุ่ม นักท่องเที่ยวที่ต้องการบ้านพักตากอากาศและนักลงทุนที่มองหากำไรจากการปล่อยเช่า นอกจากตัวเลขยอดขายและราคาที่เพิ่มขึ้นแล้ว เกาะสมุยยังมีเสน่ห์ด้านทำเล และไลฟ์สไตล์ ที่ช่วยดึงดูดกลุ่มผู้ซื้อระดับบน ทั้งทำเลติดชายหาดที่สวยงาม การเดินทางสะดวก และความพร้อมของสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน ทั้งร้านอาหาร บาร์ คาเฟ่ และกิจกรรมทางน้ำ ทำให้ตลาดคอนโดฯเกาะสมุยไม่ใช่เพียงแค่ตลาดอสังหาฯ แต่ยังเป็นจุดหมายปลายทางของนักลงทุนระดับโลก สำหรับนักลงทุนและผู้ที่กำลังมองหา อสังหาฯเพื่อการพักผ่อนหรือสร้าง ผลตอบแทนระยะยาว ตลาดคอนโดฯเกาะสมุยยังคง เป็นโอกาสที่ น่าจับตามอง เพราะการเติบโตของราคาขาย และความต้องการจากทั้งนักท่องเที่ยวและนักลงทุนต่างชาติ ยังคงสร้างแรงดึงดูด และมูลค่าการลงทุนที่มั่นคง
โดยช่วงครึ่งแรกของปี 2568 ภาพรวมตลาดคอนโดฯบน เกาะสมุยมีซัปพลายรวมทั้งหมด 876 ยูนิต ขายไปแล้วทั้งหมดประมาณ 699 ยูนิต คิดเป็น 79.79% ของยูนิตทั้งหมด เหลือยูนิตรอการขายทั้งหมด 177 ยูนิต หรือคิดเป็น 20.21% ของอุปทานรวม ซึ่งอัตราการขายปรับตัวเพิ่มขึ้น 4.40% เมื่อเทียบกับครึ่งหลังของปีที่ผ่านมา โครงการคอนโดฯที่เปิดตัวล่าสุดได้รับความสนใจสูงจากทั้งผู้ซื้อไทย และ ต่างชาติส่งผลให้หลายโครงการมียอดขายสูง และยังพบว่าผู้พัฒนาโครงการหลายรายกำลังเตรียมเปิดเฟสเพิ่มเติมเพื่อตอบสนองความต้องการที่ยังคงแข็งแกร่งและจับกระแสตลาดที่เป็นบวก
สำหรับลูกค้าที่ซื้อคอนโดฯในเกาะสมุยประมาณ 10-15% เป็นผู้ซื้อคนไทย ส่วนใหญ่เป็นผู้ประกอบอาชีพอิสระและเจ้าของธุรกิจ ท้องถิ่น ขณะที่ผู้ซื้อต่างชาติคิดเป็น 85-90% ของความต้องการทั้งหมดโดยมากกว่า 50% ของความต้องการมาจากนักลงทุนชาวยุโรป รองลงมา คือ ความสนใจจากรัสเซีย อิสราเอล จีน ออสเตรเลีย สาธารณรัฐเช็ก และฝรั่งเศส การเคลื่อนไหวของตลาดคอนโดมิเนียมบนเกาะสมุยสะท้อนถึงศักยภาพการลงทุนสูง ทั้งจากทำเลติดชายหาด การเข้าถึงแหล่งท่องเที่ยวสำคัญ และความสนใจของนักลงทุนต่างชาติอย่างต่อเนื่อง
ทั้งนี้ เกาะสมุยยังคงเป็นจุดหมายปลายทางอันดับต้นๆ สำหรับบ้านพักตากอากาศและการลงทุนอสังหาฯระดับบน โดย ณ สิ้นครึ่งแรกของปี 2568 พบว่า ตลาดบ้านพักตากอากาศในพื้นที่เกาะสมุยมีอุปทานที่อยู่ระหว่างการขายทั้งหมด 52 โครงการรวม 597 ยูนิต มูลค่าการลงทุนรวมกว่า 14,800 ล้านบาท ซึ่งปรับตัวเพิ่มขึ้น 63.56% เมื่อเทียบกับครึ่งหลังของปีก่อน ซัปพลายส่วนใหญ่ตั้งอยู่ในพื้นที่ใกล้หาดสำคัญๆ ของเกาะ เช่น แม่น้ำ, หาดเฉวง-บ่อผุด และหาดละไม เป็นต้น
โดยทำให้อสังหาฯสมุยยังคงดึงดูดนักลงทุนและนักท่องเที่ยวได้ต่อเนื่อง โดยพบว่าในช่วงครึ่งแรกของปี 2568 ที่ผ่านมามีโครงการบ้านพักตากอากาศใหม่เปิดตัวใหม่มากถึง 18 โครงการ รวม 179 ยูนิตหลายโครงการยังคงสร้างความแตกต่างด้วยรูปแบบยูนิตและขนาดห้องที่หลากหลาย เพื่อตอบสนองความต้องการผู้ซื้อทุกรูปแบบ ส่งผลให้ตลาดวิลล่าบนเกาะสมุยมีสีสันและความมีชีวิตชีวา และสะท้อนถึงความมั่นใจของนักลงทุน แม้เศรษฐกิจโลกมีความไม่แน่นอน
ทั้งนี้ คอลลิเออร์สฯ คาดการณ์ว่า ในช่วงครึ่งหลังของปี 2568 อาจมีโครงการบ้านพักตากอากาศใหม่อีกมากกว่า 15 โครงการ หรือกว่า 120 ยูนิต ส่งผลให้จำนวนยูนิตใหม่รวมทั้งปีอาจสูงกว่า 330 ยูนิตสะท้อนถึงการเติบโตแบบก้าวกระโดดของตลาดบ้านพักตากอากาศเกาะสมุย ที่น่าสนใจคือพบว่ามีโครงการบ้านพักตากอากาศที่เสนอขายแบบ Leasehold บางแห่งสามารถขายทั้งโครงการ 46 ยูนิตภายในเวลาเพียง 2 เดือนหลังจากการเปิดขายเท่านั้น ซึ่งชี้ให้เห็นถึงศักยภาพและความร้อนแรงของตลาด ความต้องการจากนักลงทุนต่างชาติ โดยเฉพาะยุโรป รัสเซีย และจีน ยังคงเป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญ ทำให้เกาะสมุยเป็นทำเลลงทุนที่ไม่ควรมองข้าม
ล่าสุด ฝ่ายวิจัยและการสื่อสาร คอลลิเออร์ส ประเทศไทย เปิดเผยว่า ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา มีโครงการคอนโดฯใหม่กว่า 2-3 โครงการใหญ่เปิดตัวบนเกาะสมุยด้วยยูนิตขายรวมกว่า 360 ยูนิต และ บ้านพักตากอากาศที่เปิดขายใหม่มากกว่า 400 ยูนิต โดยเฉพาะบ้านพักตากอากาศคาดการณ์ว่าในปี พ.ศ. 2568 นี้จะเป็นปีที่มีอุปทาน บ้านพักตากอากาศเปิดขายใหม่สูงที่สุดในรอบ 15 ปี สำหรับพื้นที่ ยอดนิยมยังคงเป็นพื้นที่ย่าน บ่อผุด, แม่น้ำ, เฉวง , เชิงมน และละไมเป็นต้น
ตลาดอสังหาฯ สมุย ไม่ใช่เพียงแหล่งท่องเที่ยว แต่เป็นตลาดลงทุนที่มีศักยภาพสูง นักลงทุนทั้งไทยและต่างชาติต่างให้ความสนใจโดยเฉพาะนักลงทุนจาก ยุโรป, รัสเซีย, ฝรั่งเศส, ออสเตรเลีย, จีน และอิสราเอล ซึ่งการเลือกซื้อยูนิตในทำเลคุณภาพไม่เพียงตอบโจทย์การพักผ่อน แต่ยังสามารถสร้าง ผลตอบแทนระยะยาว จากการปล่อยเช่าหรือการขายต่อได้ ส่งผลให้ตลาดคอนโดมิเนียมและบ้านพักตากอากาศในพื้นที่สมุยกลายเป็นหนึ่งในแหล่งลงทุนที่น่าสนใจที่สุดของประเทศไทยในปัจจุบัน เนื่องจากราคาขายที่ค่อนข้างถูกเมื่อเทียบกับราคาอสังหาฯในพื้นที่เมืองท่องเที่ยวอื่นๆ ของประเทศ และคาดว่าความร้อนแรงของตลาดจะยังคงต่อเนื่องในปีต่อๆ ไป
เนื่องจากพบว่า ผู้พัฒนารายใหญ่หลายรายมองเห็นศักยภาพและโอกาสการลงทุน เตรียมความพร้อมสำหรับการเปิดตัวโครงการใหม่ในพื้นที่เกาะสมุย เช่น บมจ. ศุภาลัย ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำของประเทศไทย เตรียมเปิดตัวโครงการบ้านพักตากอากาศสุดหรูบนเกาะสมุย ตอบโจทย์นักลงทุนและผู้ที่มองหาบ้านพักผ่อนติดชายหาดในทำเลทองของเกาะสมุยในราคา 17.59-26.59 ล้านบาทต่อยูนิต จำนวน 8 ยูนิต
นอกจากนี้ ฝ่ายวิจัยและการสื่อสาร คอลลิเออร์ส ยังพบว่า ในครึ่งแรกของปี 2568 ภาพรวมตลาดคอนโดฯบนเกาะสมุยยังคงมีความเคลื่อนไหวที่น่าสนใจ โดยปัจจุบันมีโครงการคอนโดฯที่อยู่ระหว่างการขายเพียงแค่ 3 โครงการเท่านั้น ประกอบด้วยยูนิตขายทั้งหมด 876 ยูนิต ด้วยมูลค่าการลงทุนรวมประมาณ 3,661 ล้านบาท ซึ่งส่วนใหญ่อยู่ในทำเลทองอย่างหาดเฉวง-บ่อผุด และหาดละไม ทำให้ยังคงดึงดูดทั้งนักลงทุนและนักท่องเที่ยวได้อย่างต่อเนื่อง
สำหรับในช่วงครึ่งแรกของปีที่ผ่านมาพบว่าในพื้นที่เกาะสมุย มีการเปิดตัวโครงการคอนโดฯใหม่เพียง 1 โครงการเท่านั้น ในพื้นที่ บ่อผุด ซึ่งพัฒนาโดยผู้พัฒนาจีน ประกอบด้วยยูนิตขายทั้งหมด 218 ยูนิต ซึ่งโครงการดังกล่าวได้รับความสนใจจากผู้ซื้อเป็นอย่างมาก โดยมียอดขายแล้วกว่า 72.93% ของยูนิตทั้งหมดและพบว่ามีกำลัง ซื้อต่างชาติเหมาซื้อบางอาคาร นอกจากนี้ยังมีโครงการคอนโดฯ บางโครงการที่สามารถขายหมดภายในเวลาเพียง 9 เดือนหลังการ เปิดตัว สะท้อนถึงความร้อนแรงของตลาดและความต้องการที่อยู่อาศัยบนเกาะสมุย
ส่วนในช่วงครึ่งหลังของปี 2568 คอลลิเออร์สฯ คาดว่าอาจมีโครงการคอนโดฯ ใหม่อีกประมาณ 2 โครงการเข้าสู่ตลาด ส่งผลให้ในปี 2568 อาจมีคอนโดมิเนียมเปิดขายใหม่รวมตลอดปีสูงถึง 276 ยูนิต ทั้งนี้ แม้ว่าราคาคอนโดฯส่วนใหญ่จะอยู่ในช่วงราคาตารางเมตรละ 60,000-80,000 บาท แต่พบว่าราคาขายเฉลี่ยยังคงปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยบางโครงการมีราคาสูงกว่า 200,000 บาทต่อตารางเมตร ซึ่งสะท้อนถึงความต้องการและศักยภาพการลงทุนในตลาดที่เติบโตอย่างมั่นคง และพบว่าตลาดคอนโดฯ ในเกาะสมุยยังคงได้รับความสนใจจากนักลงทุนต่างชาติ โดยเฉพาะนักลงทุนยุโรป, รัสเซีย,ฝรั่งเศส, ออสเตรเลีย, จีน และ อิสราเอล ซึ่งกำลังซื้อต่างชาติเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ตลาดคอนโดฯบนเกาะสมุยยังคงคึกคัก และมี แนวโน้มเติบโตต่อเนื่อง
ฝ่ายวิจัยและการสื่อสาร คอลลิเออร์สฯ ยังระบุอีกว่า ตลาดเกาะสมุยยังคงได้รับความสนใจจากนักลงทุนต่างชาติเป็นอย่างมากในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา ซึ่งกลายเป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยกระตุ้นให้ ตลาดคอนโดมิเนียมคึกคักต่อเนื่อง ด้วยการตอบสนองต่อทั้งกลุ่ม นักท่องเที่ยวที่ต้องการบ้านพักตากอากาศและนักลงทุนที่มองหากำไรจากการปล่อยเช่า นอกจากตัวเลขยอดขายและราคาที่เพิ่มขึ้นแล้ว เกาะสมุยยังมีเสน่ห์ด้านทำเล และไลฟ์สไตล์ ที่ช่วยดึงดูดกลุ่มผู้ซื้อระดับบน ทั้งทำเลติดชายหาดที่สวยงาม การเดินทางสะดวก และความพร้อมของสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน ทั้งร้านอาหาร บาร์ คาเฟ่ และกิจกรรมทางน้ำ ทำให้ตลาดคอนโดฯเกาะสมุยไม่ใช่เพียงแค่ตลาดอสังหาฯ แต่ยังเป็นจุดหมายปลายทางของนักลงทุนระดับโลก สำหรับนักลงทุนและผู้ที่กำลังมองหา อสังหาฯเพื่อการพักผ่อนหรือสร้าง ผลตอบแทนระยะยาว ตลาดคอนโดฯเกาะสมุยยังคง เป็นโอกาสที่ น่าจับตามอง เพราะการเติบโตของราคาขาย และความต้องการจากทั้งนักท่องเที่ยวและนักลงทุนต่างชาติ ยังคงสร้างแรงดึงดูด และมูลค่าการลงทุนที่มั่นคง
โดยช่วงครึ่งแรกของปี 2568 ภาพรวมตลาดคอนโดฯบน เกาะสมุยมีซัปพลายรวมทั้งหมด 876 ยูนิต ขายไปแล้วทั้งหมดประมาณ 699 ยูนิต คิดเป็น 79.79% ของยูนิตทั้งหมด เหลือยูนิตรอการขายทั้งหมด 177 ยูนิต หรือคิดเป็น 20.21% ของอุปทานรวม ซึ่งอัตราการขายปรับตัวเพิ่มขึ้น 4.40% เมื่อเทียบกับครึ่งหลังของปีที่ผ่านมา โครงการคอนโดฯที่เปิดตัวล่าสุดได้รับความสนใจสูงจากทั้งผู้ซื้อไทย และ ต่างชาติส่งผลให้หลายโครงการมียอดขายสูง และยังพบว่าผู้พัฒนาโครงการหลายรายกำลังเตรียมเปิดเฟสเพิ่มเติมเพื่อตอบสนองความต้องการที่ยังคงแข็งแกร่งและจับกระแสตลาดที่เป็นบวก
สำหรับลูกค้าที่ซื้อคอนโดฯในเกาะสมุยประมาณ 10-15% เป็นผู้ซื้อคนไทย ส่วนใหญ่เป็นผู้ประกอบอาชีพอิสระและเจ้าของธุรกิจ ท้องถิ่น ขณะที่ผู้ซื้อต่างชาติคิดเป็น 85-90% ของความต้องการทั้งหมดโดยมากกว่า 50% ของความต้องการมาจากนักลงทุนชาวยุโรป รองลงมา คือ ความสนใจจากรัสเซีย อิสราเอล จีน ออสเตรเลีย สาธารณรัฐเช็ก และฝรั่งเศส การเคลื่อนไหวของตลาดคอนโดมิเนียมบนเกาะสมุยสะท้อนถึงศักยภาพการลงทุนสูง ทั้งจากทำเลติดชายหาด การเข้าถึงแหล่งท่องเที่ยวสำคัญ และความสนใจของนักลงทุนต่างชาติอย่างต่อเนื่อง
ทั้งนี้ เกาะสมุยยังคงเป็นจุดหมายปลายทางอันดับต้นๆ สำหรับบ้านพักตากอากาศและการลงทุนอสังหาฯระดับบน โดย ณ สิ้นครึ่งแรกของปี 2568 พบว่า ตลาดบ้านพักตากอากาศในพื้นที่เกาะสมุยมีอุปทานที่อยู่ระหว่างการขายทั้งหมด 52 โครงการรวม 597 ยูนิต มูลค่าการลงทุนรวมกว่า 14,800 ล้านบาท ซึ่งปรับตัวเพิ่มขึ้น 63.56% เมื่อเทียบกับครึ่งหลังของปีก่อน ซัปพลายส่วนใหญ่ตั้งอยู่ในพื้นที่ใกล้หาดสำคัญๆ ของเกาะ เช่น แม่น้ำ, หาดเฉวง-บ่อผุด และหาดละไม เป็นต้น
โดยทำให้อสังหาฯสมุยยังคงดึงดูดนักลงทุนและนักท่องเที่ยวได้ต่อเนื่อง โดยพบว่าในช่วงครึ่งแรกของปี 2568 ที่ผ่านมามีโครงการบ้านพักตากอากาศใหม่เปิดตัวใหม่มากถึง 18 โครงการ รวม 179 ยูนิตหลายโครงการยังคงสร้างความแตกต่างด้วยรูปแบบยูนิตและขนาดห้องที่หลากหลาย เพื่อตอบสนองความต้องการผู้ซื้อทุกรูปแบบ ส่งผลให้ตลาดวิลล่าบนเกาะสมุยมีสีสันและความมีชีวิตชีวา และสะท้อนถึงความมั่นใจของนักลงทุน แม้เศรษฐกิจโลกมีความไม่แน่นอน
ทั้งนี้ คอลลิเออร์สฯ คาดการณ์ว่า ในช่วงครึ่งหลังของปี 2568 อาจมีโครงการบ้านพักตากอากาศใหม่อีกมากกว่า 15 โครงการ หรือกว่า 120 ยูนิต ส่งผลให้จำนวนยูนิตใหม่รวมทั้งปีอาจสูงกว่า 330 ยูนิตสะท้อนถึงการเติบโตแบบก้าวกระโดดของตลาดบ้านพักตากอากาศเกาะสมุย ที่น่าสนใจคือพบว่ามีโครงการบ้านพักตากอากาศที่เสนอขายแบบ Leasehold บางแห่งสามารถขายทั้งโครงการ 46 ยูนิตภายในเวลาเพียง 2 เดือนหลังจากการเปิดขายเท่านั้น ซึ่งชี้ให้เห็นถึงศักยภาพและความร้อนแรงของตลาด ความต้องการจากนักลงทุนต่างชาติ โดยเฉพาะยุโรป รัสเซีย และจีน ยังคงเป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญ ทำให้เกาะสมุยเป็นทำเลลงทุนที่ไม่ควรมองข้าม
ข่าวโครงการอสังหาฯ ภาคเอกชน อื่นๆ