รายงานสถานการณ์การโอนกรรมสิทธิ์ห้องชุดของคนต่างชาติ ไตรมาส 2 และในช่วง 6 เดือนแรก ปี 2567 (มกราคม - มิถุนายน)
วันที่ : 19 กันยายน 2567
สถานการณ์การโอนกรรมสิทธิ์ห้องชุดของคนต่างชาติทั่วประเทศ ในไตรมาส 2 ปี 2567 พบว่า มีจำนวน 3,342 หน่วย ลดลงร้อยละ -6.2 มูลค่า 14,874 ล้านบาท ลดลงร้อยละ -17.7 โดยพื้นที่โอนกรรมสิทธิ์ห้องชุดมีจำนวน 152,219 ตารางเมตร ลดลงร้อยละ -8.5 เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน
ศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (REIC) รายงานในครึ่งแรกปี 2567 ทางภาครัฐได้เห็นถึงโอกาสและแนวทางที่จะนำกำลังซื้อจากชาวต่างชาติเข้ามาทดแทนกำลังซื้อที่อ่อนแอของคนไทย และยังเป็นการช่วยกระตุ้นตลาดอสังหาริมทรัพย์และเศรษฐกิจในระดับมหภาคของประเทศ รวมถึงดึงดูดนักลงทุนขนาดใหญ่ให้เข้ามาลงทุนในประเทศไทยอีกด้วย โดยขณะนี้อยู่ระหว่างการศึกษาความเป็นไปได้ของมาตรการที่จะส่งเสริมการเข้ามาทำงานของชาวต่างชาติที่มีศักยภาพ ทั้งในส่วนของอาคารชุดที่เน้นการเพิ่มสัดส่วนการถือครองกรรมสิทธิ์ห้องชุดของคนต่างชาติเป็นร้อยละ 75 ของพื้นที่กรรมสิทธิ์ รวมถึงความเป็นไปได้ในการเปิดโอกาสให้ชาวต่างชาติสามารถเช่าอสังหาริมทรัพย์ในประเทศไทยระยะยาวได้ถึง 99 ปี
ดร.วิชัย วิรัตกพันธ์ ผู้ตรวจการธนาคารอาคารสงเคราะห์ และรักษาการผู้อำนวยการศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ เปิดเผยว่า สำหรับสถานการณ์การโอนกรรมสิทธิ์ห้องชุดของคนต่างชาติทั่วประเทศ ในไตรมาส 2 ปี 2567 พบว่า มีจำนวน 3,342 หน่วย ลดลงร้อยละ -6.2 มูลค่า 14,874 ล้านบาท ลดลงร้อยละ -17.7 โดยพื้นที่โอนกรรมสิทธิ์ห้องชุดมีจำนวน 152,219 ตารางเมตร ลดลงร้อยละ -8.5 เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน นอกจากนี้ สัดส่วนของหน่วยและมูลค่าการโอนกรรมสิทธิ์ห้องชุดของคนต่างชาติต่อภาพรวมได้ปรับตัวลดลงเหลือร้อยละ 11.8 และ 21.1 ตามลำดับ โดยปรับลดลงจากไตรมาส 2 ปี 2566 ที่มีสัดส่วนหน่วยและมูลค่าการโอนฯ อยู่ที่ ร้อยละ 13.6 และ 24.6 ตามลำดับ หากพิจารณาลงไปในแต่ละพื้นที่จังหวัด พบว่า หน่วยการโอนกรรมสิทธิ์ห้องชุดของคนต่างชาติในจังหวัดชลบุรีมีสัดส่วนมากเป็นอันดับ 1 สัดส่วนร้อยละ 38.4 ขณะที่กรุงเทพมหานครเป็นอันดับ 2 มีสัดส่วนร้อยละ 36.4 และหากนับรวมทั้ง 2 จังหวัดรวมกันมีสัดส่วนจำนวนหน่วยรวมกันถึงร้อยละ 74.8 และมีมูลค่ารวมกันสูงถึงร้อยละ 80.3 ของการโอนกรรมสิทธิ์ห้องชุดของคนต่างชาติทั่วประเทศ ทั้งนี้มีข้อสังเกตว่า ชลบุรีได้ขยับขึ้นมาเป็นอันดับ 1 ตั้งแต่ปี 2566 ซึ่งมีความแตกต่างจากช่วงปี 2565 ที่กรุงเทพมหานครเคยเป็นจังหวัดที่มียอดโอนกรรมสิทธิ์ของคนต่างชาติมาเป็นอันดับ 1
ในช่วง 6 เดือนแรกของปี 2567 (มกราคม - มิถุนายน) ผู้ซื้อสัญชาติจีนยังคงเป็นกลุ่มที่มีหน่วยและมูลค่าการโอนกรรมสิทธิ์ห้องชุดต่างชาติมาเป็นอันดับ 1 มีสัดส่วนร้อยละ 39.5 และร้อยละ 40.1 อันดับ 2 เป็นสัญชาติพม่า มีสัดส่วนร้อยละ 8.8 และร้อยละ 9.9 และผู้ซื้ออันดับ 3 คือ สัญชาติรัสเซีย มีสัดส่วนร้อยละ 7.8 และร้อยละ 5.7 ตามลำดับ นอกจากนี้ยังพบว่า ผู้ซื้อสัญชาติอินเดียเป็นสัญชาติที่มีทั้งมูลค่าการโอนต่อหน่วยมากที่สุดและขนาดห้องใหญ่ที่สุด โดยมูลค่าการโอนต่อหน่วยเฉลี่ย 6.0 ล้านบาทต่อหน่วย และขนาดห้องเฉลี่ย 71.3 ตารางเมตร ส่วนชาวจีนซึ่งเป็นสัญชาติที่มีสัดส่วนการโอนห้องชุดมากที่สุด โดยมีมูลค่าการโอนเฉลี่ย 4.6 ล้านบาทต่อหน่วย และพื้นที่ห้องชุดเฉลี่ย 39.4 ตารางเมตร โดยมีรายละเอียด ดังนี้
จำนวนหน่วย มูลค่า และพื้นที่ห้องชุดที่โอนกรรมสิทธิ์ให้คนต่างชาติ
ภาพรวมสถานการณ์การโอนกรรมสิทธิ์ห้องชุดให้คนต่างชาติทั่วประเทศไตรมาส 2 ปี 2567 พบว่า หน่วยโอนกรรมสิทธิ์ห้องชุดให้คนต่างชาติทั่วประเทศมีจำนวน 3,342 หน่วย ลดลงร้อยละ -6.2 จากช่วงเดียวกันของปีก่อน (YoY)
สำหรับมูลค่าการโอนกรรมสิทธิ์ห้องชุดให้คนต่างชาติทั่วประเทศมีจำนวน 14,874 ล้านบาท ลดลงร้อยละ -17.7 จากช่วงเดียวกันของปีก่อน (YoY) (ดูแผนภูมิที่ 3 - 4) นอกจากนี้ ในมิติของพื้นที่โอนกรรมสิทธิ์ห้องชุดให้คนต่างชาติทั่วประเทศมีจำนวน 152,219 ตารางเมตร ลดลงร้อยละ -8.5 จากช่วงเดียวกันของปีก่อน (YoY)
ดร.วิชัย วิรัตกพันธ์ ผู้ตรวจการธนาคารอาคารสงเคราะห์ และรักษาการผู้อำนวยการศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ เปิดเผยว่า สำหรับสถานการณ์การโอนกรรมสิทธิ์ห้องชุดของคนต่างชาติทั่วประเทศ ในไตรมาส 2 ปี 2567 พบว่า มีจำนวน 3,342 หน่วย ลดลงร้อยละ -6.2 มูลค่า 14,874 ล้านบาท ลดลงร้อยละ -17.7 โดยพื้นที่โอนกรรมสิทธิ์ห้องชุดมีจำนวน 152,219 ตารางเมตร ลดลงร้อยละ -8.5 เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน นอกจากนี้ สัดส่วนของหน่วยและมูลค่าการโอนกรรมสิทธิ์ห้องชุดของคนต่างชาติต่อภาพรวมได้ปรับตัวลดลงเหลือร้อยละ 11.8 และ 21.1 ตามลำดับ โดยปรับลดลงจากไตรมาส 2 ปี 2566 ที่มีสัดส่วนหน่วยและมูลค่าการโอนฯ อยู่ที่ ร้อยละ 13.6 และ 24.6 ตามลำดับ หากพิจารณาลงไปในแต่ละพื้นที่จังหวัด พบว่า หน่วยการโอนกรรมสิทธิ์ห้องชุดของคนต่างชาติในจังหวัดชลบุรีมีสัดส่วนมากเป็นอันดับ 1 สัดส่วนร้อยละ 38.4 ขณะที่กรุงเทพมหานครเป็นอันดับ 2 มีสัดส่วนร้อยละ 36.4 และหากนับรวมทั้ง 2 จังหวัดรวมกันมีสัดส่วนจำนวนหน่วยรวมกันถึงร้อยละ 74.8 และมีมูลค่ารวมกันสูงถึงร้อยละ 80.3 ของการโอนกรรมสิทธิ์ห้องชุดของคนต่างชาติทั่วประเทศ ทั้งนี้มีข้อสังเกตว่า ชลบุรีได้ขยับขึ้นมาเป็นอันดับ 1 ตั้งแต่ปี 2566 ซึ่งมีความแตกต่างจากช่วงปี 2565 ที่กรุงเทพมหานครเคยเป็นจังหวัดที่มียอดโอนกรรมสิทธิ์ของคนต่างชาติมาเป็นอันดับ 1
ในช่วง 6 เดือนแรกของปี 2567 (มกราคม - มิถุนายน) ผู้ซื้อสัญชาติจีนยังคงเป็นกลุ่มที่มีหน่วยและมูลค่าการโอนกรรมสิทธิ์ห้องชุดต่างชาติมาเป็นอันดับ 1 มีสัดส่วนร้อยละ 39.5 และร้อยละ 40.1 อันดับ 2 เป็นสัญชาติพม่า มีสัดส่วนร้อยละ 8.8 และร้อยละ 9.9 และผู้ซื้ออันดับ 3 คือ สัญชาติรัสเซีย มีสัดส่วนร้อยละ 7.8 และร้อยละ 5.7 ตามลำดับ นอกจากนี้ยังพบว่า ผู้ซื้อสัญชาติอินเดียเป็นสัญชาติที่มีทั้งมูลค่าการโอนต่อหน่วยมากที่สุดและขนาดห้องใหญ่ที่สุด โดยมูลค่าการโอนต่อหน่วยเฉลี่ย 6.0 ล้านบาทต่อหน่วย และขนาดห้องเฉลี่ย 71.3 ตารางเมตร ส่วนชาวจีนซึ่งเป็นสัญชาติที่มีสัดส่วนการโอนห้องชุดมากที่สุด โดยมีมูลค่าการโอนเฉลี่ย 4.6 ล้านบาทต่อหน่วย และพื้นที่ห้องชุดเฉลี่ย 39.4 ตารางเมตร โดยมีรายละเอียด ดังนี้
จำนวนหน่วย มูลค่า และพื้นที่ห้องชุดที่โอนกรรมสิทธิ์ให้คนต่างชาติ
ภาพรวมสถานการณ์การโอนกรรมสิทธิ์ห้องชุดให้คนต่างชาติทั่วประเทศไตรมาส 2 ปี 2567 พบว่า หน่วยโอนกรรมสิทธิ์ห้องชุดให้คนต่างชาติทั่วประเทศมีจำนวน 3,342 หน่วย ลดลงร้อยละ -6.2 จากช่วงเดียวกันของปีก่อน (YoY)
สำหรับมูลค่าการโอนกรรมสิทธิ์ห้องชุดให้คนต่างชาติทั่วประเทศมีจำนวน 14,874 ล้านบาท ลดลงร้อยละ -17.7 จากช่วงเดียวกันของปีก่อน (YoY) (ดูแผนภูมิที่ 3 - 4) นอกจากนี้ ในมิติของพื้นที่โอนกรรมสิทธิ์ห้องชุดให้คนต่างชาติทั่วประเทศมีจำนวน 152,219 ตารางเมตร ลดลงร้อยละ -8.5 จากช่วงเดียวกันของปีก่อน (YoY)
สามารถดาวน์โหลดได้ที่นี่
PRESS RELEASE อื่นๆ