ภายหลังจากแผนแม่บทการพัฒนาที่อยู่อาศัยระยะ 20 ปี (2560-2579) ที่ต้องการให้ประชาชนที่ไม่มีกรรมสิทธิ์ในที่อยู่อาศัยประมาณ 2.27 ล้านครัวเรือน ได้เข้าถึงการบริการที่พักอาศัย พร้อมกับการมีคุณภาพชีวิต สร้างรายได้ที่แน่นอน ซึ่งจะดำเนินการควบคู่ไปกับ"แผนยุทธศาสตร์การพัฒนาที่อยู่อาศัยระยะ10ปี (2559-2568)" ของการเคหะแห่งชาติ(กคช.) เพื่อตอบโจทย์ให้คนมีรายได้น้อยเข้าถึงสวัสดิการรัฐ

ธัชพล กาญจนกูล ผู้ว่าการเคหะแห่งชาติ (กคช.) เปิดเผยว่า ตามแผนยุทธศาสตร์ดังกล่าว มีเป้าหมายสร้างที่พักอาศัยให้ผู้มีรายได้น้อย 2 ล้านหน่วย โดยเฉลี่ยปีละ 1 แสนหน่วย ซึ่งปัจจุบันยังพัฒนาได้ปีละ 4-5 หมื่นหน่วย แต่เมื่อรวมยอดพัฒนาโครงการ สะสมตั้งแต่ดำเนินการมาจนถึงสิ้นปี 2561 พัฒนาโครงการแล้วกว่า 730,0000 หน่วย

ทั้งนี้เพื่อให้การพัฒนาที่อยู่อาศัยเป็นไปตามเป้าหมายอย่างรวดเร็ว กคช.จึงมีแผนดำเนินการใน 3 รูปแบบ ประกอบด้วยรูปแบบที่1  กคช.พัฒนาโครงการเอง ที่จะพัฒนาโครงการเฉลี่ยปีละ 40 -50 โครงการ รูปแบบที่ 2  เปิดโอกาสให้เอกชนเข้ามาร่วมลงทุน ตามพรบ.การให้เอกชนร่วมลงทุนในกิจการของรัฐ (PPP) ซึ่งจะส่งผลให้โครงการเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับที่กคช.ทำเอง อีกปีละ 40-50โครงการ เป็นปีละ 100 โครงการ

รูปแบบที่ 3 กคช.เข้าไปสนับสนุนทางด้านต่างๆทำหน้าที่เป็นพี่เลี้ยงให้กับภาคเอกชน เช่น เป็นที่ปรึกษาด้านการศึกษาความเป็นไปได้ของโครงการ การบริหารจัดการ ก่อสร้าง ประงานกับสถาบันการเงินของภาครัฐ เช่น ธนาคารออมสิน ธนาคารกรุงไทย และธนาคารอาคารสงเคราะห์ ซึ่งจะ ลงนามความตกลงกับธนาคารกรุงไทยเดือน ก.ย.2561

โครงการขนาดใหญ่ที่ประเมินว่า จะเปิดให้เอกชนร่วมทุน มี 5 โครงการ มูลค่ารวมกว่า 1 แสนล้านบาท ประกอบด้วย1.โครงการการเคหะดินแดง รวมมูลค่าโครงการ 30,000 ล้านบาท 2.โครงการ ร่มเกล้าคอนเน็คชั่น บนเนื้อที่ 128 ไร่ มูลค่า 25,000 ล้านบาท เป็นโครงการผสมผสาน หรือมิกซ์ยูส (Mixed -Use) ที่มีห้างสรรพสินค้า คอมมูนิตี้มอลล์ โรงพยาบาล

3.โครงการเคหะชุมชนหนองหอยจ.เชียงใหม่ เนื้อที่ 53 ไร่ มูลค่าโครงการ 5,000 ล้านบาท รูปแบบการพัฒนามิกซ์ยูส โดยมีโซนที่พักผู้สูงอายุ และโซนศูนย์การค้า ตลอดจนโรงพยาบาล ศูนย์ดูแลสุขภาพ

โดย 3โครงการดังกล่าว คาดว่าจะนำเสนอครม.พิจารณาภายในปีนี้ เพื่อที่จะเริ่มดำเนินโครงการได้ในปี 2562

            สำหรับโครงการที่ 4.โครงการบ้านสวัสดิการข้าราชการ อ.ลำลูกกา (คลอง11) จ.ปทุมธานี พื้นที่ 118 ไร่ เป็นโครงการจัดสร้างที่อยู่อาศัยสวัสดิการข้าราชการและโครงการเชิงพาณิชยกรรม และโครงการสุดท้ายคือ โครงการบ้านสวัสดิการข้าราชการอ.บางเสาธง จ.สมุทรปราการ พื้นที่ 136 ไร่ ลักษณะโครงการจะดำเนินการจัดสร้างที่อยู่อาศัยสวัสดิการข้าราชการและโครงการเชิงพาณิชยกรรม โดยโครงการที่ 4 และ5 จะทยอย เข้าสู่การพิจารณาของครม.ในปี 2562

"ขณะนี้ยังคงมีภาคเอกชนอสังหาฯ ทั้งไทยและต่างประเทศ กว่า 10 รายสนใจ ที่จะร่วมพัฒนาโครงการร่วมกับกคช."

ผู้ว่าการกคช.ยังระบุว่า มีแผนจะพัฒนาตลาดบริเวณที่อยู่อาศัยของกคช. ที่มีศักยภาพกว่า 90 แห่ง คาดว่าจะทำให้เศรษฐกิจหมุนเวียนในพื้นที่ไม่ต่ำกว่า 1,000 ล้านบาท นอกจากนี้ยังเตรียมเปิดตัวที่พักอาศัยตามแนวรถไฟฟ้า 3,000หน่วยต่อปี โดยขณะนี้อยู่ระหว่างหาพื้นที่

ล่าสุดกคช.จะนำเสนอโครงการพิเศษ"NHA Home for Sale บ้านการเคหะฯ เพื่อคนไทย" ที่นำโครงการที่อยู่อาศัย ทั่วประเทศของกคช.จำนวนกว่า 200 โครงการ จำนวน 16,713 หน่วย จากทั่วประเทศที่กระจายอยู่ในทุกภาคมาขาย ระหว่างวันที่ 31 ส.ค.-2 ก.ย.นี้ ที่สำนักงานใหญ่กคช. คาดว่า จะมียอดขายเกินกว่า 80% โดยส่งเสริม การขาย (โปรโมชั่น) 5 สิทธิพิเศษ ประกอบด้วย 1.ลดราคาบ้านเอื้ออาทรพิเศษสุด 35 โครงการ ในราคาเริ่มต้นเพียง  250,000 บาท และผ่อนเพียง 1,300 บาท ต่อเดือน

2.จองเริ่มต้นเพียง 3,000 บาท 3.ฟรี ค่าธรรมเนียมการโอนกรรมสิทธิ์ทุกโครงการ 4.ฟรีมุ้งลวดเหล็ก สำหรับอาคารชุดโครงการบ้านเอื้ออาทรทุกโครงการ และ 5.กู้ได้สูงสุด 100% หรือผ่อนบ้านกับการเคหะฯ ในอัตราดอกเบี้ยพิเศษสุด เพียง 3 วันเท่านั้น สำหรับลูกค้าจองภายในงาน

กคช.ยังขยายการสนับสนุนให้ผู้มี รายได้น้อยไม่สามารถขอสินเชื่อกับธนาคาร ก็มีโอกาสมีบ้านเป็นของตนเองด้วยการผ่อนบ้านกับกคช.ในอัตราดอกเบี้ยพิเศษโดยเฉพาะลูกค้ากลุ่มประกอบอาชีพอิสระผู้ที่มีความเสี่ยงสูง เช่น ไม่มีStatement เป็นต้น

ให้ผู้มีรายได้น้อยที่ไม่สามารถขอสินเชื่อกับธนาคาร มีบ้านเป็นของตนเองด้วยการผ่อนบ้านกับกคช.ในอัตราดอกเบี้ยพิเศษ